ยิวรื้อบ้านชาวปาเลสไตน์ใน ‘เยรูซาเลม’ ใกล้กำแพงกั้นเวสต์แบงค์

กองกำลังอิสราเอลได้รื้อทำลายบ้านเรือนชาวปาเลสไตน์ทางตอนเหนือของเยรูซาเล็มที่อิสราเอลกล่าวหาว่าสร้างขึ้นอย่างผิดกฎหมายอิสราเอล ใกล้กำแพงกั้นเขตเวสต์แบงค์เมื่อวันจันทร์ (22 กรกฎาคม) ในความเคลื่อนไหวล่าสุดที่สร้างความหวั่นวิตกต่อนานาชาติ และเป็นการดำเนินการที่ขัดต่อข้อตกลงสันติภาพ

ชาวปาเลสไตน์ต่างประณามการรื้อถอนบ้านเรือนในหมู่บ้านซูร์บาเฮอร์ (Sur Baher) ซึ่งตั้งอยู่ตรงชานนครเยรูซาเลมฝั่งตะวันออก ขณะที่ทางการอิสราเอลอ้างว่ามาตรการนี้จำเป็นต่อความมั่นคง

ก่อนรุ่งสางวันจันทร์ (22) AFP รายงานว่ามีตำรวจ และทหารอิสราเอลหลายร้อยนายเข้าปิดล้อมอาคารอย่างน้อย 4 หลังใกล้ๆ กับแนวกำแพงความมั่นคงซึ่งกั้นเขตเวสต์แบงค์

เจ้าหน้าที่อิสราเอลไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปใกล้อาคารดังกล่าว ขณะที่ชาวปาเลสไตน์และนักเคลื่อนไหวหลายคนถูกฉุดกระชากออกมาจากบ้าน จากนั้นจึงมีการส่งรถตักดินเข้าไปรื้อทำลายอาคารอย่างน้อย 3 หลัง ซึ่ง 2 ใน 3 ยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง

ชายปาเลสไตน์คนหนึ่งร้องตะโกนขึ้นมาว่า “ผมต้องการตายที่นี่” แต่ก็ถูกลากตัวออกจากจุดรื้อถอน 

เจ้าหน้าที่ยิวอ้างว่าอาคารเหล่านี้สร้างอยู่ใกล้เกินไปกับกำแพงความมั่นคงซึ่งอิสราเอลสร้างขึ้นด้วยข้ออ้างป้องกันการโจมตีจากเขตเวสต์แบงค์ ขณะที่ชาวปาเลสไตน์ชี้ว่าอิสราเอลอ้างเรื่องความมั่นคงเพื่อขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากพื้นที่ ตามแผนการขยายถิ่นฐานและตัดถนนเชื่อมชุมชนชาวยิวในดินแดนของชาวปาเลสไตน์

ชาวปาเลสไตน์ยังระบุด้วยว่า อาคารส่วนใหญ่ที่ถูกรื้อถอนตั้งอยู่ในเขตที่อยู่ภายใต้การควบคุมขององค์การบริหารแห่งชาติปาเลสไตน์ (Palestinian Authority) ตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย 

วาลิด อาซาฟ รัฐมนตรีปาเลสไตน์ซึ่งมีหน้าที่เฝ้าติดตามการขยายถิ่นฐานชาวยิว ชี้ว่าการรื้อถอนบ้านเรือนครั้งนี้ละเมิดข้อตกลงทุกฉบับที่ทั้ง 2 ฝ่ายเคยลงนามกันไว้ และเป็น “การรื้อถอนที่อันตรายและใหญ่หลวงที่สุด นอกเหนือจากปฏิบัติการในสงคราม”โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ “ตัดขาดเยรูซาเลมจากเบธเลเฮม (ทางตอนใต้ของเวสต์แบงค์)” 

กิลาด เออร์ดัน รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของอิสราเอล ออกมากล่าวหาฝ่ายปาเลสไตน์ว่า “พูดโกหก” พร้อมอ้างว่าการรื้อถอน(บ้านเรือนชาวปาเลสไตน์ในดินแดนปาเลสไตน์)เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลสูงสุดอิสราเอล

“อาคารเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นอย่างผิดกฎหมายใกล้แนวกำแพงความมั่นคง และก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิตพลเรือนและกองกำลังความมั่นคง” เออร์ดัน ทวีตข้อความโดยยกคำพิพากษาศาลสูงสุดอิสราเอลมาอ้าง พร้อมยืนยันว่าปฏิบัติการรื้อถอนจะแล้วเสร็จภายใน 1 วัน

อิสราเอลได้เข้ายึดครองเวสต์แบงค์และเยรูซาเลมฝั่งตะวันออกในสงคราม 6 วันเมื่อปี 1967 ก่อนจะประกาศผนวกเยรูซาเลมตะวันออกโดยไม่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ

รัฐบาลยิวเริ่มก่อสร้างกำแพงขึ้นระหว่างที่เกิดการลุกฮือต่อต้าน (อินติฟาเฎาะฮ์) ครั้งที่ 2 ของชาวปาเลสไตน์ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 โดยอ้างว่าจำเป็นต้องป้องกันอิสราเอลจากการถูกโจมตี

แต่ชาวปาเลสไตน์ชี้ว่ากำแพงนี้เป็นกำแพงแห่งการแบ่งแยกเชื้อชาติ (apartheid wall)

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมาชาวปาเลวไตน์ในเขตซูร์บาเฮอร์ได้รับหมายล่วงหน้า 30 วันว่ารัฐบาลอิสราเอลกำลังจะเข้ารื้อถอนบ้านเรือนของพวกเขา

สำนักงานด้านการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) ระบุว่า คำพิพากษาศาลสูงสุดอิสราเอลส่งผลกระทบต่ออาคาร 10 หลังทั้งที่สร้างเสร็จแล้วและอยู่ระหว่างก่อสร้าง รวมถึงห้องพักราวๆ 70 ห้อง

UN เตือนว่า มาตรการรื้อทำลายบ้านเรือนของอิสราเอลจะทำให้ชาวปาเลสไตน์ 17 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย และมีผู้ได้รับผลกระทบอีกราว 350 คน

ชาวบ้านในพื้นที่เกรงว่าอาคารอีก 100 หลังในพื้นที่อาจถูกอิสราเอลรื้อทิ้งทั้งหมดในอนาคตอันใกล้

ความคิดเห็น

comments