หน่วยป้องกันภัยพลเรือนและแพทย์ในเมืองซาราเคบของจังหวัดอิดลิบในซีเรีย ระบุว่าเมืองถูกโจมตีด้วยก๊าซคลอรีน โดยมีเฮลิคอปเตอร์ไม่ทราบฝ่าย นำถังบรรจุก๊าซคลอรีน 2 ถัง มาหย่อนลงในเมืองเมื่อวันจันทร์ (1 สิงหาคม) ที่ผ่านมาทำให้มีชาวเมืองอย่างน้อย 33 คนได้รับพิษคลอรีน และต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล
นายแพทย์อับดุล อาซิซ บะรีห์ (Dr. Abdel Aziz Bareeh) ซึ่งเป็นแพทย์ที่ทำงานในเมืองซาราเคบทางตอนเหนือของซีเรีย บอกกับบีบีซีว่า มีผู้ป่วยหลังจากได้รับสารพิษแก๊สคลอรีนราว 30 คนในพื้นที่เมืองซาราเคบ (Saraqeb) จ.อิดลิบ (Idlib) ในช่วงกลางดึกของวันจันทร์ (1) พบเห็นเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งได้หย่อนสารแก๊สพิษคลอรีนจำนวน 2 บาร์เรลลงในพื้นที่
“เรารู้อย่างแน่ชัดว่าเป็นแก๊สคลอรีนเพราะเคยถูกโจมตีจากแก๊สพิษชนิดนี้มาแล้วในอดีต ซึ่งทำให้คุ้นเคยกับกลิ่นและอาการป่วยจากการได้รับสารพิษตัวนี้….และมาถึงปัจจุบันนี้ได้รับรายงานผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 28 รายที่ได้รับการยืนยัน โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง” บารีชให้ความเห็น
ด้านโฆษกกลุ่มเอ็นจีโอ ซีเรีย ซิวิล ดีเฟนซ์ (Syria Civil Defence) ซึ่งเป็นหน่วยงานอาสาสมัครอิสระค้นหาและกู้ภัยแถลงว่า มีผู้ได้รับสารพิษแก๊สคลอรีนถึง 33 คน เปิดเผยอีกว่า “ถังบาร์เรลขนาดกลางบรรจุสารพิษอยู่ด้านใน แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นสารแก๊สพิษประเภทใด”
ขณะที่เจ้าหน้าที่จากหน่วยงาน SCD ระบุว่า สงสัยว่าถังบาร์เรลนั้นอาจบรรจุสารแก๊สพิษคลอรีน
แม้คลอรีนจะเป็นสารเคมีที่ใช้กันทั่วไปในงานอุตสาหกรรม แต่อนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี (CWC) ซึ่งลงนามโดย 188 ประเทศ ได้ห้ามนำก๊าซคลอรีนมาใช้เป็นอาวุธในการสู้รบ โดยผู้ที่ถูกพิษคลอรีนนั้น จะมีอาการตั้งแต่เคืองตา รู้สึกระคายเคืองที่ผิวหนัง หายใจลำบาก และมีฟองเลือดออกจากปาก
ทั้งนี้เมื่อปี 2013 บีบีซีพบหลักฐานซึ่งชี้ชัดว่า ชาวเมืองซาราเค็บตกเป็นเป้าการโจมตีด้วยก๊าซคลอรีนจากเฮลิคอปเตอร์ของระบอบชีอะห์ บาชาร์ อัล-อัสซาด แต่บาชาร์อ้างว่าฝ่ายต่อต้านซีเรียที่ไม่มีอากาศยานชนิดใดไว้ใช้ได้ทิ้งระเบิดเคมีทางอากาศโจมตีพลเรือนของตัวเอง