เทศกาลไทยในย่านการทูตริยาดเป็นการเฉลิมฉลองทั้งวัฒนธรรมอันหลากหลายของประเทศไทย และมิตรภาพที่เบ่งบานกับซาอุดีอาระเบีย
อาหรับนิวส์รายงานว่า ริยาดได้รับเลือกเป็น 1 ใน 6 เมืองเรือธงของโลกที่จะจัดงานเทศกาลนี้ ร่วมกับวอชิงตัน ดี.ซี. ปักกิ่ง นิวเดลี ฮานอย และปารีส
ในงานแถลงข่าวก่อนงานเทศกาล ซึ่งเปิดให้สาธารณชนเข้าร่วมได้ในวันที่ 2 และ 3 พฤษภาคม ดาม บุญธรรม เอกอัครราชทูตไทยประจำซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า “นี่คือช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจสำหรับเรา และเป็นโอกาสอันดีที่จะได้แบ่งปันประเพณีอันยาวนาน และความคิดสร้างสรรค์สมัยใหม่ของประเทศไทยให้กับเพื่อนชาวซาอุดีอาระเบียของเราได้สัมผัส”
เทศกาลดังกล่าวจัดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญ คือ ครบรอบ 3 ปี นับตั้งแต่การกลับมาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและซาอุดีอาระเบีย
“งานนี้ถือเป็นการเฉลิมฉลองมิตรภาพอันแน่นแฟ้นและเติบโตระหว่างประเทศและประชาชนของเรา” ทูตไทยกล่าวต่อ
ปีนี้ ธีมของงานคือ “ชีพจรแห่งประเพณี ชีพจรแห่งอนาคต” สะท้อนให้เห็นถึงความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของประเทศไทยและความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรม
เทศกาลดังกล่าวจะมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ และบริการของไทยมากมาย อาทิ งานหัตถกรรมจากชุมชนท้องถิ่นในประเทศไทย การสาธิตสด ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความสมบูรณ์ของร่างกาย การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และอาหารไทย
นอกจากนี้ยังมีการแสดงทำอาหารสดโดยเชฟชาวไทยผู้มีชื่อเสียง การฉายภาพยนตร์ไทยยอดนิยมหลายเรื่อง ตามด้วยช่วงถาม-ตอบ การแสดงดนตรีและวัฒนธรรม การสาธิตมวยไทย แฟชั่นโชว์โดยนักออกแบบชาวไทย และการแสดงโขน
โขน ซึ่งเป็นศิลปะการละครสวมหน้ากากแบบดั้งเดิมที่ประกอบไปด้วยดนตรีและการเต้นรำ ตลอดจนองค์ประกอบของพิธีกรรม วรรณกรรม และหัตถกรรม ได้รับการบรรจุอยู่ในรายชื่อมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของ UNESCO แล้ว ทูตไทย กล่าว
“เราขอเชิญทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นชาวซาอุดีอาระเบีย ผู้มีถิ่นพำนักอาศัยในซาอุดีอาระเบีย และมิตรสหายทุกท่านของประเทศไทย มาร่วมเฉลิมฉลองครั้งพิเศษนี้กับเรา เพื่อร่วมเพลิดเพลินไปกับวิทยาศาสตร์ด้านเสียงและรสชาติของประเทศไทย และร่วมกันสร้างมิตรภาพอันอบอุ่นและยั่งยืนระหว่างสองประเทศที่ยิ่งใหญ่ของเราต่อไป”
เทศกาลนี้จัดโดยสถานเอกอัครราชทูตไทยในซาอุดีอาระเบีย ร่วมกับภาคเอกชนและภาครัฐของไทย รวมถึงบริษัท SGC International ในเครือบริษัทห่วงโซ่อุปทานของไทยในริยาด และยังมีบริษัทเอกชนของซาอุดีอาระเบียและไทยให้การสนับสนุนด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของไทยและซาอุดิอาระเบีย สุดาวัน หวังศุภกิจโกศล และเจ้าชายบาดร์ บิน อับดุลเลาะห์ อัล ซาอูด เข้าร่วมงานนี้
เอกอัครราชทูตไทยกล่าวว่าวัตถุประสงค์ของเทศกาลนี้ไม่ใช่แค่เพียงด้านการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมทุกสิ่งที่ประเทศไทยสามารถนำเสนอได้ในแง่ของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ นวัตกรรม และวิธีที่ประเทศไทยจะใช้ประโยชน์จาก Saudi Vision 2030 และแผนริเริ่มสีเขียวของราชอาณาจักรได้อย่างไร
ทูตดามยังยืนยันแผนการของ แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ซึ่งเป็นสายการบินราคาประหยัดใหม่จากประเทศไทยที่จะเปิดตัวบริการเที่ยวบินจากริยาดไปยังกรุงเทพฯ “เร็วๆ นี้” ด้วย
ทูตไทยยังได้กล่าวไว้อีกว่า พื้นที่ความร่วมมือที่กำลังพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดระหว่างทั้งสองประเทศคือเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ปริมาณการค้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 25 เปอร์เซ็นต์ และเอกอัครราชทูตไทยมั่นใจว่า “มีกลไกทั้งหมดที่จำเป็น” เพื่อรองรับการเติบโตต่อไป
ในปี 2024 มูลค่าการค้าพุ่งถึง 8.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีความหวังว่าภายใน 2 ปี ตัวเลขดังกล่าวจะพุ่งถึง 10 พันล้านเหรียญสหรัฐ เขากล่าวเสริม
เขายังกล่าวอีกว่าบริษัท SGC International ซึ่งเป็นบริษัทของไทยที่รู้จักกันดีในด้านวัสดุก่อสร้างและกำลังขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจปิโตรเคมี อาหาร และการแปรรูปอาหาร ว่าเป็นสัญญาณการลงทุนที่มีแนวโน้มดีในซาอุดีอาระเบีย
การแบ่งปันเทคโนโลยีในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยีการบริโภคสีเขียว ถือว่า “แพร่หลายมาก” และมีแนวโน้มที่ดี เขากล่าวเสริม
การท่องเที่ยวเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ความร่วมมือขนาดใหญ่ เมื่อปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียราว 230,000 คนเดินทางมาเยือนประเทศไทย และนักท่องเที่ยวไทย 13,000 คนเดินทางมาเยือนซาอุดีอาระเบีย คาดว่าตัวเลขทั้งสองนี้จะเพิ่มมากขึ้นในปีต่อๆ ไป เอกอัครราชทูตกล่าว
ทูตดาม กล่าวว่า “นักเรียนไทยจำนวนมาก” กำลังเดินทางมาศึกษาต่อที่ประเทศซาอุดีอาระเบียเช่นกัน และประเทศไทยก็กำลังดำเนินการอย่างหนักเพื่อส่งเสริมให้ชาวซาอุดีอาระเบียมาศึกษาในประเทศไทยมากขึ้น
ในด้านการศึกษาด้านการบริการโดยเฉพาะ “ประเทศไทยมีสิ่งต่างๆ มากมายที่จะมอบให้กับนักเรียนซาอุดีอาระเบีย” ทูตดามกล่าว ในปี 2024 มีบุคคลจากซาอุดีอาระเบีย 50 คนไปฝึกอบรมในโรงแรมและสถาบันต่างๆ ของไทย







