กองกำลังประชาชนชาวเยเมนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มพันธมิตรมุสลิมที่นำโดยซาอุดีอาระเบียได้ยึดคืนฐานทัพอากาศที่ใหญ่ที่สุดของเยเมนจากกลุ่มกบฏชีอะห์ที่มีอิหร่านหนุนหลังในวันอังคาร (4) ซึ่งถือเป็นความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญครั้งใหม่ หลังจากที่พวกเขายึดเมืองใหญ่อันดับสองอย่างเอเดนคืนมาได้เมื่อเดือนที่แล้ว
การเข้ายึดฐานทัพอัล-อานัดภายหลังการโจมตีเป็นเวลา 24 ชั่วโมงด้วยอาวุธหนักที่ได้รับมาจากกลุ่มพันธมิตรเกิดขึ้นหลังจากที่กองทหารอ่าวอาหรับหลายร้อยนายขึ้นฝั่งที่เมืองเอเดนเพื่อสนับสนุนการตอบโต้กลับของกองกำลังประชาชนชาวเยเมนในความพยายามขับไล่กองกำลังติดอาวุธชีอะห์ที่อิหร่านหนุนหลัง
กระทรวงกลาโหมยกย่องชัยชนะในการต่อสู้เพื่อชิงฐานทัพอัล-อานัดครั้งนี้ และประกาศกร้าวว่าจะไม่มีการลดละความพยายามในกาทำสงครามกับพวกกบฏชีอะห์ฮูธีย์ และแนวร่วมของกลุ่มนี้จนกว่าอำนาจของประเทศจะฝื้นกลับคืนมา
ฐาทัพอัล-อานัด ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเอเดนไปทางเหนือ 60 กิโลเมตร ตั้งอยู่บริเวณถนนเส้นหลักมุ่งขึ้นเหนือสู่สมรภูมิทั้งสองแห่งคือเมืองใหญ่อันดับสามทาเอซและกรุงซานาเมืองหลวงที่กบฏชีอะห์ยึดครองอยู่
ฐานทัพเนื้อที่ 15 ตารางกิโลเมตรแห่งนี้เคยเป็นที่อยู่ของกองทหารสหรัฐฯ ที่คอยใช้โดรนลอบสังหารนักรบมุสลิมในเยเมน และโซมาเลีย จนกระทั่งเดือนมีนาคมที่ทหารสหรัฐถอนกำลังออก 2 วันก่อนที่กบฏชีอะห์จะเข้ามายึดฐานทัพอยู่แทนที่
การสูญเสียฐานทัพแห่งนี้เป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่สำหรับกลุ่มกบฏ ซึ่ง อับดุลมาลิค อัล-ฮูตี ผู้นำของกลุ่มกล่าวอ้างเมื่อวันอาทิตย์ (2) ว่า การถอยจากเมืองเอเดนของพวกเขาหลังจากสู้รบอย่างหนักนาน 4 เดือนเป็นเพียงล่าถอย “ระยะสั้น” เท่านั้น
แหล่งข่าวจากกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลระบุว่า กลุ่มกบฏสูญเสียนักรบ 70 คนและ 10 คนถูกจับในระหว่างการต่อสู้ชิงฐานทัพอัล-อานัด โดยในจำนวนกลุ่มกบฎที่เสียชีวิตและถูกจับพบว่ามีชาวอิหร่านร่วมอยู่ด้วย
ขณะที่ฝ่ายนักรบประชาชนชาวเยเมนสูญเสียสมาชิก 24 รายและบาดเจ็บ 23 คน
เหล่าเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนร่วมในการจู่โจมดังกล่าวเล่าว่า พวกกบฏทำการต่อต้านได้อย่างเหนียวแน่น แต่การโจมตีทางอากาศที่นำโดยซาอุดีอาระเบียได้ช่วยทำลายแนวป้องกันของพวกเขา
กลุ่มนักรบประชาชนเยเมนที่รวมของกองทหารหลายร้อยนายและกองกำลังซึ่งมีทั้งรถถังและยานยนต์หุ้มเกราะที่ได้รับมาจากกลุ่มพันธมิตร