รถบรรทุกแก๊สขับข้ามทางลักผ่านตัดหน้ารถไฟขบวนดีเซลราง กรุงเทพฯ -สุราษฏร์ธานี รถไฟเบรกไม่อยู่ชนรถบรรทุกแก็สลากตัวรถบรรทุกไปเกือบ 100 เมตร โชคดีผู้โดยสารไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนโบกี้รถไฟตกรางอยู่ใต้สะพานต่างระดับบ้านหนองแก ต้องปิดเดินรถทั้งขาขึ้น-ขาล่องชั่วคราว เพื่อยกโบกี้ที่ตกรางและซ่อมแซมรางที่เสียหาย
เมื่อเวลา 13.45 น.วันนี้ (24 ต.ค.) ASTV รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน ได้รับแจ้งเหตุมีรถไฟชนกับรถบรรทุกแก็สที่บริเวณใต้สะพานต่างระดับหนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากสถานีรถไฟหัวหินประมาณ 4 กิโลเมตร หลังรับแจ้งเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยนายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน นายประสงค์ โกมุข นายสถานีรถไฟหัวหิน ตำรวจ สภ.หัวหิน ตำรวจรถไฟหัวหิน ตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน เจ้าหน้าที่มูลนิธิ 5 ธันวามหาราช และหน่วยกู้ภัยหัวหิน
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณใต้สะพานต่างระดับบ้านหนองแกริมทางรถไฟ เจ้าหน้าที่พบถังแก็สขนาดใหญ่กว่า 15 ถังคกกระจัดกระจาย ซึ่งบางส่วนยังมีแก็สอยู่ เจ้าหน้าที่จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลเมืองหัวหิน มาเตรียมพร้อม และใต้สะพานพบตัวกระบะท้ายของรถบรรทุกแก็สขาดหลุดอยู่ข้างทาง และพบรถยนต์ปิกอัพที่จอดอยู่ด้านท้ายใด้รับความเสียหาย
ห่างไปประมาณ 100 เมตร พบขบวนรถไฟดีเซลรางขบวนที่ 43 กรุงเทพ-สุราษฏร์ธานี 3 โบกี้ ทราบชื่อคนขับรถไฟนายณัฐพงษ์ วงษ์สินธบ มีผู้โดยสารจำนวนมากกำลังทยอยลงจากขบวนรถไฟโดยมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิ 5 ธันวามหาราช มาช่วยขนสิ่งของออกจากโบกี้รถไฟโบกี้แรกซึ่งตกรางอยู่ และด้านหน้ามีหัวรถบรรทุก 6 ล้อ และตัวถังอัดติดอยู่กะบะโบกี้แรก เป็นรถบรรทุก 6 ล้อยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน ประจวบคีรีขันธ์ 81-4528 ของบริษัทอุตสาหกรรมแก็ส จำกัด ทราบชื่อคนขับคือนายกฤษณะ เรืองธำรงค์
ส่วนผู้โดยสารที่อยู่โบกี้แรกที่ตกรางได้ทยอยขึ้นโบกี้ที่ 2 และ 3 และลากกลับไปยังสถานีรถไฟหัวหิน โดยทางการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ให้ผู้โดยสารขึ้นรถบัสปรับอากาศเดินทางต่อไปยังจังหวัดสุราษฏร์ธานี
นายสถานีรถไฟหัวหิน กล่าวว่า บริเวณดังกล่าวอยู่ใต้สะพานต่างระดับทางการรถไฟแห่งประเทศไทยได้นำรั้วมาติดตั้งเป็นแนวกั้นห้ามรถยนต์และรถจักรยานยนต์ผ่านมา เนื่องจากไม่ใช่ทางข้ามแต่ทราบว่าระยะหลังมีการรื้อรั้วออกเพื่อให้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ผ่านเข้าออกได้ ซึ่งบริเวณดังกล่าวไม่ใช่ทางตัดรถไฟแต่อย่างใด เป็นทางลักผ่าน เบื้องต้นขณะนี้ต้องรอรถยกจากการรถไฟจากบางซื้อเพื่อมาทำการยกโบกี้รถไฟที่ตกรางให้ตั้งขึ้นและลากเข้าสถานี จึงจะเปิดเดินรถไฟทั้งที่จะลงไปภาคใต้และเข้ากรุงเทพฯ คงต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง เพราะส่วนหนึ่งต้องให้ฝ่ายวิศวกรรมมาตรวจสอบรางรถไฟที่เสียหายด้วยว่าจะต้องซ่อมแซมด้วยหรือไม่
สำหรับผู้โดยสารที่มากับขบวนรถไฟสายดังกล่าว บอกว่า ระหว่างที่ออกจากสถานีรถไฟหัวหิน มาไม่ไม่นานก็ได้ยินเสียดังสนั่นหวั่นไหวจนกระทั่งรถไฟจอดจึงรถว่ารถไฟชนกับรถบรรทุกแก็ส
พนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ได้ทำการสอบสวนพนักงานขับรถไฟขบวนที่ 43 ได้ให้การว่า ขณะนำผู้โดยสารออกจากกรุงเทพฯ และมาถึงสถานีรถไฟหัวหินเมื่อช่วงเที่ยวที่ผ่านมา และหลังจากออกมาจากสถานีรถไฟหัวหิน เพื่อมุ่งหน้าไปยังจังหวัดสุราษฏร์ธานี ก่อนถึงสะพานต่างระดับบริเวณจุดเกิดเหตุเห็นรถบรรทุกแก็สได้ขับข้ามทางลักผ่านอย่างกระชั้นชิด แต่ได้ทำการเบรกจนล้อฟรีแล้ว แต่ตอนนั้นรถบรรทุกแก็สยังติดคาอยู่สั่งเกตเห็นคนขับเปิดประตูรถวิ่งลงมาแล้ว รถก็ยังไถลพุ่งชนไปประมาณ 100 เมตรจึงหยุดรถได้ โดยทางตำรวจทราบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นทางลักผ่านซึ่งมีการปิดกั้นแล้วแต่ถูกรื้ออกเพื่อใช้ข้ามจึงทำให้เกิดอุบีติเหตุในครั้งแต่นับว่าโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในครั้งนี้แต่อย่างใด
