บังกลาเทศสกัดเรือโรฮิงญา 8 ลำ หนีตายจากพม่า จี้นานาชาติบีบพม่าเคารพสิทธิมนุษยชน

เรือหลายลำที่เต็มไปด้วยผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาหลบหนีความรุนแรงในพม่า ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงชายแดนบังกลาเทศ ผลักดันกลับในวันจันทร์ที่ (28) ผ่านมา แม้มีเสียงเรียกร้องจากฝ่ายค้าน และนานาชาติให้จัดหาที่พักพิงให้แก่ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมเหล่านี้ แต่บังกลาเทศจี้นานาชาติกลับไม่กดดันพม่าให้เคารพสิทธิมนุษยชนแทน

ชาวโรฮิงญาหลายพันคนจากรัฐยะไข่ พื้นที่ทางตะวันตกของพม่า หลั่งไหลข้ามพรมแดนเข้าไปในบังกลาเทศตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับเรื่องราวที่กล่าวหาว่ากองกำลังทหารได้ก่อเหตุละเมิดสิทธิมนุษยชนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการข่มขืน ทรมาน และการฆาตกรรม

เรือ 8 ลำ พยายามข้ามแม่น้ำนาฟ ซึ่งกั้นกลางระหว่างรัฐยะไข่ของพม่า และพื้นที่ทางใต้ของบังกลาเทศ ถูกเจ้าหน้าที่บังกลาเทศผลักดันกลับในวันนี้ หลังเมื่อวันอาทิตย์ (27) มีเรือ 6 ลำ ถูกปฏิเสธเข้าไปในเขตพรมแดนเช่นเดียวกัน หัวหน้าหน่วยรักษาความมั่นคงชายฝั่งในเมืองเทคนาฟ กล่าว

“บนเรือแต่ละลำมีชาวโรฮิงญาประมาณ 12-13 คน” พ.อ.อาบูซาร์ อัล ซาฮีด กล่าว

ทางการบังกลาเทศ ระบุว่า ยังมีผู้คนอีกหลายพันรวมกันเป็นกลุ่มตามแนวชายแดน ซึ่งบังกลาเทศปฏิเสธที่จะปล่อยให้คนเหล่านั้นเข้ามาในเขตแดนตามคำร้องขอของต่างชาติ และเรียกร้องให้ทางการพม่าดำเนินมาตรการยับยั้งไม่ให้ประชาชนหลบหนี

ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงชายแดนบังกลาเทศได้ขัดขวางชาวโรฮิงญาที่เดินทางทางเรือมากกว่า 1,000 คน ที่รวมทั้งผู้หญิง และเด็ก ตามการระบุของเจ้าหน้าที่

ด้านแกนนำฝ่ายค้านพรรคใหญ่ของบังกลาเทศได้เข้าร่วมกับกลุ่มการเมืองต่างๆ และกลุ่มชาวมุสลิมในประเทศ เรียกร้องให้รัฐบาลให้ที่พักพิงแก่ชาวโรฮิงญา

ประชาชนอย่างน้อย 30,000 คน กลายเป็นผู้พลัดถิ่นภายในประเทศในรัฐยะไข่ และหลายคนพยายามที่จะเดินทางไปบังกลาเทศในช่วงเดือนที่ผ่านมา แม้จะมีการลาดตระเวนตามชายแดนเข้มงวดมากขึ้นก็ตาม

ซามิรา อายุ 27 ปี ชาวโรฮิงญาที่เดินทางถึงค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศวันจันทร์ หลังหลบหนีออกจากหมู่บ้านในรัฐยะไข่ พร้อมกับลูก 3 คน และเพื่อนบ้านคนอื่นๆ อีก 49 คน เผยว่า ทหารพม่าฆ่าสามีและเผาบ้านของเธอ และเธอได้หลบหนีมาซ่อนตัวบนเนินเขาพร้อมลูก และเพื่อนบ้านนานนับสัปดาห์

ดูดู มีอา แกนนำชาวโรฮิงญาในค่ายผู้ลี้ภัยในฝั่งบังกลาเทศ กล่าวว่า มีชาวโรฮิงญาอย่างน้อย 1,338 คน เดินทางมาถึงค่ายตั้งแต่กลางเดือน ตุลาคม

ความรุนแรงในรัฐยะไข่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา หลังกองกำลังทหารระดมกำลังลงพื้นที่ปิดล้อมชุมชนชาวโรฮิงญา และประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตปฎิบัติการ ห้ามองค์กรบรรเทาทุกข์ นักข่าวต่างชาติเข้าพื้นที่จนถึงขณะนี้

ความคิดเห็น

comments