ชาวพุทธหัวรุนแรงในรัฐยะไข่ของพม่ากำลังวางแผนที่จะจัดชุมนุมประท้วงต่อต้านความเคลื่อนไหวที่ช่วยเหลือผู้อพยพสิ้นหวังที่พบลอยเรือยู่ในอ่าวเบงกอลหรือมนุษย์เรือซึ่งมีทั้งชาวโรฮิงญาซึ่งเป็นเหยื่อการใช้ความรุนแรงในรัฐยะไข่ และชาวบังกลาเทศที่ต้องหารไปหางานทำในต่างประเทศ
รัฐยะไข่ หนึ่งในรัฐที่ยากจนที่สุดของพม่า ตกอยู่ในความตึงเครียดระหว่างชุมชนชาวพุทธที่ใช้ความรุนแรงโจมตีชุมชนของชาวมุสลิมโรฮิงญาจนทำให้หลายคนต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในค่ายผู้พลัดถิ่นหลังเหตุหลังบ้านเรือนถูกเผาเมื่อปี 2555
ชาวโรฮิงญาหลายหมื่นคนได้หลบหนีออกจากพม่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้ พร้อมกับผู้อพยพชาวบังกลาเทศที่หนีความยากจน ซึ่งส่วนใหญ่มุ่งหน้าไปยังมาเลเซียและอินโดนีเซีย
การหลั่งไหลของผู้คนเป็นจำนวนมากถูกเพิกเฉยเป็นส่วนใหญ่จนกระทั่งการปราบปรามการค้ามนุษย์ในไทยเมื่อเดือนก่อนที่ก่อให้เกิดความโกลาหลเมื่อขบวนการค้ามนุษย์ทิ้งคนไว้ทั้งบนบกและในทะเล
ผู้อพยพชาวโรฮิงญาและบังกลาเทศราว 4,500 คน ได้ขึ้นฝั่งประเทศในภูมิภาค ขณะที่สหประชาชาติประเมินว่ายังมีอีกประมาณ 2,000 คน ที่ยังติดอยู่กลางทะเล
หลังปิดหูปิดตามานานหลายปีต่อเหตุการณ์การอพยพของผู้คน กองทัพเรือพม่าพบเรือ 2 ลำ พร้อมผู้อพยพมากกว่า 900 คน ที่ถูกนำตัวมายังรัฐยะไข่ โดยพม่าอ้างว่า ส่วนใหญ่ของผู้อพยพมาจากบังกลาเทศ และได้ให้คำมั่นที่จะส่งคนเหล่านี้ไปยังพรมแดนบังกลาเทศ แต่พม่ายังไม่ได้ระบุชัดเจนว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับผู้อพยพที่ไม่ได้มาจากบังกลาเทศ ขณะที่บังกลาเทศให้คำมั่นที่จะรับพลเมืองของตนกลับเข้าประเทศ หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นชาวบังกลาเทศจริง
ปฏิบัติการช่วยเหลือทั้ง 2 ครั้ง สร้างความไม่พอใจให้กับหมู่ชาวพุทธหัวรุนแรงและชาวพม่าในรัฐยะไข่ ที่ต้องการให้รัฐบาลกลางยุติการช่วยเหลือผู้อพยพ
กลุ่มคนในท้องถิ่นหลายกลุ่มได้พบหารือกันในเมืองสิตตเว เมื่อวันเสาร์ (6) และให้คำมั่นที่จะจัดการชุมนุมประท้วงในสุดสัปดาห์หน้า
“ที่ประชุมได้ตัดสินใจว่าจะจัดการชุมนุมประท้วงในวันที่ 14 มิ.ย. ต่อต้านเบงกาลีที่ยังอยู่ในรัฐยะไข่ เราจะติดต่อกับเมืองอื่นๆ ในรัฐยะไข่ และรวมตัวประท้วงกันในวันนั้น” โซ นาย ผู้ประสานงานเพื่อโครงการทางสังคมในรัฐยะไข่ ที่เข้าร่วมการประชุม กล่าว
รัฐบาลพม่าไม่ได้ยอมรับชาวโรฮิงญา 1.3 ล้านคนที่อาศัยในรัฐยะไข่ว่าเป็นพลเมืองของประเทศ โดยระบุว่าคนเหล่านี้เป็นผู้อพยพผิดกฎหมายจากบังกลาเทศ หรือเบงกาลี แม้หลายคนจะสามารถพิสูจน์บรรพบุรุษตามรอยจุดกำเนิดของตนย้อนกลับไปได้หลายรุ่นก็ตาม
โรฮิงญาเผชิญกับการกดขี่ข่มเหงและข้อจำกัดมากมายทั้งการเคลื่อนย้าย ขนาดครอบครัวและการทำงาน
ชาวพุทธหลายคนในยะไข่ต้องการที่จะให้โรฮิงญาทั้งหมดออกไปจากพื้นที่ และคัดค้านรัฐบาลกลางที่ให้ความช่วยเหลือคนเรือเหล่านี้
“เราจะขอให้ส่งพวกเขากลับไป รัฐบาลบังกลาเทศต้องรับคนเหล่านี้ และรัฐบาลของเราต้องกดดันบังกลาเทศด้วย” โซ นาย กล่าว
ผู้อพยพ 150 คน จากทั้งหมด 900 คน คาดว่าจะถูกส่งตัวกลับไปบังกลาเทศในวันจันทร์นี้ (8) หลังทางการของทั้งสองประเทศตกลงกันได้ถึงแหล่งที่มาของผู้อพยพ แต่ผู้อพยพคนอื่นๆ ยังคงติดค้างอยู่ในค่ายพักบริเวณชายแดน เมื่อทางการยังไม่สามารถสรุปได้ว่าคนเหล่านี้มาจากประเทศใด
ทั้งสองประเทศต่างก็ไม่เต็มใจที่จะรับผู้อพยพเหล่านี้ ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนวิตกว่าผู้อพยพบางคนอาจถูกผลักไปอยู่ผิดฝั่งประเทศ