ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้จัดงานวันสื่อสันติภาพชายแดนใต้ปาตานี ครั้งที่ 2 ครบรอบ 2 ปี การเจรจา ฝ่ายเห็นต่างเสนอรัฐ 9 ข้อในการเจรจา
วานนี้( 28 ก.พ.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ นำโดย ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ ร่วมกับ เครือข่ายภาคประชาสังคม จัดงานวันสื่อสันติภาพชายแดนใต้ปาตานี ครั้งที่ 2 ภายใต้ชื่อว่า“สันติ(ที่มองเห็น)ภาพ และถือเป็นวันครบรอบ 2 ปีของการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทย และฝ่ายขบวนการ BRN ที่เริ่มต้นครั้งแรกที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 กพ.56
ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ก็เพื่อเปิดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในกระบวนการสร้างสันติภาพ และการแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการที่ไมใช้ความรุนแรง โดยเปิดพื้นที่สาธารณะให้ภาคประชาสังคมและผู้มีผลได้เสียจากสถานการณ์ความแย้งที่มีการใช้ความรุนแรง ได้หาแนวทางร่วมกันและแสดงเจตจำนนในการสร้างขบวนการสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีกงสุลใหญ่มาเลเซียประจำจังหวัดสงขลา หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำศาสนา นิสิต นักศึกษา และประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
ฃนอกจากนี้ภายในงานยังจัด พูดคุยลยปาฐกเพื่อเป็นการเปิดเวทีพูดคุยแลกเปลี่ยนระหว่างเจ้าหน้าที่ภาครัฐ นำโดย พล.ต.ชินวัฒน์ แม้นเดช ผู้อำนวยการศูนย์สันติสุขกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กับ นาย อาบูฮาฟิส อัลฮากิม ผู้ที่มีความเห็นต่างจากรัฐ ภายใต้หัวข้อ ว่าด้วย“ภาพ”การพูดคุยสันติภาพรอบใหม่ ซึ่งการพูดคุยกันในครั้งนี้ ทางผู้ที่มีความคิดเห็นต่างจากรัฐได้ยื่นข้อเสนอ 9 ข้อให้กับรัฐบาลไทย และกลุ่มขบวนการที่จะเข้ามาร่วมเจรจาในครั้งต่อไป
คือ 1.เป้าหมายหลักของกระบวนการพูดคุยสันติภาพไม่ควรเพ่งเน้นเพียงแค่ลดความรุนแรงเท่านั้นแต่ควรสำรวจหาสาเหตุจากรากเหง้า และเหตุผลว่าทำไมชาวปัตตานีจึงจำต้องหยิบอาวุธต่อสู้กับการปกครองของไทย
2.ทางออกทางการเมืองใด ๆ ไม่ควรเอื้อประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แง่มุมใดแง่มุมหนึ่งหรือเป็นทางออกชั่วคราวเท่านั้น แต่เป็นทางออกที่เป็นธรรมครอบคลุมและยั่งยืน
3.แต่ละฝ่ายพึงนั่งลงที่โต๊ะพูดคุยอย่างมือเปล่า กล่าวคือปราศจากเงื่อนไขตั่งแง่ที่อาจจะทำให้อีกฝ่ายประสบความยากลำบากหรือตกที่สภาวะที่เสียเปรียบ
4.กระบวนการพูดคุยควรเริ่มต้นด้วยมาตรการเสริมสร้างความไว้วางใจและค่อย ๆ เดินหน้าอย่างช้า ๆ ต่อเมื่อ 2 ฝ่ายพร้อมโดยปราศจากการเร่งรัด กดดันโดยมีความจริงในน่าเชื่อถือต่อกันและกัน
5.แนวทางการดำเนินการหรือโรดแมปควรร่างรวมกันทั้ง 2 ฝ่าย ที่เกียวข้องในกากระบวนการพูดคุยโดยตรง กล่าวคือไม่กำหนดจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือฝ่ายอื่นๆ โดยมีฝ่ายที่ 3 (ผุ้อำนวยความสะดวก) คอยสังเกตการณ์และอำนวยความสะดวก เพื่อให้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในขั้นตอนต่อไป
6.ทั้ง 2 ฝ่ายจะหารือและตกลงบนกรอบอ้างอิงพื้นฐานบางประการ ซึ่งจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ตลอดทั้งกระบวนการพูดคุยภายในกรอบเวลาที่มีเหตุผลอันสมควรในทุกประเด็นและในทุกขั้นตอน
7.ทั้ง 2ฝ่ายจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและตกลงกันเกี่ยวกับมาตรการเชิงปฏิบัติเพื่อลดความรุนแรงและปะทะกันโดยใช้อาวุธตามด้วยข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวหรือจำกัดขอบเขตโดยมีการแต่งตั้งคณะเฝ้าระวังและตรวจสอบโดยได้รับการยอมรับทั้ง2 ฝ่าย
8.เริ่มต้นการพูดคุยสันติภาพบนสถานะที่เท่าเทียมกันตามเงื่อนไขและบรรทัดฐานที่นานาชาติยอมรับ และ
9. ข้อตกลงหยุดยิงถาวรจะบรรลุถึงได้ ด้วยการลงนามในข้อตกลงสันติภาพ