อดีตนักวิทยาศาสตร์ประจำห้องปฏิบัติการแห่งชาติ ลอส อามอส ในรัฐนิวเม็กซิโก สัญญาว่าจะผลิต “ระเบิดนิวเคลียร์” ให้รัฐบาลเวเนซุเอลาถึง 40 ลูกภายในระยะเวลา 10 ปี และคิดค้นระเบิดเพื่อใช้โจมตีนครนิวยอร์ก ขอเพียงได้ “อำนาจและเงิน” เป็นสิ่งตอบแทน เทปลับของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ที่ถูกเผยแพร่เมื่อวานนี้(28) ระบุ
เปโดร ลีโอนาร์โด มัสเกโรนี นักวิทยาศาสตร์เชื้อสายอาร์เจนตินาซึ่งทำงานอยู่ที่ศูนย์วิจัยนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ได้ทำสัญญากับเจ้าหน้าที่เอฟบีไอซึ่งปลอมตัวเป็นคนจากรัฐบาลเวเนซุเอลา โดยระบุว่า เขาจะช่วยผลิตระเบิดนิวเคลียร์เพื่อป้องกันดินแดนซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ในละตินอเมริกาจากการรุกรานของสหรัฐฯ และยังโอ้อวดกับภรรยาด้วยว่า การขายเทคโนโลยีลับเฉพาะจะช่วยให้ตนเป็นมหาเศรษฐี
“ผมจะได้มีทั้งเงินและอำนาจ… ผมไม่ใช่คนอเมริกันอีกต่อไปแล้ว”
มัสเกโรนี ซึ่งได้สัญชาติอเมริกัน กล่าวว่า ระเบิดที่จะใช้โจมตีนิวยอร์กไม่ทำให้ใครเสียชีวิต แต่จะทำลายระบบจ่ายไฟฟ้าของเมือง และช่วยให้เวเนซุเอลากลายเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์
เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบแน่ว่า แนวคิดเรื่องการวางระเบิดนิวยอร์กของ มัสเกโรนี เป็นไปได้จริงมากน้อยแค่ไหน แต่นักวิทยาศาสตร์วัย 79 ปี กล่าวว่า เมื่อใดที่เวเนซุเอลาได้ครอบครองระเบิดนิวเคลียร์ “ก็ควรนำออกมาใช้ทันที เพื่อให้โลกได้รู้ว่าเรามีเหมือนกัน”
ศาลแขวงเมืองอัลบูเคอร์กีตัดสินจำคุก มัสเกโรนี เป็นเวลา 5 ปี และให้ควบคุมสอดส่องความประพฤติอีกเป็นเวลา 3 ปีหลังปล่อยตัว
มัสเกโรนี และภรรยาของเขา มาร์จอรี ร็อกซ์บี มัสเกโรนี ยอมรับสารภาพในปี 2013 ว่า เคยเสนอจะช่วยพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ให้รัฐบาลเวเนซุเอลา โดยทำข้อตกลงกับเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่ปลอมตัวเป็นผู้แทนจากกรุงการากัส
ภรรยาของเขาถูกจำคุก 1 ปีกับอีก 1 วัน ฐานสมรู้ร่วมคิดกับสามีขายความลับนิวเคลียร์ของชาติ
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ได้กล่าวหาว่าเวเนซุเอลาพยายามจะขโมยข้อมูลลับดังกล่าว
เฟร็ด เฟเดริชี อัยการรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เปิดเผยว่า แม้จะมีหลักฐานมัดตัวแน่นหนาและยอมทำข้อตกลงรับสารภาพแล้ว แต่ เปโดร มัสเกโรนี ยังอ้างว่าตนไม่ได้กระทำความผิด และเป็นเพียง “เหยื่อ” ที่ถูกรัฐบาลวอชิงตันล่อลวง หลังจากที่ตนเคยวิพากษ์วิจารณ์นโยบายนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ มาก่อน
นักวิทยาศาสตร์ผู้นี้บอกกับผู้พิพากษาว่า สิ่งที่เขาเปิดเผยกับเจ้าหน้าที่เอฟบีไอเป็นเพียงข้อมูลที่มีเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต หรือไม่ก็ “ยกเมฆ” ขึ้นมาทั้งนั้น
“มันก็เหมือนผมขายรถเก่าใช้แล้วนั่นแหละ… สิ่งที่ผมขายก็แค่นิยายแนววิทยาศาสตร์”
มัสเกโรนี ให้สัมภาษณ์กับเอพีว่า เขาตัดสินใจหันไปพึ่งรัฐบาลเวเนซุเอลา หลังถูกสหรัฐฯปฏิเสธทฤษฎีที่ว่า ไฮโดรเจนฟลูออไรด์เลเซอร์สามารถใช้ผลิตพลังงานนิวเคลียร์ได้
มัสเกโรนี ทำงานอยู่กับแผนกออกแบบอาวุธนิวเคลียร์ของห้องปฏิบัติการแห่งชาติ ลอส อามอส ตั้งแต่ปี 1979 ก่อนจะถูกไล่ออกเมื่อปี 1988 ส่วนภรรยาเป็นนักเขียนบทความด้านเทคนิคซึ่งทำงานอยู่ที่นั่นระหว่างปี 1981-2010
