เตือน“แมลงก้นกระดก”ระบาด มีพิษรุนแรงต่อผิวหนัง

นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม ได้ออกมาแจ้งเตือนภัยจาก แมลงก้นกระดกที่ระบาดในจังหวัดสมุทรสงครามว่า “แมลงก้นกระดก” หรือที่รู้จักกันในชื่ออื่น ๆ เช่น ด้วงก้นกระดก ด้วงก้นงอน แมลงเฟรชชี่ ฯลฯ เป็นแมลงที่มักจะแพร่ระบาดในสถานที่ที่มีความชื้น และจะออกมาเล่นแสงไฟตามสถานที่ต่าง ๆ โดยช่วงปลายฤดูฝนจะมีปริมาณ เพิ่มมากขึ้น เมื่อแมลงชนิดนี้มาสัมผัสกับผิวหนัง จะปล่อยสารที่เรียกว่า Pederin ออกมา ทําให้เกิดการระคายเคืองและ ทําลายเนื้อเยื่อผิวหนังของผู้ที่สัมผัสโดน บางคนอาจมีอาการแสบร้อนหรือคันได้บ้าง ส่วนใหญ่จะไม่เกิดอาการปวดแสบ รุนแรงแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้การอักเสบของผิวหนังอย่างรุนแรงหรือไม่จะขึ้นกับปริมาณความมากน้อยหรือความเข้มข้นของสาร Pederin ที่สัมผัสโดน อาการผื่นผิวหนังจะยังไม่เกิดทันทีที่สัมผัส แต่จะเริ่มเกิดผื่นและอาการแสบเมื่อผ่านไปประมาณ 24 ชั่วโมง จะเป็นผื่นแดง มีขอบเขตชัดเจนหรือมีรอยไหม้ลักษณะเป็นทางยาว (ลักษณะที่เกิดเป็นทางยาวเนื่องจากการปัดด้วยมือ) และภายใน 2-3 วัน อาจจะเกิดผื่นร่วมกับตุ่มน้ำพองและตุ่มหนอง จนทําให้บางคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นงูสวัด (แต่สามารถแยกความแตกต่างได้ เนื่องจากผื่นผิวหนังอักเสบจากแมลงก้นกระดก จะไม่มีอาการปวดร้าวตามแนวเส้นประสาทที่เกิดผื่น ต่างจากผื่นของงูสวัด) ผื่นที่เกิดจากการสัมผัสแมลงก้นกระดก มักจะตกสะเก็ดและหายได้เองได้ภายใน 7-10 วัน เมื่อหายแล้วอาจจะทิ้งรอยดําไว้ สักระยะหนึ่งแต่มักไม่เกิดเป็นแผลเป็น (นอกจากมีการติดเชื้อแบคทีเรียที่บริเวณผื่นเดิม จนทําให้ผื่นหายช้าลง และอาจลุกลามจนเกิดเป็นแผลเป็นในลําดับต่อมา)

สําหรับในรายที่ผื่นลุกลามเป็นบริเวณกว้าง อาจมีไข้ปวดศีรษะ ปวดข้อ หรือ อาการคลื่นไส้อาเจียนได้ แต่ที่ต้องระวังมากคือ หากเข้าตาอาจทําให้ตาบอดได้ คําแนะนําเบื้องต้นคือ หากสัมผัสถูกตัวของ “แมลงก้นกระดก”แล้ว ให้รีบล้างด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำสบู่และประคบเย็นในบริเวณที่สัมผัสโดนแมลงทันทีสังเกตอาการที่ผิวหนัง ถ้าเกิดเพียงรอยแดงเล็กน้อยสามารถหายเองได้ใน 2-3 วัน ไม่จําเป็นต้องทายาใด แต่ถ้าอาการผื่นเป็นมากขึ้นหรือมีตุ่มน้ำพองเกิดขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี (โดยการใช้ครีมสเตียรอยด์ทาในผื่นแดงระยะเริ่มแรก แต่ถ้าผื่นมีตุ่มน้้ำพองเป็นบริเวณกว้างหรือแผลไหม้ ควรทําการประคบด้วยน้ำเกลือครั้งละ 5-10 นาที วันละ 3-4 ครั้ง จนแผลแห้ง อาจใช้ยาปฏิชีวนะชนิดรับประทานเมื่อมีการติดเชื้อแบคทีเรียซ้้ำจนเป็นแผลหนอง อาจให้ยาแก้คันเพื่อช่วยบรรเทาอาการคันในผู้ป่วยบางราย) เราสามารถป้องกันอันตรายจากแมลงก้นกระดก โดยการพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ร่างกายสัมผัสกับแมลง หากสัมผัสโดนแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการปัดหรือบีบตัวแมลงที่มาเกาะตามร่างกาย ควรใช้วิธีเป่าแมลงให้หลุดออกไปเองโดยไม่ต้องจับโดนตัวแมลง ก่อนนอนควรตรวจสอบที่นอนและเครื่องนอน เพื่อตรวจสอบว่ามีแมลงก้นกระดกอยู่หรือไม่ ปิดประตูหน้าต่างห้องนอน ให้มิดชิดทั้งกลางวันและกลางคืน และในช่วงกลางคืนควรเปิดไฟเฉพาะเท่าที่จำเป็น เพราะแมลงก้นกระดกมักชอบออกมาเล่นแสง ไฟตามบ้าน

ความคิดเห็น

comments