ซาอุดิอาระเบียเตือนอิหร่านหากจะเล่นบทเจรจาแก้ปัญหาซีเรีย ต้องเลิกยึดครองซีเรีย ถอนทหาร ถอนกองกำลังติดอาวุธชีอะห์ หยุดส่งอาวุธ ชี้ขณะนี้อิหร่านหลายเป็นผู้ยึดครองดินแดนซีเรียแล้ว
นายอาเดล อัล-ญับรี่รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิอาระเบียกล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับนายแฟร้งค์-วอลเตอร์ ชไตนไมเออร์รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีเมื่อวันจันทร์ (19 ตุลาคม) ว่าบทบาททางการทหารของอิหร่านในซีเรีย ทำให้อิหร่านไม่สามารถดำเนินความพยายามไกล่เกลี่ยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งอิหร่านจะต้องถอนตัวออกจากซีเรีย รวมถึงยุติการส่งอาวุธให้กับรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย และถอนกองกำลังกลุ่มติดอาวุธชีอะห์ที่ส่งเข้าไปในซีเรียด้วย จึงจะช่วยให้อิหร่านเข้าไปมีบทบาทในการหาทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้ โดยขณะนี้อิหร่านกลายเป็นผู้ครอบครองดินแดนอาหรับในซีเรียไปแล้ว
อัล-ญับรี่กล่าวเสริมว่าซาอุดิอาระเบียเชื่อว่านายอัสซาดจะต้องก้าวลงจากอำนาจโดยเร็วที่สุด เมื่อมีการจัดตั้งคณะถ่ายโอนอำนาจที่สอดคล้องกับการเจรจาสันติภาพที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์เมื่อปี 2555 โดยโอกาสที่จะให้นายอัสซาดอยู่จนกว่าจะมีการเลือกตั้ง และให้เขามีส่วนร่วมการเลือกตั้งนั้นคงเป็นไปไม่ได้
อัล-ญับรี่คาดหวังว่าอิหร่านจะเปลี่ยนแปลงนโยบาย และยุติการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค ทั้งเลบานอน, ซีเรีย, อิรัก และเยเมน พร้อมระบุว่าเป็นเรื่องยากที่จะมีความสัมพันธ์ในเชิงบวกกับอิหร่าน เมื่อซาอุดิอาระเบียยังคงตกเป็นเป้าของการรุกรานอย่างต่อเนื่องจากอิหร่าน
ซึ่งซาอุดิอาระเบียจะเผชิญหน้ากับอิหร่าน และจะใช้อำนาจทั้งหมดทางการเมือง, เศรษฐกิจและทหารเพื่อปกป้องดินแดนและประชาชนของตัวเอง
ด้านนายชไตไมเออร์บอกว่าการที่รัสเซียเข้าแทรกแซงทางทหารในซีเรียไม่ได้ช่วยให้การหาทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งง่ายขึ้นได้ แต่ความยุ่งยากที่เพิ่มมากขึ้น ก็ไม่ได้ขัดขวางไม่ให้ทุกฝ่ายหาทางแก้ไขปัญหา แม้จะยุ่งยากมากขึ้นในช่วง3 -4 สัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเห็นว่าการเจรจาเพื่อลดความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและรัสเซีย อย่างน้อยได้ช่วยควบคุมอันตรายไม่ให้เพิ่มมากขึ้นในซีเรียได้