ซาอุดีอาระเบียย้ำ “โอเปก” ไม่ลดกำลังผลิต แม้ราคาน้ำมันหล่นเหลือ 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ระบุไม่ยอมเจ็บตัวเพื่อปล่อยให้ผู้ผลิตนอกกลุ่มฉวยโอกาสชิงส่วนแบ่งตลาด ทางด้านสมาชิกโอเปกบางประเทศระบุว่า เชื่อตลาดเริ่มมีเสถียรภาพ และปลายปีหน้าราคาน้ำมันจะดีดกลับอยู่ที่ 70-80 ดอลลาร์ แต่คงไม่ได้เห็นราคาระดับหลักร้อยไปอีกนาน
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์นิตยสารรายสัปดาห์ของแวดวงน้ำมัน “มิดเดิล อีสต์ อิโคโนมิก เซอร์เวย์” (MEES) ซึ่งถือเป็นการแสดงความคิดเห็นอย่างละเอียดที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก อาลี อัล-ไนมิ รัฐมนตรีน้ำมันซาอุดีอาระเบีย ย้ำว่า แม้ราคาน้ำมันตกลงเหลือ 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล องค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ก็จะไม่ลดกำลังผลิต
ไนมิยังปกป้องการตัดสินใจเมื่อเดือนที่แล้วของโอเปกในการคงเพดานการผลิตที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน (บีพีดี) ซึ่งฉุดราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกควงสว่านหนักกว่าเดิม จนราคาตกลงแล้วถึง 50% นับจากเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ชี้ว่า ซาอุดีอาระเบียนั้นเป็นผู้ที่แสดงบทบาทมาตลอดในการรักษาสมดุลของอุปสงค์และอุปทานในตลาดน้ำมันโลก โดยถ้าหากเห็นว่าราคาพุ่งขึ้นแรงเกินไป ก็จะเพิ่มการผลิตของตน แต่เมื่อราคาลดต่ำเกินไป ก็จะลดการผลิต ทั้งนี้เนื่องจากซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศเดียวที่มีกำลังผลิตสำรองมหาศาล ดังนั้นจึงสามารถเพิ่มหรือลดการผลิตของตนได้อย่างไม่ยากเย็น
เวลานี้ประเทศนี้ผลิตน้ำมันราว 9.6 ล้านบีพีดี และ ไนมิวิจารณ์ว่า การที่จะมาคาดหวังให้ซาอุดีอาระเบียลดการผลิตลง เพื่อพยุงราคา แต่แล้วริยาดเองก็ต้องเป็นผู้สูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้พวกประเทศผู้ผลิตรายสำคัญๆ นอกกลุ่มโอเปก อย่าง รัสเซีย บราซิล และสหรัฐฯนั้น ผู้ที่คิดเช่นนี้กำลังใช้ “หลักเหตุผลแบบขี้โกง”
ตลาดน้ำมันโลกมีการแข่งขันดุเดือดขึ้นชัดเจนจากการที่กำลังผลิตของอเมริกาเพิ่มขึ้นกว่า 40% นับจากปี 2006 แต่มีต้นทุนการผลิตสูงกว่าน้ำมันจากตะวันออกกลาง 3-4 เท่า
ไนมิสำทับว่า เป็นการไม่ยุติธรรมที่จะให้โอเปกลดกำลังผลิต เนื่องจากโอเปกเป็นเพียงผู้ผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แต่ไม่ใช่ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก เพราะปัจจุบัน โอเปกมีกำลังผลิตเพียง 40% ของปริมาณการผลิตทั่วโลก
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันในตลาดเอเชียในการซื้อขายช่วงบ่ายวันอังคาร (23) กระเตื้องขึ้นจากความคาดหวังที่มีต่อตัวเลขเศรษฐกิจของอเมริกา โดยน้ำมันดิบเวสต์ เทกซัสสัญญาส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ทะยานขึ้น 64 เซ็นต์ อยู่ที่ 55.90 ดอลลาร์ ส่วนน้ำมันดิบชนิดเบรนท์สัญญาส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์เดินหน้า 33 เซ็นต์ อยู่ที่ 60.44 ดอลลาร์
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าผู้ผลิตชาติอื่นๆ ในโอเปกคาดหวังว่า แม้โอเปกไม่ลดการผลิต ราคาน้ำมันในตลาดโลกก็จะดีดกลับไปอยู่ที่ 70-80 ดอลลาร์ปลายปีหน้า เมื่อเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวและช่วยให้ดีมานด์ฟื้นตาม ขณะที่สหรัฐฯต้องยอมชะลอกำลังผลิตลง เนื่องจากเป็นการผลิตน้ำมันดิบจากหินน้ำมันซึ่งต้นทุนสูง
ผู้แทนที่หลายคนมาจากประเทศอ่าวเปอร์เซียบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ไม่คิดว่าราคาน้ำมันจะกลับไปอยู่ที่ 100 ดอลลาร์ในเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นระดับที่ผู้ผลิตใหญ่หลายรายมองว่า “เป็นธรรม” แต่ขณะเดียวกัน ก็เป็นระดับที่ชักนำให้ผู้ผลิตที่มีต้นทุนสูงเกิดกำลังใจและพากันเพิ่มกำลังผลิต
ตัวแทนจากประเทศอ่าวเปอร์เซียคนหนึ่งระบุว่า ราคาน้ำมันอาจเคลื่อนไหวอยู่แถวๆ 60 ดอลลาร์หรือต่ำกว่านั้นเล็กน้อยไปอีกหลายเดือน ก่อนขยับสู่ระดับที่ยอมรับได้คือ 80 ดอลลาร์ ซึ่งอาจต้องใช้เวลา 8-12 เดือนนับจากนี้
ทางด้าน อาเดล อับเดล เมห์ดี รัฐมนตรีน้ำมันอิรัก ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันจันทร์ (22) ว่า ราคาน้ำมันเริ่มมีเสถียรภาพแล้วในขณะนี้ที่ประมาณ 60 ดอลลาร์ และอาจขึ้นถึง 70 ดอลลาร์กลางปีหน้า
ตัวแทนอีกคนจากอ่าวเปอร์เซียมองว่า ราคาน้ำมันปีหน้าจะขึ้นไม่ถึง 100 ดอลลาร์ เว้นแต่การผลิตเกิดการหยุดชะงักรุนแรงเท่านั้น โดยราคาเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ 70-80 ดอลลาร์
การแสดงความคิดเห็นเหล่านี้ดูเหมือนเป็นครั้งแรกที่โอเปกพูดชี้นำเกี่ยวกับทิศทางราคาน้ำมันในปี 2015 และถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้บริหารบริษัทน้ำมัน นักวิเคราะห์ และเทรดเดอร์ ที่ยังคงงงงันกับการกลับลำนโยบายของซาอุดีอาระเบีย จากที่เคยท่องจนติดปากว่า ราคาน้ำมันที่ 100 ดอลลาร์เป็นราคาที่ยุติธรรมอย่างน้อยในอนาคตอันใกล้ แต่จู่ๆ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ริยาดกลับบอกว่า โลกอาจไม่ได้เห็นราคาน้ำมันที่ตัวเลข 3 หลักอีกแล้ว และถึงเวลาแล้วที่ประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะลดกำลังผลิต เนื่องจากโอเปกคงไม่สามารถรับภาระนี้อีกต่อไปและปล่อยให้ผู้เล่นอื่นๆ ช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดไปต่อหน้าต่อตา