แม่ทัพภาค 4 มุ่งแก้ปัญหายาเสพติด ลดความทุกข์ใจของพี่น้อง จชต.

แม่ทัพภาค 4 มุ่งมั่นแก้ปัญหายาเสพติด ความทุกข์ใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ควบคู่การทำพื้นที่ให้ปลอดภัย เอื้อต่อการพูดคุยสันติสุข

วันพฤหัสบดี (8 พฤศจิกายน) ที่ห้องประชุม (1) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ร่วมพบปะ พัฒนาสัมพันธ์กับสื่อมวลชนทุกสาขา ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อร่วมหารือ แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ตอบข้อซักถาม ประสานความร่วมมือในการนำเสนอข่าวในเชิงสร้างสรรค์ พร้อมทั้งชี้แจงนโยบายการการขับเคลื่อนดำเนินงาน ของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อแก้ปัญหา และพัฒนาพื้นที่ จชต. โดยมี หน่วยงานต่างๆ ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รวมทั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมชี้แจง

พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เปิดเผยว่า สำหรับการทำงานของตนเอง ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 จะยึดกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของรัฐบาลมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน และตนเองมีความความตั้งใจและมุ่งมั่น ที่จะแก้ไขปัญหาสำคัญซึ่งเป็นความทุกข์ใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ คือ ปัญหายาเสพติดควบคู่ไปกับการควบคุมพื้นที่ให้ปลอดภัย เพื่อให้เอื้อต่อการพูดคุยสันติสุข ซึ่งกำลังมีความคืบหน้าไปด้วยดี และคาดว่าจะบรรลุผลในอนาคตอันใกล้

สำหรับการแก้ไขปัญหายาเสพติดนั้นที่ผ่านมา ได้มีโอกาสพบปะและพูดคุย กับพี่น้องประชาชน ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น รวมทั้งผู้นำศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุกคนมีความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญที่สุดจำเป็นต้องแก้ไขในทันที จึงได้กำหนดเป็นงานเร่งด่วนในห้วง 3 เดือนแรกของการทำงาน และเดินหน้าวางแผนปฏิบัติการในทันที โดยใช้กลไกของศูนย์ปฏิบัติการร่วม หรือ ศปร. ทั้ง 37 อำเภอ ซึ่งมีนายอำเภอเป็นผู้รับผิดชอบหลักร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในขั้นแรกเป็นขั้นเตรียมการเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ และประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี นอกจากนั้น ยังได้เตรียมการในเรื่องฐานข้อมูล และการจัดวางระบบการติดต่อสื่อสาร และการอำนวยการของศูนย์ปฏิบัติการร่วม ให้สามารถปฏิบัติงานได้ ตลอด 24 ชั่วโมง

ปัจจุบันได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว และได้เดินหน้าในขั้นที่ 2 ซึ่งเป็นขั้นการปฏิบัติการ ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ปัจจุบันได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ค้าไปแล้ว จำนวนกว่าสองพันราย รวมทั้งผู้เสพที่ขึ้นบัญชี และต้องเข้าสู่กระบวนการบำบัด ซึ่งจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยยึดหลักกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด และก่อนจะดำเนินการได้ปัดกวาดบ้านของตัวเองให้ดีเสียก่อน พร้อมทั้งจัดตั้งคณะกรรมการร่วมกัน เพื่อลงไปตรวจสอบ โดยมีการตรวจปัสสาวะของกำลังพลทหาร ตำรวจทุกนาย

สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดเช่นกัน ซึ่งการแก้ไขปัญหาทั้งหมดนี้จำเป็นต้องได้รับแรงสนับสนุนจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องสื่อมวลชนที่จะช่วยกันปลุกกระแสให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่มีความตื่นตัว และเข้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เกิดผลสำเร็จต่อไป

แม่ทัพภาค 4 ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของการควบคุมพื้นที่ให้มีความปลอดภัยนั้น ได้เน้นย้ำให้กำลังพลปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเท เสียสละ โดยในส่วนของยุทธวิธี ได้เน้นให้กำลังพลออกไปปฏิบัติการลาดตระเวน และนอนนอกฐาน เพื่อดูแลพื้นที่ให้ได้อย่างทั่วถึง และนำกำลังประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในปฏิบัติงาน ดูแลความปลอดภัยของพื้นที่ หมู่บ้าน ชุมชน ของตนเองให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพื้นที่อีกด้วย

สำหรับการพูดคุยสันติสุขนั้น รัฐบาลได้แต่งตั้งให้พลเอก อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นหัวหน้าคณะพูดคุย โดยมีรัฐบาลมาเลเซีย เป็นผู้อำนวยความสะดวกนั้น ปัจจุบันมีความคืบหน้าไปพอสมควร ส่วนในระดับพื้นที่ซึ่งตนเองรับดูแลรับผิดชอบจะมุ่งเน้นการควบคุมพื้นที่ ไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงเพื่อสร้างสภาพแวดล้อม ให้เอื้ออำนวยต่อการพูดคุยสันติสุขดังกล่าว นอกจากนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มผู้เห็นต่าง และภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ ซึ่งรวมถึงพี่น้องสื่อมวลชนต่าง ๆ ด้วย

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า มุ่งหวังที่จะเห็นพี่น้องสื่อมวลชนได้เข้าถึงข้อมูลในพื้นที่อย่างถูกต้องตามความเป็นจริง และสามารถที่จะสื่อไปถึงพี่น้องประชาชน ทั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ รวมทั้งพื้นที่ต่างประเทศ โดยเป็นไปในทิศทางที่จะส่งผลดีต่อภาพรวมในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้เกิดสันติสุขโดยเร็ว

ที่มา : สทท.ยะลา

ความคิดเห็น

comments