“ญี่ปุ่น” แก้ กม.เปิดทางอุดหนุนภารกิจกองกำลังต่างชาติ “ที่มิใช่การสู้รบ”

รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแก้ไขกฎบัตรว่าด้วยการสนับสนุนต่างชาติวันนี้ (10 ก.พ.) โดยเปิดทางให้แดนอาทิตย์อุทัยสามารถมอบทุนสนับสนุนภารกิจของกองกำลังต่างชาติ “ที่มิใช่การสู้รบ” (non-military operations)

กฎบัตรดังกล่าวยังคงย้ำนโยบายดั้งเดิมของโตเกียวที่จะไม่ให้ความช่วยเหลือด้านการทหารแก่ต่างชาติ ทว่าการอุดหนุนภารกิจที่มิใช่การสู้รบ เช่น งานบรรเทาภัยพิบัติ จะได้รับพิจารณาเป็นกรณีไป

เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาโตเกียวได้ขยายขอบเขตความช่วยเหลือลักษณะนี้อยู่แล้ว แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกที่นโยบายดังกล่าวจะถูกบัญญัติลงในกฎบัตรอย่างเป็นทางการ

การปรับนโยบายของญี่ปุ่นครั้งนี้ทำให้มีกระแสกังวลว่า ความช่วยเหลือที่ญี่ปุ่นมอบแก่ต่างชาติอาจถูกนำไปใช้เพื่อกิจกรรมทางทหารในที่สุด

“รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนดวัตถุประสงค์ของเงินช่วยเหลือเอาไว้ชัดเจน เช่น เพื่อบรรเทาภัยพิบัติ โดยประเทศที่รับความช่วยเหลืออาจจะนำเงินเหล่านั้นไปจัดซื้อรถบรรทุกหรือเฮลิคอปเตอร์ แต่ปัญหาก็คือ เราไม่อาจรับประกันได้ว่าทรัพยากรที่จัดซื้อมาจะถูกนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์ที่เราตั้งใจเท่านั้นหรือไม่” โยอิจิ อิชิอิ ศาสตราจารย์เกียรติคุณจากมหาวิทยาลัยคานางาวะ ตั้งข้อสังเกต

“เราทำได้เพียงตรวจสอบว่ามีการนำเงินไปซื้ออะไรบ้าง ทว่าในแง่ของการใช้งาน มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแยกแยะระหว่างภารกิจทางทหาร กับสิ่งที่ไม่ใช่”

นายกรัฐมนตรีอาเบะ มุ่งมั่นที่จะยกระดับศักยภาพด้านความมั่นคงของญี่ปุ่น และได้ออกกฎหมายฉบับหนึ่งในปีนี้เพื่อปูทางไปสู่การตีความรัฐธรรมนูญฉบับสันติภาพเสียใหม่ และนั่นหมายความว่า ญี่ปุ่นอาจจะสามารถส่งกองกำลังออกไปช่วยเหลือชาติพันธมิตรและสู้รบในต่างแดนได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2

กฎบัตรว่าด้วยความช่วยเหลือต่างชาติซึ่งมีการปรับแก้เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี และผ่านการอนุมัติจากรัฐบาลอาเบะแล้ว ยังขยายขอบเขตความช่วยเหลือด้านการพัฒนาต่อประเทศที่ร่ำรวยด้วย

ท่าทีของญี่ปุ่นมีขึ้นหลังจากที่จีนประกาศขยายความช่วยเหลือต่อต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศแอฟริกาซึ่งรุ่มรวยทรัพยากรธรรมชาติ

ญี่ปุ่นเป็นชาติผู้บริจาครายใหญ่อันดับ 4 ของโลกรองจากสหรัฐฯ อังกฤษ และเยอรมนี ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ฟูมิโอะ คิชิดะ ยอมรับว่า โครงการสนับสนุนด้านการพัฒนาถือเป็น “เครื่องมือทางการทูตที่สำคัญที่สุด” ของแดนปลาดิบเลยก็ว่าได้

ความคิดเห็น

comments

ใส่ความเห็น