พม่าส่งคำแนะนำด้านความปลอดภัยให้กับแรงงานของประเทศที่อยู่ในมาเลเซีย หลังเกิดเหตุมีผู้โจมตีใช้ดาบฟันแรงงานพม่าเสียชีวิต 5 ราย ปลุกกระแสวิตกความรุนแรงทางเชื้อชาติ แม้ตร.มาเลเซียจะคุมตัวแรงงานพม่า 7 คนต้องสงสัยฆ่าเพื่อน
ความตึงเครียดระหว่างเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เกี่ยวกับการอธรรมต่อชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญาในพม่า ขณะที่มาเลเซียออกมาระบุว่าพม่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จากการปฏิบัติต่อชาวโรฮิงญา ด้านพม่าตอบโต้ด้วยการประกาศไม่ส่งแรงงานเจ้ามาในมาเลเซียตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดี (5 มกราคม) ชายสวมหน้ากาก 4 คน พร้อมมีดดาบเข้าโจมตีแรงงานชาวพม่าหลังพวกเขาออกจากโรงงานในย่านชานเมืองของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ทำให้แรงงานพม่าเสียชีวิต 5 คน และได้รับบาดเจ็บ 2 คน
ตำรวจมาเลเซียเปิดเผยว่า ได้ควบคุมตัวชายชาวพม่า 7 คน ไม่นานหลังเหตุโจมตี โดยบรรดาแรงงานระบุว่าไม่เห็นถึงแรงจูงใจทางศาสนาใดๆ ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีนี้
ทั้งนี้ตามข้อมูลของทางการพม่าระบุว่ามีพลเมืองของประเทศเป็นแรงงานในมาเลเซีย ประมาณ 147,000 คน
สื่อพม่ารายงานอ้างคำกล่าวของนายซอ เต โฆษกสำนักงานประธานาธิบดีพม่า ที่ระบุว่า ทางการได้ออกคำแนะนำด้านความปลอดภัยให้กับแรงงานพม่าในมาเลเซีย และเรียกร้องให้แรงงานที่ทำงานอย่างผิดกฎหมายติดต่อกับสถานทูต ขณะที่เจ้าหน้าที่พม่ากำลังทำงานร่วมกับทางการมาเลเซียในการสืบสวนเหตุโจมตีดังกล่าวและการห้ามแรงงานเดินทางไปมาเลเซียยังคงมีผลบังคับใช้
ยุ้นต์ วิน รองผู้อำนวยการจากกระทรวงแรงงาน ตรวจคนเข้าเมือง และประชากร ของพม่า กล่าวว่า ความวิตกเกี่ยวกับความปลอดภัยเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ห้ามแรงงานเดินทางไปยังมาเลเซีย
“ยังมีอีกหลายเหตุผลสำหรับการห้ามแรงงานพม่าเดินทางไปมาเลเซีย รวมทั้งความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความจริงที่ว่าพวกเขากำลังยั่วยุให้เกิดปัญหาทางการเมืองกับพม่า” ยุ้นต์ วิน กล่าว
