จีนกวาดจับคนซินเจียง 13,000 ในรอบ 5 ปี

หน่วยงานในจีนเปิดเผยว่าได้จับกุมประชาชนในเขตซินเจียงเกือบ 13,000 คนนับตั้งแต่ปี 2014 ตามการเปิเผยในวันจันทร์(18 มีนาคม) ในหนังสือนโยบายที่ปกป้องมาตรการลดสิ่งที่จีนอ้างเป็นแนวคิดอิสามสุดโต่ง

ผู้เชี่ยวชาญขององค์การสหประชาชาติชี้ว่าจีนได้ก่อสร้างศูนย์กักกันที่ควบคุมชาวอุยกูร์ และชาวมุสลิมกลุ่มอื่นๆ มากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งจีนอ้างว่าค่ายกักกันเหล่านี้มีไว้เพื่อยับยั้งภัยคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ และเรียกค่ายกักกันเหล่านี้ว่าเป็นศูนย์ฝึกอมรบชั่วคราว

หน่วยงานด้านกฎหมายได้ใช้นโยบายที่ “รักษาความสมดุลระหว่างการประนีประนอม และความเข้มงวด” จีนระบุในสมุดปกขาว

ทางการจีนอ้างว่านับตั้งแต่ปี 2014 ได้ทำลายแก๊งก่อความรุนแรง และแก๊งก่อการร้าย 1,588 กลุ่ม จับกุมผู้ก่อการ้าย 12,995 คน ยึดวัตถุระเบิด 2,052 ชิ้น ลงโทษคน 30,645 คนฐานดำเนินกิจกรรมทางศาสนาผิดกฎหมาย 4,858 กิจกรรม และยึดสำเนาเนื้อหาศาสนาผิดกฎหมาย 345,229 ชิ้น ในเขตซินเจียง

สมุดปกขาวของจีนยังอ้างอีกว่า มีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับบทลงโทษหนักหน่วงเช่น หัวหน้ากลุ่มก่อการ้าย พร้อมยอมรับเป็นนัยว่าผู้ที่ถูกปลูกฝั่งแนวคิดสุดโต่งจะได้รับการศึกษาและการฝึกฝนเพื่อให้รู้ถึงความไม่ถูกต้องของในเส้นทางนี้

ด้านสภาอุยกูร์โลก (World Uyghur Congress) ออกมาประณามสมุดปกขาวเล่มนี้ในทันที

“จีนเจตนาบิดเบือนความจริง” ดิลแซต ราซิต โฆษกกลุ่ม กล่าวในคำแถลงทางอีเมล

“การต่อต้านการก่อการร้ายเป็นข้ออ้างทางการเมืองเพื่อกดขี่ชาวอุยกูร์ เป้าหมายแท้จริงของการลดการปลูกฝังแนวคิดสุดโต่งคือการกำจัดความเชื่อ และดำเนินการกลืนกินวัฒนธรรม”

สมุดปกขาวเล่มนี้ ระบุว่า ซินเจียงเผชิญความท้าทายผิดปกตินับตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน ปี 2001 ที่มีการโจมตีก่อการร้ายในสหรัฐฯ เนื่องจากกลุ่มสุดโต่งชาวเตอร์กิสถานตะวันออกยกระดับกิจกรรมในจีน โดยจีนอ้างว่ากลุ่มหัวรุนแรงและแบ่งแยกดินแดนเหล่านี้เคลื่อนไหวอยู่ในซินเจียง

“พวกเขาตะโกนคำว่า ‘จงขึ้นสวรรค์ด้วยการตายแบบญิฮาด’ เปลี่ยนบางคนให้กลายเป็นคนหัวรุนแรง และผู้ก่อการร้ายซึ่งถูกล้างสมองอย่างสมบูรณ์ และเปลี่ยนไปเป็นแม้กระทั่งปีศาจฆ่าคน” สมุดปกขาวจีนระบุ

สมุดปกขาวของจีนยังระบุอีกว่าแนวคิดสุดโต่งทางศาสนาภายใต้ชื่ออิสลามขัดกับหลักคำสอนของอิสลาม และไม่ใช่อิสลาม

สมุดของจีนยังพยายามเบียงเบียนความเป็นเชื้อชาติเติร์กของชาวอุยกูร์ โดยอ้างว่าซินเจียงเป็นส่วนหนึ่งของจีนอย่างไม่อาจแบ่งแยกได้ และกลุ่มชนชาติอุยกูร์พัฒนาขึ้นจากกระบวนการอพยพและการผสมผสานทางเชื้อชาติอันยาวนานพวกเขาไม่ใช่ลูกหลานของชาวเติร์ก

ความคิดเห็น

comments