ผบช.สตม.แจงเหตุผู้ถูกกักตัวชาว อุยกูร์ 10 คน แหกห้องกักตัวต่าน ตม.หนองคายกลางดึก ขณะฝนตกหนักและเกิดไฟฟ้าดับ เผยอาศัยจังหวะเจ้าหน้าที่เผลอพังเหล็กดัดหน้าต่างใช้เสื้อมัดเป็นปมโรยตัวลงนอกอาคาร เบื้องต้นตามจับได้แล้วทั้งหมดนำตัวแยกกัก
วันอังคาร (20 กันยายน) เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. ประชุมทางไกลหรือประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับนายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมหัวหน้าหน่วยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา จ.มุกดาหาร จ.อุบลราชธานี จ.ระนอง ในกรณีที่ผู้ถูกคุมขังแหกห้องกักด่าน ตม.จว.หนองคาย จำนวน 10 ราย เป็นชาวอุยกูร์ทั้งหมด ฉวยโอกาสกลางดึกขณะฝนตกและเกิดไฟฟ้าดับ เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.วันอังคาร (20) ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.ณัฐธรกล่าวว่า ผู้ถูกกักตัวได้ฉวยโอกาสในช่วงกลางดึกประมาณ 01.00 น.ที่ผ่านมา เนื่องจากพื้นที่ จ.หนองคาย มีฝนตกฟ้าคะนองอย่างหนักทำให้เจ้าหน้าที่ประจำห้องกักตัวไม่ได้ยินเสียงความผิดปกติที่เกิดขึ้น โดยมาทราบอีกครั้งในช่วงเช้าประมาณ 05.00 น.ว่าชาวอุยกูร์ที่ถูกกักตัวไว้ได้หลบหนีออกไป หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าทีตำรวจออกค้นหาติดตามทราบว่าหลบหนีไปอยู่ป่าช้าของวัดหนองขาม ต.หนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย ห่างจากด่าน ตม.จ.หนองคาย 4 กิโลเมตร และสามารถจับกุมได้ในเวลา 13.00 น. จำนวน 9 ราย ส่วนอีกรายหลบหนีอยู่บริเวณบ่อน้ำใกล้เคียงกับจุดที่พบ 9 คนแรก และตามจับได้ขณะประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในเวลา 15.40 น. ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้ได้หมดแล้ว
พล.ต.ท.ณัฐธรกล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบวิธีการหลบหนีนั้นผู้ถูกตัวอยู่รวมกัน 10 ราย ภายในห้องขนาดใหญ่ดัดแปลงด้วยการติดเหล็กดัดไว้รอบห้องอยู่ชั้น 2 ในพื้นที่ด่าน ตม.จ.หนองคาย ใช้วิธีดึงเหล็กดัดที่ติดตั้งบนฝ้าเพดานโดยใช้น้ำหนักตัวโหนเหล็กดัดพังลงมาแล้วปีนขึ้นไปแล้วใช้เสื้อผ้ามัดรวมกันพร้อมทำปมโรยตัวลงมานอกอาคารแล้วหลบหนี ทั้งนี้ ขอชี้แจงว่าช่วงที่หลบหนีนั้นเกิดไฟดับ ไม่มีความเกี่ยวข้องหรือมีคนช่วยในการหลบหนีเพราะไฟฟ้าดับมีวงกว้างเกือบทั้งจังหวัด และได้สั่งการให้การไฟฟ้าส่งหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรชี้แจงแล้ว
“ห้องกักตัวเป็นห้องที่ไม่ได้มีความแข็งแรงเท่าห้องคุมขังนักโทษในคดีอื่น เนื่องจากผู้ที่ถูกคุมขังในห้องกัก ส่วนใหญ่คือบุคคลต่างด้าวที่รอการส่งกลับประเทศ และมีความผิดฐานหลบหนีเข้าเมืองเพียงเท่านั้น” พล.ต.ท.ณัฐธรกล่าว
พล.ต.ท.ณัฐธรกล่าวอีกว่า ส่วนรายชื่อทั้ง 10 รายนั้นเบื้องต้นจะแยกผู้ถูกกักตัวไปตาม ตม.ต่างๆ ของภาคอีสานซึ่งมีประมาณ 5-6 แห่ง และได้มีหนังสือคำสั่งเร่งด่วนให้ตรวจสอบความแข็งแรงความปลอดภัยของห้องกักและมาตรการการเข้าเวรตรวจสอบผู้ถูกกักอีกด้วย และจะต้องตรวจสอบโดยละเอียดถึงข้อเท็จจริง หากพบว่ามีความบกพร่องทางหน้าที่จะใช้มาตรการอย่างเด็ดขาดไม่มีข้อยกเว้น
พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวอีกว่า สตม.ได้ควบคุมตัวชาวอุยกูร์จำนวนหนึ่งไว้ประมาณ 2 ปี 7 เดือน เนื่องจากเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เมื่อถูกควบคุมในที่เดิมเป็นเวลานาน จึงได้ให้ตรวจคนเข้าเมืองในภูมิภาคนำตัวไปดูแลเพื่อให้ผู้ถูกควบคุมผ่อนคลายความเครียด ซึ่งตรวจคนเข้าเมืองหนองคายได้รับตัวชาวอุยกูร์มาอยู่ในการควบคุมดูแล 10 คนเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา และกระจายตามจังหวัดต่างๆ รวม 55 คน
ด้านนายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จากการที่ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ พบว่าบริเวณที่ชาวอุยกูร์หลบหนีออกมาไม่ได้เกิดจากการใช้วัสดุมีคม แต่เป็นการใช้แรงของชาวอุยกูร์ช่วยกันดึงแผ่นเหล็ก ฝ้าเพดาน และกระเบื้องมุงหลังคาออก แล้วค่อยใช้ผ้ามัดโรยตัวลงมาทำการหลบหนี ประกอบกับช่วงที่เกิดเหตุมีฝนตกในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ไฟฟ้าดับ ทำให้ชาวอุยกูร์หลบหนีไปได้ แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถติดตามจับกุมกลับมาได้อย่างรวดเร็ว และได้รับความร่วมมือที่ดีจากทุกฝ่าย
