รัสเซียยืนยันเครื่องบินรบซีเรีย โจมตีใส่เป้าหมายทหารตุรกี

หลังจากการเสียชีวิตของทหารตุรกี 3 นายที่มีส่วนร่วมในปฎิบัติการ “โล่ยูเฟรติส” จากการโจมตีทางอากาศในซีเรีย โดยรัสเซียได้ให้ความร่วมมือกับตุรกีในการสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้น พบว่าเป็นการดำเนินการโจมตีของระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด

หนังสือพิมพ์ Hurriyet ของตุรกีรายงานว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นเบื้องต้นดูเหมือนมีความพยายามทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัสเซีย และตุรกี ที่เปิดความสัมพันธ์ขึ้นปกติเมื่อเร็วๆนี้ แต่ตุรกีมั่นใจว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย และจะไม่ทำให้ความสัมพันธ์ของสองประเทศเสียหายลง

เมื่อตุรกีบอกรัสเซียว่าเครื่องบินรบที่ดำเนินการในการโจมตีทหารตุรกีเป็นเครื่องบินที่บินที่ขึ้นบินจากสนามบินภายใต้การควบคุมของรัสเซีย ในซีเรีย โดยเบื้องต้นรัสเซียได้ขอเวลาในการตรวจสอบ และเปิดเผยว่าเครื่องบินที่ดำเนินการโจมตีทหารตุรกีเป็นการดำเนินการของเครื่องบินรบขนาดเบา L-39 Albatros ของกองกำลังระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด

ทันทีหลังจากการโจมตีเกิดขึ้นตุรกีได้ส่งเครื่องบินรบ F-16 2 ลำจากฐานทัพอากาศ Incirlik ไปถึงจุดเกิดเหตุในเวลา 13 นาที โดยพบว่าเครื่องบินที่ลอบโจมตีออกจากจุดที่เกิดเหตุไปแล้ว

ประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan และนายกรัฐมนตรี Binali Yildirim ได้ถือโทรศัพท์หารือเป็นการฉุกเฉินกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม Fikri Isik และหัวหน้าเสนาธิการทั่วไป Hulusi Akar ก่อนที่จะให้สัมภาษ์กับสื่อนายกรัฐมนตรี Yildirim ได้สาบานว่าจะแก้แค้นให้กับการสูญเสียชีวิตของ “วีระบุรุษแห่งตุรกี”

นอกจากนี้เขายังบอกว่า “มีบุคคลที่แตกต่างกันผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินงานของเรา [โล่ยูเฟรติส] กับการปราบกรามกลุ่มดาอิชในครั้งนี้”

Al-Araby Al-Jadeed กล่าวว่าการโจมตีครั้งนี้เป็นการส่งข้อความที่ชัดเจนไปยังตุรกีซึ่งสนับสนุนฝ่ายต่อต้านซีเรีย และยังเป็นการข่มขู่ไม่ให้ตุรกีพยายามที่จะขยายการควบคุมพื้นที่เข้าใกล้เมืองอเลปโป และเมืองอื่นๆ ที่ระบอบการปกครองบาชาร์ อัล-อัสซาดยึดครองของ

ปฎิบัติการโล่ยูเฟรติสของตุรกีมีขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับกองกำลังฝ่ายต่อต้านซีเรียหรือ FSA ในการต่อต้านกลุ่มดาอิช โดยมีปฎิบัติการอยู่ใในเขต Al-Bab ใกล้กับดินแดนทางตะวันออกของอเปลโปที่ฝ่ายต่อต้านซีเรียกำลังถูกปิดล้อมโดยกองกำลังบาชาร์ อัล-อัสซาด และพันธมิตรชีอะห์