นายกรัฐมนตรีปาเลสไตน์ โมฮัมหมัด มุสตาฟา เตือนประเทศสมาชิกสหประชาชาติเมื่อวันจันทร์ว่าประชาชนของเขาในฉนวนกาซา “กำลังเผชิญกับหนึ่งในบทที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่”
ชาวปาเลสไตน์ยอมรับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ “โดยดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเชิงปฏิรูปบนพื้นฐานของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” เขากล่าว
แต่เขาเตือนว่าชาวปาเลสไตน์กำลังเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายลงเนื่องมาจากการยึดครองโดยผิดกฎหมายของอิสราเอล
“สงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอล (ในฉนวนกาซา) ทำให้เกิดการสูญเสีย ความทุกข์ทรมาน และภัยพิบัติด้านมนุษยธรรมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเป็นเวลาเกือบหนึ่งปีแล้ว” มุสตาฟากล่าว
“ในขณะเดียวกัน ประชาชนของเราในเขตเวสต์แบงก์ รวมถึงเยรูซาเล็มตะวันออก ยังคงเผชิญกับภัยคุกคามอย่างเป็นระบบ” เขากล่าวเสริม
“เป็นเวลากว่า 76 ปีแล้วที่ประชาชนของเราถูกบังคับให้เผชิญกับภัยพิบัติจากฝีมือมนุษย์หลายครั้ง ซึ่งบั่นทอนความพยายามของเราในการบรรลุความยุติธรรม สันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองโดยตรง” มุสตาฟากล่าว
“แม้จะถูกกดขี่และยึดครองมานานหลายปี แต่ประชาชนของเราก็ยังคงมั่นคง เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าทุนมนุษย์คือทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา”