รัฐบาลบาห์เรนสั่งการเรียกตัวเอกอัคราชทูตประจำกรุงเตหะรานกลับประเทศทันที หลังจากที่ก่อนหน้านี้ผู้นำสูงสุดอิหร่าน นาย อาลี คาเมนี ออกมาวิพากษ์วิจารณ์สนับสนุนกลุ่มชีอะห์ทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมไปถึงในบาห์เรนที่อิหร่านหนุนหลังกลุ่มชีอะห์โค่นล้มรัฐบาลมุสลิมแต่ไม่สำเร็จก่อนหน้านี้ ซึ่งรัฐบาลบาเรนถือว่าการออกมาพูดครั้งนี้ของผู้น้ำอิหร่านเป็นการแทรกแซงกิจการภายในประเทศ
เอเอฟพีรายงานเมื่อวันเสาร์ (25) ว่า สื่ออย่างเป็นทางการของบาห์เรน BNA ได้รายงานในวันเสาร์ (25) ว่า รัฐบาลบาห์เรนตัดสินใจประท้วงในการให้ความเห็นผู้นำสูงสุดอิหร่านนาย อาลี คาเมนี ที่ถือได้ว่าเป็นความเห็นที่เป็นปฎิปักษ์กับบาห์เรนด้วยการประกาศสั่งการเรียกเอกอัคราชทูตประจำกรุงเตหะรานกลับประเทศทันที
โดยในรายงานของสื่อบาห์เรนกล่าวว่า สภาสูงสุดด้านกิจการศาสนาอิสลาม หรือ SCIA ได้ประนามอย่างรุนแรงต่อการให้ความเห็นที่ก้าวร้าวของทางอิหร่านในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในประเทศ เพื่อหวังทำให้เสถียรภาพของบาห์เรนสั่นคลอน และความตรึงเครียดขึ้น
นอกจากนี้ เอเอฟพียังรายงานเพิ่มเติมว่า ในขณะที่คณะกรรมาธิการด้านการต่างประเทศภายใต้การกำกับของสภาผู้แทนราษฎรบาห์เรนประกาศร้องการจัดประชุมหารือ “อาหรับซัมมิต” เพื่อหารือปัญหา “อิหร่านแทรกแซงกิจการภายในประเทศ” ไม่นานก่อนที่จะรัฐบาลบาห์เรนจะสั่งเรียกตัวทตกลับประเทศ
ทั้งนี้ ในวันอาทิตย์ (19) บาเรนได้ออกมาตำหนิอิหร่านในการที่ให้ความเห็นข้องเกี่ยวกับกิจการภายในประเทศ หลังจากก่อนหน้านี้ผู้นำสูงสุดอิหร่าน นาย อาลี คาเมนี ได้ออกมาเรียกร้องสนับสนุนกลุ่มชีอะห์ทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมไปถึงในบาเรน และ 1 วันก่อนหน้านั้น (18) เขายังได้กล่าวว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านกับชาติตะวันตกนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในจุดยืนของเตหะรานต่อการสนับสนุนรัฐบาลชีอะห์ของอิรักและรัฐบาลชีอะห์ของซีเรีย หรือการเปลี่ยนจุดยืนที่จะไม่สนับสนุนกลุ่มกบฏชีอะห์ในเยเมน บาห์เรน และปาเลสไตน์
