คลื่นทะเลกระหน่ำพื้นที่แหลมตะลุมพุก จ.นครศรีฯ อย่างหนัก ระดับน้ำทะเลยกตัวสูงไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะนี้ “วัดแหลมตะลุมพุก” ถูกกระแสน้ำทะเลยกตัวพัดท่วมทั้งวัด ซ้ำร้ายบ้านริมฝั่งทะเลหลายหลังถูกคลื่นซัดพัง บางรายต้องอพยพสิ่งของออกจากบ้านเรือน
วันนี้ (22 ธ.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช สภาพคลื่นกำลังแรงจัดที่พัดเข้าถล่มหมู่บ้านชาวประมงแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช อย่างต่อเนื่อง โดยคลื่นมีกำลังแรงจัดพัดเข้าใส่บริเวณที่จอดเรือจนไม่สามารถต้านทานแรงคลื่นได้ ชาวประมงต้องอพยพเรือประมงเข้าไปไว้ในหมู่บ้าน ขณะที่ระดับน้ำทะเลได้ยกตัวสูงขึ้น และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน หลายหลังอยู่ในสภาพวิกฤต และไม่สามารถอพยพไปอาศัยอยู่ที่อื่นได้ เนื่องจากเป็นที่ดินเพียงผืนเดียว และหลายจุดถูกกัดเซาะอย่างหนัก ต้นมะพร้าวอยู่ในสภาพล้มระเนระนาด
ขณะที่ชาวบ้านระบุว่า มรสุมระลอกนี้ถือว่าหนักที่สุดในรอบหลายปี แต่ละครอบครัวที่ไม่สามารถอพยพไปไหนได้ต้องอยู่ในสภาพเดือดร้อนอย่างหนัก แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าให้การช่วยเหลือ โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลาที่คลื่น และลมกำลังซัดหมู่บ้าน ชาวบ้านอยู่ในสภาพต้องช่วยตัวเองเพื่อนำเอาทรัพย์สินที่มีให้รอดพ้นจากกระแสคลื่นที่ถล่มเข้ามาอย่างหนัก
ส่วนวัดแหลมตะลุมพุก ตำบลแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช อยู่ในสภาพที่ถูกกระแสน้ำทะเลยกตัวพัดเข้าท่วมบริเวณวัดทั้งวัด ซึ่งได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่พระเณรที่จำพรรษาอยู่ในวัด เช่นเดียวกับโรงเรียนวัดแหลมตะลุมพุก ที่ถูกทะเลหนุนท่วมเช่นเดียวกัน นอกจากนั้น ยังพบว่ามีบ้านเรือนของประชาชนอีกหลายหลัง ย่านหมู่ที่ 2 ตำบลท่าพญา ที่ถูกกระแสคลื่นเข้าพัดจนบ้านพังเสียหายทั้งหลัง อีกหลายหลังที่เจ้าของพอมีกำลังต่างเร่งรื้อถอนวัสดุอุปกรณ์ที่สามารถใช้การได้ออกไปก่อนท่ามกลางกระแสคลื่นที่พัดเข้าหาฝั่งอย่างรุนแรงพร้อมทั้งกัดเซาะชายฝั่งอย่างหนัก โดยต่างระบุว่าตลอด 30 ปีที่ผ่านมา คลื่นลมไม่เคยมีกำลังแรงเช่นนี้มาก่อน รวมทั้งการกัดเซาะจนไม่มีที่อยู่อาศัย และเป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มีหน่วยงานไหนเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนในขณะนี้เลย
ขณะที่ชาวบ้านย่านหมู่ที่ 10 ตำบลท่าพญา ต้องอพยพสิ่งของออกจากบ้านเรือน และเตรียมรื้อบ้านหลังจากคลื่นซัดเข้ามาจนไม่สามารถอาศัยได้อีกแล้ว โดยต่างระดมลูกหลานเข้ามาช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ออกจากตัวบ้านที่กำลังถูกคลื่นซัดอย่างรุนแรง
ส่วนถนนสายปากพนัง-หัวไทร ชาวบ้านหน้าโกฏิ ตำบลท่าพญา ตำบลขนาบนาค แขวงการทางนครศรีธรรมราช ต้องเข้ากู้ผิวจราจรหลังจากถูกคลื่นซัดหอบเอาทรายจำนวนมาก รวมทั้งเศษขยะต่างๆ ขึ้นมากองบนผิวจราจรท่ามกลางกระแสคลื่นพัดกระหน่ำ โดยหลังจากกระแทกเข้ากับฝั่งคลื่นม้วนตัวสูงกว่า 10 เมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าระบุว่า ได้ตัดกระแสไฟฟ้าแรงสูงที่ถูกซัดตลอดเวลาไปแล้วกว่า 1 สัปดาห์ ขณะที่การส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ใช้สายส่งเส้นทางอื่น
ส่วนที่ตำบลหน้าสตน อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องกลหนักนำหินขนาดใหญ่เข้าป้องกันแนวชายฝั่ง โดยเฉพาะช่วงที่มีบ้านเรือนของประชาชนเป็นจำนวนมากท่ามกลางคลื่นลมแรง แต่ยังไม่สามารถบรรเทาความรุนแรงของกระแสคลื่นได้ ยังคงมีการกัดเซาะพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยหลายหลังอยู่ในสภาพปิดตาย และใกล้พังถล่มเนื่องจากเจ้าของบ้านอพยพออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย