อินโดฯ ปลดผอ.เทคนิคไลอ้อนแอร์

ผู้บัญชาการทหารอินโดนีเซียเชื่อพบซากลำตัวเครื่องบินแล้ว ขณะที่ทางการสั่งปลดผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคและเจ้าหน้าที่อีกหลายคนของไลอ้อนแอร์ที่อนุญาตให้เครื่องบินลำดังกล่าวขึ้นบิน นอกจากนั้นยังมีการตั้งคำถามว่า เครื่องบินที่เพิ่งเปิดตัวรุ่นนี้มีข้อบกพร่องที่เฉพาะเจาะจงหรือไม่ ซึ่งรวมถึงความผิดปกติของระบบตรวจวัดระดับความเร็วและความสูง

หน่วยงานค้นหาและกู้ภัยอิเหนายังคงระดมกำลังออกค้นหาอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินของเที่ยวบิน JT610 เพื่อไขสาเหตุการตก โดยในวันพุธ (31 ตุลาคม) พลอากาศเอก ฮาดิ เตียห์จันโต ผู้บัญชาการกองทัพอินโดนีเซีย ให้สัมภาษณ์แสดงความเชื่อมั่นว่า เทคโนโลยีโซนาร์ตรวจพบตำแหน่งลำตัวเครื่องโบอิ้ง 737 แม็กซ์ ของ สายการบินไลอ้อนแอร์ลำนี้ ที่ตกทะเลชวาพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 189 คนเมื่อวันจันทร์ (29) แล้ว

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยด้านการขนส่งเผยว่า ทีมประดาน้ำถูกส่งลงไปตรวจสอบเพื่อยืนยันที่มาของสัญญาณ “ปิง” ที่ทีมค้นหาและกู้ภัยพบเมื่อคืนวันอังคาร (30) ซึ่งอาจจะมาจาก “กล่องดำ” ของเครื่องบินลำนี้

ทางด้าน นาวาเอก แฮริส โจโค นูโกรโฮ ให้สัมภาษณ์บนเรือเคอาร์ไอ ไรเจล ของกองทัพเรืออินโดนีเซียว่า พบวัตถุที่มีความยาว 22 เมตรใต้น้ำที่ความลึก 32 เมตร และได้ใช้ระบบโซนาร์เพื่อระบุตำแหน่ง รวมทั้งส่งประดาน้ำลงไปตรวจยืนยัน

เรือไรเจลทำการค้นหาในบริเวณ 5 ไมล์ทะเลจากจุดที่เครื่องบินขาดการติดต่อ

ขณะเดียวกัน คาดว่า ทีมเจ้าหน้าที่ของโบอิ้งจะเข้าหารือกับผู้บริหารไลอ้อนแอร์ในวันพุธ โดยที่ก่อนหน้านี้อินโดนีเซียสั่งตรวจสอบเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ทั้งหมดที่ใช้งานอยู่ในประเทศ

เครื่องบินลำที่ตกคราวนี้ เพิ่งนำออกให้บริการเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่เครื่องกำลังมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางเมืองปังกัลปีนัง แต่ทว่าหลังออกจากสนามบินจาการ์ตาเพียง 13 นาที นักบินได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินเพื่อขอนำเครื่องบินกลับ ก่อนที่จะขาดการติดต่อและตกลงไปในทะเลชวา ห่างจากชายฝั่งไม่ไกลนัก

ในวันพุธ กระทรวงคมนาคมได้สั่งปลดผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค และเจ้าหน้าที่อีกหลายคนของไลอ้อนแอร์ที่อนุญาตให้เครื่องบินลำดังกล่าวขึ้นบิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่ภาครัฐสั่งปลดเจ้าหน้าที่ในฝั่งเอกชน

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สอบสวนยังเตรียมสอบปากคำนักบินที่ขับเครื่องบินลำที่ประสบเหตุนี้ ในเที่ยวบินก่อนหน้า นั่นคือบินจากบาหลีไปยังจาการ์ตาเมื่อวันอาทิตย์ (28)

แม้ผู้เชี่ยวชาญการบินกล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะระบุสาเหตุของอุบัติเหตุ แต่ไลอ้อนแอร์ระบุว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีปัญหาทางเทคนิคบางประการในเที่ยวบินเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งรวมถึง “ความเร็วของเครื่องบินที่เชื่อถือไม่ได้” นอกจากนั้นการที่เครื่องดิ่งหัวลงปุบปับหลังขึ้นจากสนามบินเพียง 13 นาที ยังทำให้เกิดคำถามว่า เครื่องบินโบอิ้งรุ่นนี้ที่เพิ่งเปิดตัวมาไม่นาน มีข้อบกพร่องที่เฉพาะเจาะจงหรือไม่ ซึ่งรวมถึงความผิดปกติของระบบตรวจวัดระดับความเร็วและระดับความสูง

รัสดี กิรนา เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำมาเลเซียและผู้ร่วมก่อตั้งไลอ้อนแอร์ เคยให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2015 ยอมรับว่า ไลอ้อนแอร์เป็นสายการบินที่ย่ำแย่ที่สุดในโลก

สายการบินต้นทุนต่ำแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 ในจังหวะที่อุตสาหกรรมการบินของอินโดนีเซียกำลังเฟื่องฟู แต่ขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยปัญหาและข้อร้องเรียนด้านความปลอดภัยและตารางบินที่เชื่อถือไม่ได้ รวมถึงบริการไร้คุณภาพ

สำหรับไลอ้อนแอร์นั้นประสบอุบัติเหตุมาหลายครั้ง รวมถึงในปี 2004 ที่มีผู้เสียชีวิต และยังเกิดเหตุเครื่องบินของสายการบินนี้ 2 ลำเฉี่ยวชนกันเองในสนามบินซูการ์โน-ฮัตตา

ด้าน แดเนียล ปูตุต กรรมการผู้จัดการไลอ้อนแอร์กล่าวว่า สายการบินมีข้อสงสัยมากมายที่จะซักถามโบอิ้ง รวมทั้งจะหารือเรื่องการส่งมอบเครื่อง 737 แม็กซ์ที่ยังค้างอยู่ในคำสั่งซื้อ จากจำนวนทั้งหมด 10 ลำ รวมมูลค่า 6,240 ล้านดอลลาร์

รายงานระบุว่า โบอิ้งระงับการส่งมอบ 737 แม็กซ์ล็อตแรกในนาทีสุดท้ายเมื่อปีที่แล้วเนื่องจากปัญหาเครื่องยนต์ อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาเครื่องบินลำตัวแคบรุ่นนี้ได้รับการแก้ไขและเริ่มจัดส่งได้ โดยปัจจุบันได้รับคำสั่งซื้อหลายพันลำจากลูกค้ากว่า 10 รายทั่วโลก

ความคิดเห็น

comments