พม่าเผยพบโรฮิญาศพที่ 2 อ้างตายหลังร่วมมือกับทหารในยะไข่

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่ารัฐบาลพม่าระบุเมื่อวันจันทร์ (26 ธันวาคม) ว่า พบศพชายคนหนึ่งที่มีแผลถูกของมีคมแทง ในรัฐยะไข่ นับเป็นเหตุฆาตกรรมครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ ที่เกิดขึ้นต่อชาวโรฮิงญาที่ให้ความร่วมมือต่อทางการ ในขณะที่ฝ่ายรัฐกำลังปราบปรามผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อเหตุไม่สงบในรัฐยะไข่

การโจมตีหลายจุดพร้อมกันเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม จนเป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 9 นาย และนำมาสู่ปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ทางเหนือของรัฐยะไข่ รัฐบาลพม่ากล่าวโทษว่าชาวมุสลิมโรฮิงญาที่ได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังติดอาวุธต่างชาติเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีเหล่านี้

สื่อทางการรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 86 คน และสหประชาชาติระบุว่า มีผู้คนหลบหนีความรุนแรงไปบังกลาเทศ 34,000 คน

ความรุนแรงที่เกิดขึ้นสร้างความท้าทายต่อรัฐบาลของนางอองซานซูจี และก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากต่างชาติว่า ซูจี ไม่ค่อยช่วยเหลือชาวโรฮิงญามากนัก

ประชาชน และกลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่า ทหารได้ข่มขืนหญิงชาวโรฮิงญา เผาบ้านเรือน และสังหารพลเรือนในการปฏิบัติการทางทหารใกล้กับชายแดนบังกลาเทศ แต่รัฐบาลปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ และได้พยายามชวนเชื่อผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ในความพยายามที่จะทำให้เห็นว่ากองกำลังรักษาความมั่นคงดำเนินการอย่างเหมาะสมในรัฐยะไข่

เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนในท้องถิ่น กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ดูแลหมู่บ้านชื่อ รอพี อายุ 28 ปี คาดว่าการสังหารชายชาวมุสลิมรายนี้ อาจมีความเชื่อมโยงต่อการก่อการร้าย

สำนักงานที่ปรึกษาแห่งรัฐระบุเย็นวานนี้บนหน้าเพจเฟซบุ๊กว่า เหยื่อได้ร่วมมือกับสมาชิกของกองกำลังรักษาความมั่นคงในการปฏิบัติหน้าที่บริหารงาน และเหตุที่เกิดขึ้นนี้เป็นคดีฆาตกรรมครั้งที่ 2 ในรัฐยะไข่ ซึ่งเน้นไปที่ผู้ให้ความร่วมมือกับทางการ

เมื่อวันศุกร์ (23) สำนักงานที่ปรึกษาแห่งรัฐฯ ระบุว่า มีชายชาวมุสลิมถูกสังหาร หลังผู้เสียชีวิตปฏิเสธข่าวเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิของทหารในการพูดคุยกับผู้สื่อข่าว

“ผู้เสียชีวิตบอกต่อสื่อว่าไม่มีการลอบวางเพลิงโดยทหาร หรือตำรวจ ไม่มีการข่มขืน หรือจับกุมตัวอย่างไม่เป็นธรรม” ข้อความระบุอยู่บนเฟซบุ๊กของสำนักงานที่ปรึกษาแห่งรัฐฯ พร้อมภาพศพหัวขาด

ทั้งตำรวจ และสำนักงานที่ปรึกษาแห่งรัฐไม่ได้ระบุว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุสังหารที่เกิดขึ้น

ขณะที่รายงานของ crisisgroup (ICG) ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเบลเยี่ยม ซึ่งถือเป็น NGO เพียงองค์กรเดียวที่ออกมาชื่นชมการปฏิบัติทางทหารพม่า และออกมาระบุว่าเหตุรุนแรงต่อชาวโรฮิงญาล่าสุดเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบที่เรียกตัวเองว่า Harakah al-Yaqin (Faith Movement, HaY) ซึ่งองค์กรดังกล่าวยังได้อ้างว่ากลุ่ม HaY เป็นกลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญาที่มาจากซาอุดิอาระเบีย และเข้ามาก่อเหตุรุนแรงในรัฐยะไข่มาตั้งแต่ปี 2555

ความคิดเห็น

comments