ดาอิชโต้กลับบุกยึดเคอร์คุก อิรักกร้าวขวางตุรกีร่วมรบ ขณะเตรียมปล่อยทัพชีอะห์เข้าเมือง

ยุทธการชิงเมืองโมซุลของอิรักชะงัก เพราะต้องส่งกำลังไปช่วยเมืองเคอร์คุก ที่โดนกลุ่มดาอิชบุกโจมตี ขณะที่นายกรัฐมนตรีอิรักประกาศกร้าวไม่ยอมให้ตุรกีร่วมปฎิบัติการยึดโมซุล ขณะที่กองกำลังหลักล้อมพื้นที่โดยรอบโมซุล แต่กองกำลังติดอาวุธชีอะห์ประกาศจะเดินหน้าบุกเข้าเมืองของชาวมุสลิม สร้างความวิตกเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ขณะที่อิรักแจกหน้ากากกันแก๊สพิษเพิ่มความวิตกสงครามเคมีกำลังจะเกิดขึ้น

สถานการณ์สู้รบในยุทธการชิงเมืองโมซุลของกองทัพอิรัก ล่าสุดหลังจากที่เมืองเคอร์คุกในเขตปกครองตนเองของชาวเคิร์ดถูกบุกเมื่อวันศุกร์ โดยฝีมือพลซุ่มยิงของดาอิชและพวกที่คาดว่าเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย ทำให้กองทัพอิรักที่กำลังบุกเมืองโมซุล ต้องส่งกำลังไปช่วยกู้สถานการณ์ที่เมืองดังกล่าว

เจ้าหน้าที่สามารถกลับมาควบคุมสถานการณ์ในเมืองเคอร์คุกได้อีกครั้งในวันเสาร์ (22) และได้ยกเลิกบางส่วนของการประกาศเคอร์ฟิว ที่เริ่มใช้เมื่อตอนดาอิชบุกโจมตีสถานีตำรวจและอาคารอื่นๆ ภายในเมือง

จากข้อมูลของแหล่งข่าวในโรงพยาบาล มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 ราย กับผู้บาดเจ็บอีกกว่า 80 ราย ในการปะทะกันระหว่างกองกำลังอิรักกับดาอิชที่เมืองเคอร์คุก

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ประเมินว่า ตัวเลขของนักรบดาอิชที่บุกเมืองเคอร์คุกน่าจะมีประมาณเพียง 80 คน เกือบทั้งหมดล้วนเสียชีวิตหรือถูกจับกุมแล้ว คนเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นนักรบต่างชาติ ซึ่งน่าจะได้รับความช่วยเหลือจากพวกหน่วยย่อยของดาอิชที่ซุกซ่อนตัวอยู่ในเมือง

ขณะเดียวกัน กองทัพอิรักก็ได้บุกชิงพื้นที่ของชาวคริสต์ในวันเสาร์ ที่ถูกดาอิชยึดครองไปตั้งแต่เมื่อปี 2014 อันเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการเคลียร์พื้นที่ทางเข้าเมืองโมซุล ที่มั่นสุดท้ายในอิรักของดาอิช

คำแถลงของกองทัพ ระบุว่า หน่วยทหารอิรักได้บุกเข้าเมืองการากอช ซึ่งเป็นเมืองที่คนส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์ อยู่ห่างจากโมซุลไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 20 กิโลเมตร

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ประเมินว่าน่าจะมีพวกสมาชิกของกลุ่มดาอิชอยู่ในเมืองการากอชไม่เกิน 200-300 คน โดยในช่วงก่อนหน้านี้ หน่วยรบพิเศษของอิรักเพิ่งจะบุกชิง “บาร์เตลลา” ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวคริสต์ทางเหนือของการากอชไปแล้ว

แหล่งข่าวที่เป็นทหารสหรัฐฯ ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการยึดเมืองโมซุล ในส่วนของกองกำลังเพชเมอร์กาได้รุกคืบหน้าไปโมซุลจากทางตอนเหนือ โดยเคลื่อนขบวนยานเกราะจำนวนมาก และมีกองกำลังหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ ประมาณ 100 นายได้ฝังตัวอยู่กับกองกำลังเพชเมอร์กา และกองกำลังพิเศษของรัฐบาลอิรัก

กองกำลังเพชเมอร์กาจะหยุดการรุกที่ระยะ 30 กิโลเมตรนอกเมืองโมซุล และควบคุมพื้นที่ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มดาอิชรวมตัวกันติด ส่วนทางกองกำลังชีอะห์ที่ร่วมขบวนมากับกองกำลังอิรัก ประกาศว่า กองกำลังติดอาวุธชีอะห์จะเดินหน้าเข้าเมืองโมซุลเอง ทำให้หลายฝ่ายแสดงความกังวลถึงการเข้าไปของกองกำลังชีอะห์ในเมืองของชาวมุสลิมที่อาจทำให้เหตุนองเลือดจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมในเมืองโมซุลจะเกิดขึ้นอีกครั้งเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในเมืองฟัลลูญะห์

ขณะที่เมื่อวันเสาร์(22) นายกรัฐมนตรี ไฮเดอร์ อัล-อาบาดี ของอิรัก ได้แถลงหลังจากพบปะหารือกับรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ แอชตัน คาร์เตอร์ว่า รู้เรื่องที่ตุรกีต้องการเข้าร่วมสู้รบ แต่นี่เป็นสิ่งที่ประชาชนชาวอิรักต้องจัดการด้วยตัวเอง ชาวอิรักต้องเป็นผู้ทำหน้าที่ปลดปล่อยโมซุลให้เป็นอิสระจากการถูกยึดครอง หากต้องขอความช่วยเหลือจากตุรกี อิรักจะทำการร้องขอเอง

ในการเดินทางไปแบกแดดของคาร์เตอร์เมื่อวันเสาร์นั้น เขาได้พบกับผู้บัญชาการรบสหรัฐฯ พร้อมกับประเมินสถานการณ์ในช่วงการเปิดปฏิบัติการยึดเมืองโมซุล ทั้งยังบอกกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า เรื่องที่จะให้ตุรกีเข้าร่วมปฏิบัติการยึดโมซุลนั้นยุ่งยากและซับซ้อน

นอกจากนี้เมื่อวันเสาร์ที่(22)ผ่านมาสหรัฐฯยังได้แจกจ่ายหน้ากากกันแก๊สพิษจำนวน 24,000 ชิ้นให้แก่นักรบพันธมิตร ซึ่งสร้างความวิตกว่าจะมีการใช้อาวุธเคมีโจมตีในปฎิบัติการดังกล่าว หลังจากนักรบดาอิชได้จุดไฟเผาโรงงานผลิตสารซัลเฟอร์ใกล้เมืองโมซุล ส่งผลให้ควันขาวคละคลุ้งเหม็นคลุ้งปกคลุมไปทั่วบริเวณ โดยมีรายงานว่าควันขาวที่คละคลุ้งผสมไปด้วยควันดำที่พวยพุ่งจากบ่อน้ำมันที่ถูกจุดไฟเผาก่อนหน้านี้ และยังพบว่ามีคนราว 1,000 คนต้องถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาหลังจากสูดดมแก๊สพิษเข้าไป แต่ในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิต แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่การแพทย์ในโรงพยาบาลเคย์ยารา(Qayyara) ทางใต้ของเมืองโมซุลแถลงในวันเสาร์(22)

ความคิดเห็น

comments