พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงผลงานรัฐบาล 3 เดือน ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 25 ธันวาคม 2557 เวลา 09.00 น.
สวัสดีทุกคนครับ สวัสดีก่อนปีใหม่ ถือว่าเป็นการพบปะกันเป็นทางการก่อนวันขึ้นปีใหม่ที่จะมาถึงในเร็ววันนี้นะครับ วันนี้อยากจะเรียนว่าผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งนะครับที่ได้มีโอกาสมาแถลงผลงานของรัฐบาลในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนกันยายน จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ซึ่งการดำเนินการนั้นก็ต่อเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ด้วย วันนี้ทำงานควบคู่กันไปช่วยกันทำงานในลักษณะการประสานการปฏิบัติ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะว่าท่านก็ทราบดีอยู่แล้วว่าปัญหามีหลายอย่างด้วยกัน บางอย่างก็แก้ไขด้วยระบบราชการปกติได้ บางอย่างต้องอาศัยอำนาจพิเศษในการดำเนินการ ซึ่งก็ทำให้สถานการณ์เรียบร้อยดีขึ้นตามลำดับ แต่อย่างไรก็ตามผมคิดว่าที่เราทำมานั้นยังไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับที่จะทำให้ประเทศชาติเรามั่นคงและยั่งยืนในวันข้างหน้า อย่างไรก็ตามต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกท่าน วันนี้ก็เตรียมมาเยอะเหมือนกัน เดี๋ยวท่านรองนายกรัฐมนตรีแต่ละฝ่ายคงจะชี้แจงในรายละเอียด ผมจะพูดในเรื่องของหลักการ ในเรื่องของแผนงานที่จะต้องเดินกันต่อไปว่าอย่างไรในอีก 3 เดือนต่อไป คงมีวาระในเรื่องของทำความเข้าใจทั้งส่วนราชการ ทั้งสื่อ เพราะว่าการทำงานของเรานั้นจะต้องประกอบด้วย 3 ส่วนด้วยกัน คือนโยบาย และขับเคลื่อน และผู้ปฏิบัติ ทั้ง 3 อย่างทั้ง 3 ส่วนนั้นต้องประสานสอดคล้องซึ่งกันและกันให้ได้ครับ
วันนี้เรามีหน้าที่อยู่ 3 ประการด้วยกัน ผมขออนุญาตทำความเข้าใจกับพวกเราเล็กน้อยครับ ผมพยายามจะพูดให้สั้น ๆ นะครับและจะได้ให้เวลากับท่านรองนายกรัฐมนตรีมากหน่อยนะครับ เพราะผมพูดมาบ่อยแล้วเกือบทุกวัน วันนี้เรามีภารกิจ 3 ประการด้วยกันคือ 1. การรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งวันนี้ใช้ทั้ง คสช. ใช้ทั้งส่วนราชการปกติดำเนินการอยู่ 2. การขับเคลื่อนบริหารประเทศในลักษณะที่เป็นรัฐบาลและมี คสช. เป็นผู้ช่วยเหลือ เพราะฉะนั้นในเรื่องของการขับเคลื่อนประเทศนั้นเราก็ใช้ระเบียบวิธีการบริหารราชการแผ่นดินปกติเป็นหลัก เพียงแต่เราเพิ่มเติมปรับปรุงวิธีการดำเนินงานของพวกเรา ให้มีลักษณะในการบูรณาการประสานงานสอดคล้องกันให้มากขึ้น ส่วนที่ 3. งานสำคัญคือการปฏิรูปและการร่างกฎหมายต่าง ๆ ของทั้ง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ทั้ง 3 อย่างนั้นจะต้องเดินไปตามโรดแม็ปที่กำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่กำหนดไว้ ว่าเราจะมีการเลือกตั้งกันอย่างไรเมื่อไร ผมไม่อยากให้พูดคำนี้ว่าจะวันนั้นวันนี้เดือนนี้ ทุกอย่างกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญไว้เรียบร้อยแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นก็ไปดูสิว่าขั้นตอนเป็นอย่างไร ท่านทำได้สำเร็จตรงไหนก็ตรงนั้นครับ เร็วที่สุดก็เร็วที่สุด ผมไม่ได้ไปยืดเยื้อไปดึงเวลาไปต่าง ๆ เพราะฉะนั้นอยู่ที่พวกท่านทุกคน ไม่ใช่โยนกลับมาที่ผมคนเดียว ผมเข้ามาเป็นกรรมการ เข้ามาเป็นครูใหญ่ มาแนะนำ ทำให้เกิดความรวดเร็วขึ้นในการทำงานเท่านั้นเอง อาจจะมีความเป็นทหาร มีความรวดเร็วอยู่บ้าง บางท่านก็อาจจะไม่เข้าใจ ผมก็ทุกครั้งที่สั่งอะไรลงไปหรือเป็นนโยบายลงไปนั้นผมก็นอนไม่หลับ กว่าจะคิดออกมาได้ กว่าจะศึกษารายละเอียดได้ ผมก็ต้องทำการบ้านเยอะพอสมควร โดยเฉพาะกราบเรียนว่าอย่ากังวลว่าเราจะใช้อำนาจโดยที่ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อน ไม่คำนึงถึงชื่อเสียงของประเทศชาติในสายตาของคนภายนอก เพราะฉะนั้นผมคิดว่าวันนี้เราจำเป็นต้องแก้ปัญหาภายในประเทศของเราให้ได้ เพื่อที่จะยืนหยัดอยู่ในเวทีนานาชาติได้ในโอกาสต่อไปในวันข้างหน้า ถ้าเราไม่เริ่มวันนี้ วันหน้าเราก็ไปไม่ได้ ผมคิดว่าแน่นอนครับต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน หรือใครมีความคิดเป็นอย่างอื่นก็ไม่ทราบ
ในส่วนของการดำเนินการครั้งนี้มีผลงาน 3 เดือน ถ้าจะสรุปว่างานเร่งด่วนคืออะไรบางคนอาจจะไม่เข้าใจว่าสำเร็จหรือเปล่า สำเร็จอะไรไปบ้าง ไม่เห็นเป็นเนื้อเป็นหนัง ไม่เห็นได้อะไรเลย เราบอกไปแล้วว่าเราทำงาน 3 ระยะด้วยกัน ระยะเร่งด่วน ตอนนี้ผมถือว่าอยู่ในระยะเร่งด่วน ในตอนแรก คสช. ใช่ไหมครับ ระยะที่ 2 คือระยะกลางปานกลางก็คือในห้วง 1 ปีที่จะมีการปฏิรูปโดยประมาณ ระยะที่ 3 คือระยะยาวอย่างยั่งยืน เพราะฉะนั้นที่เราทำงานวันนี้ต้องประสานสอดคล้องทั้ง 3 ระยะนี้ให้ได้ เพราะฉะนั้นขณะที่เราอยู่ในระยะที่ 2 ระยะที่มีการปฏิรูป อยู่ในห้วงที่ 1 3 เดือนแรก เพราะฉะนั้นเรามีเวลาอีกไม่มากในการที่จะทำทั้งหมด ซึ่งผมคิดว่าทุกท่านทราบดีว่ามีปัญหาอะไรอยู่บ้างในปัจจุบันนะครับ ค่อย ๆ ทำกันไป ค่อย ๆ แก้กันไป ท่านก็น่าจะพอรับรู้ได้ว่าเรากำลังเผชิญสถานการณ์อะไรอยู่นะครับ เราจะต้องสร้างความเข้มแข็งของประเทศ ซึ่งการสร้างความเข้มแข็งนั้นเข้มแข็งสร้างด้วยประเทศชาติ ประกอบด้วยคน ด้วยแผ่นดิน และด้วยหัวใจ ทั้งกายทั้งใจต่าง ๆ ที่จะต้องทุ่มเท นั่นเขาเรียกว่าความเป็นชาติของเรา เพราะฉะนั้นถ้าเรายังมุ่งเน้นถึงเรื่องผลประโยชน์ของตนเอง ความขัดแย้งของตนเอง การใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้อง ไม่สุจริต ไม่เป็นธรรม ไม่ชอบธรรม ผมว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่สร้างความอ่อนแอให้กับประเทศของเรานะครับ ความมีเสถียรภาพต่าง ๆ ความสงบสุขก็ไม่เกิดขึ้น วันนี้เราต้องใช้วิกฤตเหล่านี้เป็นโอกาสให้ได้ เป็นโอกาสสำคัญของเราที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศชาติของเราไปสู่ความมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต
ที่ใดก็ตามที่มีความขัดแย้ง เราก็ต้องแก้ไข ประเด็นใดที่เป็นความเห็นต่างก็ต้องแก้ไข หาทางร่วมมือกันให้ได้ ถ้าเราเอาความขัดแย้งทั้งหมดมาตีขึ้นมา มาเขียนเป็นข้อ ๆ มันอาจจะดูเยอะ เป็นร้อย ๆ เรื่อง แต่ในร้อยเรื่องอาจจะมีเรื่องที่ตรงกันอยู่แล้ว ถึงจะขัดแย้งแต่หาทางลงกันให้ได้สัก 50-60 เรื่อง ก็จะเหลือเรื่องที่ทำยาก ๆ อีก 50 เรื่อง เพราะฉะนั้นถ้าเราเอาทั้งร้อยเรื่องมาสร้างประเด็นความขัดแย้งกันไปก็ไม่มีวันจบสิ้นนะครับ เพราะฉะนั้นผมคิดว่าเราต้องลดปัญหาทั้งหมดที่มีเป็นจำนวนมากให้ได้โดยเร็ว โดยปรับในสิ่งที่ตรงกัน สิ่งที่จะลดราวาศอกเข้าหากันให้ได้ ตรงนี้จะลดไปเยอะ ที่เหลือก็มาว่ากัน ด้วยความคิดเห็นของคนที่ยอมรับในกติกาซึ่งกันและกันนะครับ เพราะฉะนั้นเราต้องใช้วิกฤตวันนี้เป็นโอกาสให้ได้ ให้บ้านเมืองของเรามีความเข้มแข็ง ด้วยการใช้การแก้ความขัดแย้งทุกประเทศในโลก หรือทุกพรรคในโลกนี้เขาใช้ความขัดแย้งด้วยอะไร ด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญกระบวนการยุติธรรม ที่เป็นธรรมและโปร่งใส เรามีทั้งศาล เรามีทั้งองค์กรอิสระต่าง ๆ มากมาย เพราะฉะนั้นเราต้องให้เขาทำหน้าที่ ให้ได้รับความเชื่อมั่นเชื่อถือ ผมก็ต้องถามกลับไปว่าแล้วท่านจะทำอย่างไร ท่านก็ต้องให้เสรีให้อิสระเขาในการทำงานนะครับ ซึ่งเราเดี๋ยวผมจะพูดต่อไปในเรื่องนี้อีกทีครับ
ในเรื่องของการทำงานกระบวนการยุติธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ยาก ก็ต้องให้กำลังใจกับฝ่ายกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นทางก็คือเจ้าหน้าที่ เพราะฉะนั้นกระบวนการยุติธรรมจะเริ่มจากเจ้าหน้าที่ที่บังคับใช้กฎหมาย ซึ่งบางครั้งก็ต้องเห็นใจในการทำหน้าที่ เราอาจจะต้องมีกฎหมายมาดูแลเขาบ้างไหม ไม่ใช่เอากฎหมายมาเพื่อให้เขามีอำนาจเหนือประชาชน คงไม่ใช่อย่างนั้น ทุกอย่างผมคิดว่าถ้าเราสร้างการยอมรับซึ่งกันและกัน สร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมได้ โดยไม่มีปัญหาอย่างเช่นเดิมมาก่อน มันก็จะทำให้ประชาชนลดความขัดแย้งลงได้มากมาย
ในเรื่องของการทำงานในประเทศเรานั้น แก้ไขความขัดแย้ง สร้างความปรองดอง วางพื้นฐานประเทศชาติทุกด้าน เศรษฐกิจ สังคม กฎหมายกระบวนการยุติธรรม การจัดระเบียบต่าง ๆ เหล่านี้ และขณะเดียวกันในประเทศเราก็ทำ ต่างประเทศเราก็ต้องพัฒนาความสัมพันธ์กับต่างประเทศ เพราะวันนี้โลกเป็นประชาคม ไม่ใช่เป็นประเทศใดประเทศหนึ่ง ทุกวันนี้เราเริ่มที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปีหน้า AEC ในปีหน้า ซึ่งคาบเกี่ยวทั้งความมั่นคง ทั้งสังคมจิตวิทยา วัฒนธรรม ทั้งเศรษฐกิจ ทั้งหมด ทุกประเทศในโลกหรือทุกประชาคมโลกถือว่าเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ วันนี้ไม่ใช่ผู้แข่งขัน เขารวมกันเป็นหุ้นส่วน ประชาคมโน้นประชาคมนี้ก็คือหุ้นส่วน เพราะทุกประเทศในแต่ละประชาคมก็จะเป็นหุ้นส่วนซึ่งกันและกัน ต้องได้รับผลประโยชน์ที่ทัดเทียม เพราะฉะนั้นเราต้องสร้างความเข้มแข็ง วันนี้เราไม่ได้มองแค่ประเทศไทย ถ้ามองประเทศไทย ไปไม่ได้ ว่าทำอย่างไรเราจะได้ผลประโยชน์มากที่สุด ทำอย่างไรเราจะได้เป็นผู้นำทั้งหมด ไม่ใช่ เป็นการสร้างความรู้สึก ความขัดแย้ง เพราะฉะนั้นวันนี้เราเดินนโยบายว่าเราให้ความสำคัญกับต่างประเทศเสมอกัน เราต้องสร้างความเข้มแข็งให้อาเซียนให้ได้ อาเซียนที่เราได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนพบมา ทุกประเทศชื่นชมประเทศไทย ขอให้ประเทศไทยมีความสงบสุข เขาพร้อมที่จะร่วมมือกับเราทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนเมื่อจะรัฐบาลไหนก็ตามต้องทำหน้าที่ตรงนี้ให้ได้ เพราะฉะนั้นเราต้องเป็นหุ้นส่วน สร้างหุ้นส่วนกันในอาเซียนให้ได้ ในประชาคมเศรษฐกิจ AEC นี้ให้ได้ ทางด้านเศรษฐกิจและด้านอื่น ๆ ด้วย เมื่อเรามองเศรษฐกิจโดยรวมแล้ว เรามองประชาคมอาเซียนแล้ว เราก็กลับมามองประเทศไทยว่าเรามีความสอดคล้องสอดประสานกับที่เราจะเดินหน้าต่อไปได้หรือยัง เราก็ต้องมองวางยุทธศาสตร์ของประเทศเรา เราจะวางอย่างไร ผมได้กำหนดไว้ผมก็คิดง่าย ๆ ว่าเราต้องกำหนดวิสัยทัศน์ของประเทศเราใน 5 ปีข้างหน้าให้ได้ แต่ก่อนมาอย่างไรผมไม่ทราบ ก็เขียนกันมาก็ปฏิบัติบ้างไม่ปฏิบัติบ้าง วันนี้ต้องปฏิบัติ รัฐบาลนี้ยังอยู่ต้องปฏิบัติ ก็คือวิสัยทัศน์ 2015 – 2020 5 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะต้องเป็นประเทศที่มั่นคง ประชาชนมั่งคั่งและยั่งยืนตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เศรษฐกิจพอเพียง นี่คือวิสัยทัศน์ของเรา ของคนไทยทุกคนด้วยนะครับ
เพราะฉะนั้นทุกคนดูสิว่าตัวเองอยู่ในส่วนไหน เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตรงไหน ต้องมีทั้งส่วนได้และส่วนเสีย เพราะฉะนั้นต้องมีการเผื่อแผ่แบ่งปัน ต้องนำประเทศก้าวข้ามจากกับดักคำว่าประชาธิปไตยให้ได้ เราติดกับดักตัวนี้มานานแล้ว ตั้งแต่ พ.ศ. 2475 เราได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมา และมีการปฏิวัติรัฐประหารมาหลายครั้งเต็มที่ ผมคิดว่าวันหน้าเราแก้ปัญหาอย่างนี้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องสร้างความเข้มแข็งของประเทศเรา ของคนของเราทุกภาคส่วนให้ได้ ตั้งแต่คนที่มีรายได้น้อยขึ้นมาจนถึงรายได้สูง สูงมากเป็นเศรษฐีอะไรก็ว่าไป เราไม่สามารถจะดึงกลับมาสู่สังคมในระบบสังคมนิยมได้ ทุกคนเท่าเทียมกันมันเป็นไปไม่ได้แล้ววันนี้ แต่ก่อนนี้ทุกคนก็อาจจะยากจนพอ ๆ กัน เสื่อผืนหมอนใบมา แต่เขาก็อดทนสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมา วันนี้อาจจะสร้างอย่างนั้นไม่ได้แล้ว เพราะว่าทรัพยากรลดลง ๆ เพราะฉะนั้นเราก็จะไปรังเกียจรังงอนใครคนใดคนหนึ่งคงไม่ได้ แต่ทำอย่างไรคนเหล่านั้นจะกลับมาดูคนที่ด้อยกว่า คนที่มีโอกาสน้อยกว่า ทำให้เขามีโอกาสที่จะพัฒนาตนเองให้ได้
วันนี้บ้านเมืองเรามีความสงบสุขพอสมควร ผมใช้คำพอสมควรทุกคนอาจจะมองว่าไม่เห็นมีอะไรเลย ก็ควรจะมีรัฐบาลที่ถูกต้องได้โดยเร็ว มันเป็นกายภาพครับ คำว่ากายภาพของผมคือดูเรียบร้อยไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีประท้วง แต่สิ่งที่เป็นต้นเหตุสาเหตุความขัดแย้งยังมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบุคคล ไม่ว่าจะเป็นอาวุธสงคราม ไม่ว่าจะเป็นอะไรต่าง ๆ นี่ผมไม่ได้มาพูดให้ทุกคนตื่นตระหนก เพียงแต่ว่าเราก็ทำทุกอย่างคู่ขนานกันไป ถ้าตราบใดที่สิ่งเหล่านี้ยังไม่ยุติ ต้นตอความขัดแย้งไม่เลิก และกระบวนการยุติธรรมยังไม่สิ้นสุด ก็แก้อะไรไม่ได้อีกเหมือนเดิม ผมก็เพียงแต่รักษาสภาพไว้ให้ได้เท่านั้นเอง ซึ่งเป็นอันตรายต่อการเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ในอนาคตด้วย หวังว่าทุกคนคงเข้าใจนะครับ
เพราะฉะนั้นวันนี้สิ่งที่เราต้องการวันนี้คือทำอย่างไรจะขับเคลื่อนประเทศไปให้ได้ ทำอย่างไรประเทศจะปรองดอง ทำอย่างไรกฎหมายกระบวนการยุติธรรมจะสามารถนำเข้าสู่กระบวนการที่ตรวจสอบได้ ก็ต้องสร้างความเข้าใจทั้งในประเทศ ผมว่าในประเทศวันนี้เข้าใจกันมากขึ้นแล้ว จากกระแส จากเสียง แน่นอนครับไม่มีใครสามารถจะทำให้ทุกคนเห็นตามความคิดของตัวเองได้ทั้งหมด แต่ความคิดที่เราเอามาทำนี้เป็นความคิดที่เอามาจากเอาปัญหามาเป็นโจทย์ในการทำงาน ทั้งหมดเป็นร้อยเป็นพันปัญหา เอามาจากกลุ่ม เข้ามาทำในเรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา กฎหมายกระบวนการยุติธรรมที่บางอย่างอาจจะล้าสมัยไม่ทันสมัย แต่ไม่ใช่ผิด วันนี้ผมคิดว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ระบบ ไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ ไม่ได้อยู่ที่กฎหมายมากนัก อยู่ที่คนเท่านั้นเองว่าจะใช้กฎหมาย ใช้รัฐธรรมนูญเหล่านั้นมาทำให้เกิดความสงบสุข หรือไม่สงบสุข อยู่ที่การบริหารราชการแผ่นดิน และการทำงานร่วมมือกันของรัฐบาล ฝ่ายบริหาร ข้าราชการ พ่อค้าประชาชน ธุรกิจต่าง ๆ คนไทยทุกคนต้องนำพาประเทศไทยไปให้ได้ เพียงแต่ว่าในเมื่อเราตัดสินใจว่าประเทศเราต้องเป็นระบอบประชาธิปไตยก็ต้องเป็นแบบนี้ จะด้วยสภากี่สภาไม่รู้ จะไปตั้งอะไรมาก็ไปหากันมา ผมยังไม่ได้มีข้อยุติ ไม่ได้ตัดสินใจ ไม่ได้คิดอะไรสักอย่างเลย ผมคิดแต่เพียงว่าเดี๋ยวไปคิดกันมา ถ้าไม่คิดก็หาว่าไปคิดแทนให้หมด พอให้คิดก็ยังคิดไม่ออก ก็ไปตั้งโจทย์ยาก ๆ ไว้ อย่างที่ผมบอกแล้วถ้าท่านทำทุกอย่าง เหมือนที่ผมทำวันนี้ คือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เข้าใจไหมว่าคำประชาชนเป็นศูนย์กลางเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้น 19 กระทรวงหรือว่ากี่หน่วยงานกี่กรมกี่กอง ต้องเอาประชาชนเป็นศูนย์กลางว่าประชาชนจะได้อะไร วันนี้ประชาชนขาดอะไร เหลื่อมล้ำในเรื่องอะไร ยากจน อาชีพ รายได้ การศึกษา เข้าถึงกันหรือเปล่า กระบวนการยุติธรรมเข้าถึงไหม ก็ไปดูปัญหา จากปัญหาเหล่านั้นเอาขึ้นมาเป็นโจทย์ โจทย์แล้วคิดวิธีการขึ้นมา จากหน่วยงานเล็กข้างล่าง นำขึ้นมา กลางก็นำขึ้นมา ข้างบนก็ขึ้นมา ข้างบนก็แก้ลงไป เพราะฉะนั้นต้องเป็นการสื่อสารสองทาง ต้องเป็นการบูรณาการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด
วันนี้จะเห็นว่ารัฐบาลเข้ามายุ่งในทุกปัญหา ไม่ว่าจะปัญหาในเรื่องของตัวการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดระเบียบ ข้าราชการ สร้างความเข้มแข็งให้เขา ให้เขาได้ภูมิใจ ให้เขามีเกียรติยศและศักดิ์ศรี อยู่ที่ผู้นำเท่านั้นเองว่าจะนำอย่างไรให้เหล่านั้น ให้เขาได้มีความภูมิใจในการทำงานของเขา ได้มีโอกาสได้คิด ได้มีโอกาสได้บูรณาการ วันนี้เราแก้ไขด้วยการบูรณาการ ทำเสียทีเถิดครับ เรารู้จักแต่คำว่าวัฒนธรรม วัฒนธรรมองค์กรของเรานี้เหนียวแน่น กระทรวงทุกกระทรวงรักกันมากในกระทรวง ทุกคนถือกฎหมายคนละฉบับหมด พอถึงเวลาทำงานร่วมกันทำไม่ได้ ศักดิ์ศรีต้องมาก่อน คนไทยศักดิ์ศรีเป็นเลิศอยู่แล้ว วันนี้เราต้องลดอัตตาตัวเองลงไปบ้าง วันนี้รัฐบาลพยายามที่จะแก้ไขตั้งแต่แผนงานงบประมาณ จัดกลุ่มงบประมาณให้ได้ มีงบในการบูรณาการ งบ 275,000 ล้านบาท จัดกลุ่มงบแต่ละงบ มีกลุ่มนี้ กลุ่มสังคมจิตวิทยา กลุ่มบริหารจัดการน้ำ กลุ่มสาธารณูปโภคพื้นฐานทั้งระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ ระดับภูมิภาค คิดหมด แล้วทำอย่างไรจะเกิดห่วงโซ่ความสัมพันธ์ขึ้นกันและกัน เกื้อกูลซึ่งกันและกันให้ได้ ทั้งส่วนกลางส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น โดยจะต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ นั่นหลักการทำงานมีเท่านั้น ถ้าทุกคนคิดอย่างผมได้จะคิดคำตอบออกหมดว่าเราจะทำอย่างไร กระบวนการเหล่านี้จะเกิดมาได้อย่างไร ไม่ใช่ว่า บางคนผมได้รับร้องเรียน ผมก็ไม่ได้เชื่อนะ บอกข้าราชการบางคนก็รอเวลา ว่าเมื่อไรเดี๋ยวก็ไปแล้ว คิดอย่างนี้ ผมคิดว่าไม่ใช่คนไทย เดี๋ยวผมจะมีวิธีการตรวจสอบ
เพราะฉะนั้นข้าราชการก็ต้องไม่นิ่งนอนใจ ต้องร้อนใจแบบผมร้อนใจว่า วันหน้าท่านจะอยู่อย่างไร วันนี้ผมคิดว่าปลัดกระทรวงท่านก็ทำของท่านอยู่แล้ว การประพฤติตนเป็นแบบอย่าง เป็นตัวอย่างนำธรรมาภิบาลเข้ามาในแต่ละกระทรวง แต่ข้าราชการแน่นอนเป็นมนุษย์ บางคนก็ยังคิดต่างเห็นต่าง ผมไม่ได้ว่า ว่าเห็นต่าง แต่ประเทศชาติเป็นหลักหรือเปล่า ประชาชนเป็นหลักหรือเปล่า ประชาชนทุกคน ทุกพวก ทุกฝ่ายหรือเปล่า ทำให้ประชาชนมีความขัดแย้งกันเป็นฝักเป็นฝ่ายหรือเปล่า ต้องแก้ตรงนั้นให้ได้ เพราะฉะนั้นอย่ารอเวลา เวลาของเราใกล้จะหมดแล้ว คำว่าหมดคือหมดจากเวทีโลก ถ้าเรายังปล่อยให้เป็นอยู่แบบเดิมจะกลับมาอีกไม่ได้เลย เราจะเป็นประเทศที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง วันนี้ไม่ถึงขั้นนั้น เราเริ่มเดินหน้าได้แล้ว ด้วยความร่วมมือของทุกท่านในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่ยังเฉื่อยแฉะ ยังรอเวลา ผมว่าผมไม่ปล่อยให้ท่านรออยู่แล้ว
การทุจริต ผิดกฎหมาย อะไรที่ร่ำลือกันมาว่าวันนี้ก็มีอยู่ มี 50 เปอร์เซ็นต์ ส่ง คสช. สลึงพวกผมยังไม่ได้ ผมไม่มีต้นทุน ไม่มีต้นทุนในการทำงาน ไม่ได้เสียเงินสักสลึงเข้ามาทำงาน เพราะฉะนั้นผมไม่ต้องการที่จะเอากำไรกลับไป ไม่มี เพราะฉะนั้นผมยืนยันว่า พวกเราเข้ามาด้วยความตั้งใจ ทุกคนเข้ามาด้วยคุณวุฒิ วัยวุฒิ ความรู้ความสามารถ เกียรติยศของแต่ละท่าน ผมเข้ามาด้วยชีวิต ผมแตกต่างผมอาจจะมีคุณวุฒิ หรือมีความรู้ความสามารถไม่เท่าบรรดาพี่ ๆ แต่ผมเอาชีวิตเข้ามา
ถ้าผมทำ 22 พฤษภาคม 2557 ทำจัดระเบียบไม่ได้ผมก็กลายเป็นกบฏ และผมได้อะไรขึ้นมา นั่นแหละคือสิ่งที่อยากให้ทุกคนรู้จิตใจผม เพราะผมปล่อยไปไม่ได้ เพราะผมสงสารลูกหลานผมในวันข้างหน้าเขาจะอยู่กันอย่างไร แล้วประเทศไทยจะเข้มแข็งกับเขาได้อย่างไร ก็ได้ติดตามมาโดยตลอดในฐานะที่เป็นฝ่ายความมั่นคง เป็นผู้บัญชาการทหารบก ก็ดูและสนับสนุนรัฐบาลทุกรัฐบาล ไม่ว่าจะรัฐบาลใครก็ตาม จะถูกจะผิด จะดีไม่ดีรัฐบาลเราก็อยู่ในบทบาทที่เหมาะสมของเรามาโดยตลอด แต่เมื่อถึงเวลาซึ่งจำเป็น ก็จำเป็น ผมกราบเรียนทุกคนให้ทราบว่า ผมไม่เคยขัดแย้งกับใคร เพียงแต่ว่าต้องเข้ามาเพื่อระงับความขัดแย้ง ระงับอันตรายที่จะเกิดขึ้น ทุกคนอาจจะไม่รู้ว่า อะไรจะเกิดขึ้น พูดจาให้เกินเลยหาเหตุหรือเปล่า ผมว่าไปดู อาวุธสงครามจำนวนมากไปหมด จับมาไม่รู้เท่าไร หลายอย่างอยู่ในกระบวนการยุติธรรม เรื่องเหล่านี้อย่าลืม อย่าลืมว่ามีของเหล่านี้อยู่ มีคนเหล่านี้อยู่ จะพวกไหน พวกใครไม่ทราบ ไปสอบสวนกันมา ใครถึงใครไม่รู้ เพราะฉะนั้นให้กระบวนการยุติธรรมเขาไล่กันออกมาให้ได้เดี๋ยวก็จบ ใครจะผิดใครจะถูกก็ว่ากันมา แล้วเลิกกันเสียที อ้างกันกลับไปกลับมาอยู่อย่างนี้ไม่ได้ เสียหายไปทั้งระบบทั้งหมดคงไม่ได้ ผมคงไม่ยอมตรงนั้นหรอก
เพราะฉะนั้นผมคิดว่าเราต้องทำทุกอย่างให้เกิดความชัดเจนขึ้นในช่วงที่รัฐบาลนี้เข้ามาทำงาน จะผิดจะถูก จะดีไม่ดีก็บอกมา ฟัง ทุกวันนี้ฟังจนนอนไม่หลับ เมื่อคืนผมไม่ได้นอนสักชั่วโมง เพราะคิดว่าจะพูดอะไรดี ทำอย่างไรเราจะสร้างความเข้าใจให้กับคนในประเทศไทย ทำอย่างไรให้ข้าราชการเข้าใจ ทำอย่างไรพี่ ๆ รัฐบาลจะเดินหน้ากันให้ได้ แต่ถ้าทุกคนยังตั้งแง่ความขัดแย้งกันอยู่ก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ปฏิรูปก็ไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่า ถ้าเอาประชาชนเป็นศูนย์กลางแล้ววางโรดแมปอย่างที่ผมวาง วันนี้ผมวางไปข้างหน้า ท่านก็วางย้อนหลังขึ้นมาจากจุดหมายปลายทางอันเดียวกันนั่นแหละ แล้วท่านจะทำอย่างไร เมื่อท่านจะทำอย่างไรขึ้นมา ท่านก็ไปดูสาเหตุของปัญหาอยู่ข้างบน อันนี้ตัวใหญ่ คือตัวปัญหาใหญ่ ตรงนี้มีปัญหาเล็กน้อยท่านก็หากระบวนการ จะการเมือง จะเข้าสู่ระบบการบริหาร จะใช้ตรวจสอบไปหากระบวนการตรวจสอบมา และถ้าไปคิดถึงว่า แล้วอันนี้จะมาอย่างไร มา 2 อย่างนะ ด้วยจุดมุ่งหมายที่ต้องการ ประชาชนได้รับประโยชน์จากสิ่งต่าง ๆ ที่เขาเหลื่อมล้ำมาตลอด บ้านเมืองไม่มีระบบระเบียบ ก็ต้องมีกระบวนการ เหล่านี้ประกอบไปด้วยอะไร ฝ่ายบริหารรัฐ ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคธุรกิจ เอกชนต่าง ๆ ทั้งหมดต้องร่วมมือกันทั้งหมด แล้วเราจะเดินไปสู่อย่างไร ถ้าปฏิรูปทั้งหมด บอกปรับกระทรวงปรับอะไร ไม่มีวันสำเร็จ
วันนี้ทำไม่ได้ เพราะผมอยู่แค่นี้ ผมอยู่แค่ระยะเวลาอันสั้น เพราะฉะนั้นท่านจะมาปรับ ปรับทบวง ปรับอะไร โน้นรัฐบาลหน้าท่านก็ไปเลือกเข้ามาให้เขาทำ วันนี้เอาของเดิมที่มีอยู่ทำให้ได้ก่อนว่าเราจะแก้ปัญหาที่เล็ก ๆ น้อย ๆ ได้อย่างไร ปรับวิธีการ ปรับการดำเนินการ ปรับการบูรณาการประสานงาน ใช้งบประมาณให้ประหยัด แล้วก็ร่วมมือกันก็จะไม่ทับซ้อนกัน ทำอย่างไร วันนี้เราเหลื่อมล้ำเรื่องอะไร ความยากจน อาชีพ รายได้ การบริการ รัฐวิสาหกิจ ทุกอย่าง ผมไม่อยากบอกว่าค่อนข้างจะมีปัญหามาก ต้องแก้ทุกอย่าง นี่คือผลงาน 3เดือนเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นท่านจะบอกว่าไม่เห็นมีอะไรออกมาเลย 3 เดือน เดี๋ยวท่านรองนายกรัฐมนตรี ท่านจะเล่าให้ฟัง แต่ที่เราทำมานอกจาก 3 เดือนแล้ว ทำโน้น 3 ชาติข้างหน้าโน้น ไม่ใช่ 3 เดือน 3 ปีด้วย กี่รัฐบาลก็ทำไม่จบ ผมพบกับท่านประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของประเทศจีน เขาบอกประเทศเขา เมื่อ 60 ปีที่แล้ว เขาเล่าให้ผมฟังว่า ประเทศของเขา 60 ปีที่แล้วเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก แล้วบัดนี้ 30 ปีที่ผ่านมาได้มีการเริ่มปฏิรูปประเทศ ถึงแม้จะคนละระบบกับเราก็ตาม เขาบอกว่า 30 ปี เขาสามารถที่จะนำพาประเทศของเขาขึ้นมาเป็นประเทศที่เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลกได้ วันนี้เขาเริ่มต้นต่าง ๆ มากมาย เส้นทางสายไหม ทางบก ทางทะเล ความเชื่อมโยง Connectivity ข้อตกลงการค้าอาเซียน-จีน ธนาคาร AIIB ธนาคารอาเซียน เขาเดินไปโน้นแล้ว
ทางด้านประชาคมยุโรปเขาก็มี ธนาคารโลก (World Bank) อะไรของเขาไปก็เป็นการแข่งขันของมหาอำนาจ แล้วเราอยู่ในเสี้ยวหนึ่งของตรงนี้เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นเราอย่าไปคิดว่า บางคนบอกว่าไม่เห็นเป็นไร ก็ทะเลาะกันไปก็ไม่เป็นไรหรอก อยู่อย่างนี้ อยู่ได้ประเทศไทย ข้าวก็มีกิน ผมถามว่าวันหน้าก็จะไม่มีข้าวกิน เพราะอะไร รู้ไหม เพราะมีความเหลื่อมล้ำ ถ้าอาชีพรายได้ ไม่มีรายได้เพียงพอ เขาจะอยู่ไหม วันหน้าชาวนาจะเหลือไหม สวนยางจะอยู่ไหม หรือปลูกผัก ปลูกหญ้า แล้วจะอยู่ได้ไหมในสังคมที่ค่าครองชีพสูงขึ้น ๆ เรื่อย ๆ แล้วก็ต้องไปผูกพันกับการค้าต่างประเทศ 70 เปอร์เซ็นต์ อยู่ได้ไหม
เราต้องสร้างเศรษฐกิจให้เข้มแข็งตั้งแต่ชุมชน ตั้งแต่จังหวัด ในชุมชน ในตำบล หมู่บ้าน จังหวัด ไปชายแดน ไปเขตเศรษฐกิจพิเศษ รัฐบาลนี้ก็ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ อาจจะมีการเริ่มมาแล้ว แต่วันนี้ทำให้เป็นรูปธรรม แล้วขยายไปมากกว่าเดิม ปีนี้มี 5 1 หนองคายเป็น 6 เศรษฐกิจพิเศษสร้างเมืองขึ้นมา เป็น Cluster ขึ้นมา มีทุกอย่าง ไม่ใช่ขายอย่างเดียว แล้ววันหน้าเดี๋ยวมีเป็นเมืองขนาดใหญ่ขึ้นมา การค้าจากชุมชนถึงมีตลาดชายแดน ชายแดนไปประเทศเพื่อนบ้าน จากเพื่อนบ้านรวบรวมไปประชาคม เราก็เป็นอาเซียน รวมผลผลิตออกไป เราจะได้ต่อรองราคาสินค้าได้ ไม่อย่างนั้นคนออกไปจากการประกอบการเกษตรทั้งหมด แล้ววันนี้โลกสนใจเรื่องอะไร Climate Change การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โลกเปลี่ยนแปลง ฝนไม่ตก หิมะไม่ตก ทั้งหมดนี่แหละ แผ่นดินไหวอะไรต่าง ๆ แล้วปลูกพืชการเกษตรไม่ได้ แล้วทำอย่างไร เราทำไมไม่เตรียมความพร้อมตั้งแต่ตอนนี้ เราคิดจะเป็นแหล่งอาหารของโลก แหล่งผลิตพลังงานทดแทน พืชการเกษตร แล้วสร้างเสียงของเราให้ดังขึ้น
ผมไปประชุมที่อิตาลี ทุกประเทศในโลก ผมก็พูดกับเขาว่า ถ้าท่านยังลดความเหลื่อมล้ำในระหว่างประเทศที่มีรายได้น้อยไม่ได้ ความขัดแย้งต้องเกิดขึ้น เหมือนกันประเทศไทยมีคนที่ยากจน เมื่อมีคนยากต้องมีคนมานำคนยากจนเหล่านี้ให้มีการต่อสู้ ความขัดแย้งก็เกิดขึ้น เช่นเดียวกันสังคมโลกก็เหมือนกัน ถ้าอาเซียนยังมีรายได้จากการเกษตรอย่างเดียวสู้ไม่ได้ แล้ววันหน้า Connectivity ถึง รถไฟถึง เส้นทางถึง แล้วใครจะได้ประโยชน์ เขาก็ได้ประโยชน์ทั้งนั้น
เราต้องสร้างความเข้มแข็ง เวลาผมไปต่างประเทศการต่อรองอะไรกับเขา ผมได้ตอบว่า Yes, Yes ไม่ให้ ถ้าจะเอาอย่างนี้ ต้องอย่างนี้ แต่ต้องค่อย ๆ ทำ เพราะเราไม่ใช่ประเทศมหาอำนาจ ให้เขารู้สึกว่า เวลาผมพูดกับเขาไม่ใช่พูดเพื่อประเทศไทยอย่างเดียว ผมบอกว่าผมต้องการให้ ขอให้สนับสนุนประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อได้ไหม ความหมายผมคือเชื่อมต่อทั้งเศรษฐกิจเลย เพราะเราเป็นพื้นที่ที่มีภูมิศาสตร์ที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็เชื่อมต่อไปไทย 1 เราก็ต้องบอกว่านอกจากไทย 1 แล้วยังมีเพื่อนบ้าน 1 เข้ามาไทยก็ได้ ถ้าอย่างนี้ทุกประเทศรอบบ้านเขาก็ร่วมมือกับเรา ไม่ใช่จะเอารัดเอาเปรียบเขาทุกเรื่อง
เราต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้เขา นี่คือไทย 1 หรืออะไร 1 ก็เข้ามาไทย เพราะฉะนั้นผมสนับสนุนทุกอย่าง การลงทุนต่างประเทศ การลงทุนในประเทศ เรื่องบีโอไอก็แก้ไขกติกาใหม่พอสมควร กติกาการค้าการลงทุน สิทธิประโยชน์แก้ทั้งหมด สิ่งเหล่านี้ไม่ได้แก้วันเดียว คิดแล้วก็ทำ ประชุมมาเป็นร้อยครั้งกว่าจะออกมาได้ พอออกมาได้ไม่รับแล้ว ไม่ใช่ เพราะตัวเองเสียประโยชน์ ท่านต้องรู้ว่าต้องมีคนได้คนเสีย แบบนั้นถึงจะเข้มแข็ง เราต้องสร้างห่วงโซ่การพัฒนาการของทุกองคาพยพเหล่านั้นให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าให้ได้ ไม่ใช่เป็นคนง่อยเปลี้ยเสียขา หน้าตาดี แขนไม่มีแรง ขาอ่อนแรง ปวดท้อง โรคอะไรอีกมากมายเต็มไปหมด เหมือนคนโรครุมเร้า ต้องหยุดโรคให้ได้ก่อน ถ้าสมมุติว่ามีหลายโรคก็แก้โรคที่ง่าย ๆ ก่อน
เพราะฉะนั้นต้องสร้างให้โลกเขารู้ว่าเรากำลังพัฒนาการไปอย่างนี้ เรากำลังสร้างความเข้มแข็งอย่างนี้ การค้าขาย การลงทุนเป็นแบบนี้ วันนี้ทั่วโลกเขาปรับหมดแล้ว นี่ยังทำอะไรก็ไม่ได้ เพราะเจรจาตกลงผลประโยชน์กันไม่ได้ ก็ตายสิแบบนี้ นี่ผมเดินทางไปเยือนประเทศจีน ผมพูดกับเขาเลย ไม่มีใครพูดกับเขาหรอก ผมก็ถามเขาว่าแล้วใครจะลงทุน เขาลงหรือเราลง ผมถามเขากลางวงนั่นแหละ จะเอาอย่างไร จะเอาแบบไหน ร่วมกันไหม เขาบอกร่วมกันก็ได้ ผลประโยชน์แบ่งปันกันก็ได้ แต่ผมจะต้องเป็นผู้บริหารนะ เขาบอกตกลง ต้องพูดกับเขาอย่างนั้น
ถ้าร่วมมืออย่างเดียวเขาเซ็นมาไม่รู้กี่ฉบับแล้ว เขาถามผมว่า เรื่องรถไฟนี่ เซ็นกับเขามา 3 รัฐบาล ไม่เคยทำได้ นี่มาทำกับเรา พอเริ่มพูดกันไม่เกิน 3 เดือน เดือนเดียวด้วยซ้ำไป ผมก็ทำจนเข้ามาได้ ด้วยความร่วมมือของทุกคนใน สนช. สปช. ก็เห็นด้วย เพราะเป็นการทำรัฐบาลต่อรัฐบาล ไม่ได้มาต่อรองว่าต้องมีเงินนอกเงินใน ไม่มี เราต้องมี 1) คือความทันสมัยเป็นหน้าเป็นตากับประเทศ ก็ต้องลงทุน 2) เราจะได้เป็นเครื่องมือต่อรองในการที่จะเชื่อโยง ถ้าเราวางเหล่านี้ไว้ก่อน รอบบ้านเขาก็ต้องต่อเรา วันนี้ถ้าเราไม่ทำทางรถไฟเหล่านี้ ไม่เริ่มไว้ก่อน ไม่ทำผังถนนเส้นทาง ไม่สร้างเมืองชายแดนไว้ วันหน้าเขาสร้างแล้วทำอย่างไร เราต้องไปต่อเขาเหรอ เราอยู่ตรงกลางไม่ใช่เหรอ เราทำไมไม่ใช้ตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ เพราะฉะนั้นผมคิดว่ารัฐบาลทุกรัฐบาลท่านจะเลือกใครมาก็แล้วแต่ ต้องคิดถึงประเทศชาติ อาจจะคิดได้ดีกว่าผมอยู่แล้ว ผมคิดแบบทหารนี่แหละ ต้องเชื่อมโยงกันให้ได้ แล้วเราต้องเป็นฝ่ายชิงความได้เปรียบมาให้ได้ก่อน ในระหว่างนี้ท่านก็ต้องเลิกขัดแย้ง วันนี้แยกงานให้ออกว่า หนึ่งขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า สร้างความเข้มแข็ง สร้างความยั่งยืนเป็นไปตามวิสัยทัศน์ เรื่องขัดแย้งไว้ทางซ้าย ไปว่ามา กระบวนการยุติธรรมว่ามา สอบสวนดำเนินคดีเข้ามา ฟ้องศาลได้ไหม อัยการว่าอย่างไร
ผมไม่มีคำสั่งใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นคดีทุกคดีจะต้องมีความชัดเจนใน 3 เดือนข้างหน้า ไปหาวิธีการมา ผมไม่สั่ง ใครผิดใครถูกไปหามา และทางด้านขวาก็คือเรื่องของการปฏิรูปก็ทำไป เมื่อถึงเวลาก็มาบรรจบกันตรงข้างบน นั่นคือโรดแมปที่วางไว้ข้างบน เพราะฉะนั้นสี่ห้าส่วนที่ว่า หรือจะแม่น้ำห้าสายอะไร ก็ตรงนั้นแหละ เพราะฉะนั้นอย่าเอาทุกอย่างมาเป็นประเด็นตีกันไปกันมาทั้งหมด
สื่อก็ต้องปรับปรุงตัวเองอยู่ในหนึ่งหัวข้อของการปฏิรูปอยู่แล้ว สื่อก็คือเสนอข้อเท็จจริง วิจารณ์ความเห็นที่เป็นประโยชน์ และงดการให้ร้ายอย่างไม่เป็นธรรม และเป็นสื่อในทางสร้างสรรค์ แค่นี้ทำให้ผมได้ไหม เดี๋ยวผมจะแจ้งเรื่องไปให้สมาคมสื่อฯ ดูสิว่าหนังสือพิมพ์บางฉบับที่เขียนอยู่ทุกวันนี้ ผมก็ทนมานานแล้ว ติติงได้ทุกเรื่อง ทุกหน้ากระดาษ ไม่ว่าใครจะเป็นด่าเขาหมด ดีตรงไหน บางทีผมไม่อยากอ่านหรอก อ่านแล้วโมโห แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมก็โดนสวนมาอีก คราวนี้จะปิดจริง ๆ คือปล่อยแล้วก็ไม่ได้ ลามปามกันไปเรื่อย ไม่ได้ แล้วไม่อย่างนั้นจะเป็นทำไม จะมีกฎอัยการศึกไว้ทำไม มีเพื่อให้เกิดความสงบ มีไว้ในเชิงสร้างสรรค์ มาตรา 44 ก็เอาไว้ใช้ในทางสร้างสรรค์ ผมไม่เคยเอาใครมาติดคุก เอาใครมายิงเป้าสักคนเลย หรือใครทำ เอาไหม ไม่ทำอยู่แล้ว ผมถือว่าถ้ายังทำให้เกิดความขัดแย้งอยู่ เช่น ปีใหม่ถ้ายังมีเรื่องอาวุธสงคราม ยังมีการลอบทำร้ายมีคดีความ ผมบอกฝ่ายกฎหมายดำเนินคดีทันที ใช้กฎอัยการศึก ใช้กฎหมายทหารทุกอัน ถือว่าคนทั้งประเทศกำลังมีความสุข ท่านยังมาทำแบบนี้อีกไม่ได้ และเจ้าหน้าที่ก็ต้องระมัดระวัง เกิดในเขตใครถ้าหาคนทำผิดไม่ได้โดน กล้องติดไปหมดแล้ว ไฟติดทั่วไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยจับไม่ได้ ตำรวจเองยังจับตำรวจเองได้เลย ทำไมจะจับไม่ได้
เพราะฉะนั้นปีใหม่ต้องไม่มีเหตุ ข้าราชการทั้งหมดรับผิดชอบดูแลความปลอดภัยทุกกระทรวง ทบวง กรม หน่วยใครหน่วยเรา อย่าไปปัดภาระ อันนี้เป็นเรื่องนั้น ความมั่นคงโยนไปทหาร ตำรวจอย่างเดียวเลย ไม่ได้ วันนี้ความมั่นคงต้องประกอบกันด้วยหลายส่วน ประชาชนต้องช่วยกันเฝ้าระวัง นั่นสำคัญที่สุด อย่าคิดว่าธุระไม่ใช่ เมื่อคืนเห็นข่าวไหม ในประเทศอินเดียผู้หญิงเป็นหมอขับรถมอเตอร์ไซค์ แล้วมีมอเตอร์ไซค์ขับตามมาแล้วปาดหน้า ที่เหลือก็เดินดูเฉยไม่สนใจ นั่นคือความเหยียดหยามทางเพศ เป็นคดีความ โชคดีนะเกิดเส้นแวงผิดไปหน่อยเดียว ไม่อย่างนั้นไปเกิดอินเดียแล้วต้องไปเสียเงินแต่งงานด้วยนะผู้หญิง ผู้หญิงต้องเสียค่าสินสอดให้ผู้ชาย หรือเกิดเลยไปหน่อยเราก็ไม่ใช่ศูนย์กลางของอาเซียนแล้ว ใช่ไหม โชคดีนะ ดันทะเลาะกันอีก ประเทศไทยเขาเคยพูดว่าอย่างไรนะ ทุกอย่างดีหมดเว้นคนไทยทะเลาะกัน
วันนี้ต้องเลิกต้องไม่ให้มีคำนี้เกิดขึ้นมาอีก เพราะฉะนั้นเราต้องแก้ไขวันนี้ ให้ได้ด้วยความรวดเร็ว ได้รับการยอมรับ ในเรื่องของการสร้างความเข้าใจกับต่างประเทศดีขึ้น ณ วันนี้มีใครมาวิพากษ์วิจารณ์จะต้องมาโน้นนี่ก็อย่าไปตอบ ตอบไปว่ากำลังแก้ปัญหาประเทศเราอยู่ เดินหน้าประเทศเราอยู่ ทุกอย่างกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแล้วก็เป็นไปตามนั้น ตอบแค่นั้น ยิ่งตอบมากไปก็บานปลายไปเรื่อย แล้วไม่ใช่ธุระ
ผมคิดว่าเราไปช่วยเหลือประเทศชาติ เขียนออกไป ประเทศไทย 200 กว่าภารกิจที่ไปทำงานต่างประเทศ ช่วยเหลือเขา Peace keeping การรักษาสันติภาพ ใช้คน 30,000 – 40,000 ทหารไปหมด ได้รับความชื่นชมมาโดยตลอด แล้วเราจะปฏิรูปประเทศเราไม่ได้หรืออย่างไร ทำไมจะต้องมาวุ่นวายกับเรามากนัก ขอเวลาให้เราทำให้คนไทยบ้างไม่ได้หรือ ทำให้คนทั้งโลกเขามาแล้ว ทุกที่ที่ไปชื่นชมกลับมา บอกทหารผม ไปสอนเขาทำนี่ทำโน่น ทฤษฎีใหม่ ปลูกพืชวันนี้ประเทศซูดานอยู่ได้แล้ว เมื่อก่อนมีแต่ทรายอย่างเดียว วันนี้ปลูกพืชใช้น้ำน้อยได้ อะไรได้ ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง เขาฝากมาคำเดียวว่าโชคดีประเทศไทยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฟังแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง เขาอยากมีพระเจ้าอยู่หัวอย่างนี้
รอบบ้านเราก็เหมือนกัน วันนี้ก็เป็นห่วง ผมไปทุกประเทศฝากถวายพระพรให้พระองค์ทรงแข็งแรง ให้ทรงมีพระชนมายุยืนยาว เพราะประเทศไทยก็ต้องเป็นอย่างนี้ มีพระมหากษัตริย์ สถาบันพระมหากษัตริย์ มีประชาธิปไตย มีวัฒนธรรมที่งดงาม มีบ้านเมืองที่สวย วันนี้ผมถามว่าที่ท่องเที่ยวได้วันนี้ด้วยใคร พระมหากษัตริย์สร้างไว้ทั้งนั้น ทุกประเทศด้วยซ้ำไป บ้านเมืองสวยงาม ไม่ใช่วันนี้ อดีต เขาไปเที่ยวตึกรามบ้านช่องทันสมัย เขามาทำไม เขาก็มากินอยู่ แต่เวลาไปเที่ยวเขาไปไหน ของเก่าทั้งสิ้น ใช่ไหม วันนี้เราต้องเพิ่มศักยภาพเราตรงนี้ให้ได้ ทั้งการค้า การท่องเที่ยว ความมั่นคง ความปลอดภัย ทุกอันต้องปฏิรูป ปฏิวัติใหม่ทั้งหมด บางอย่างง่ายนิดเดียว ร่วมมือกัน ลดละอัตตาตัวเองลงไป เพราะฉะนั้นทำได้หมด วัฒนธรรม องค์กร ประวัติศาสตร์ หรือวันสำคัญ ๆ ของหน่วยงานเขามีไว้ให้ภูมิใจในกระทรวง ในกรม ในกอง ในกองพัน ในกองร้อย ในกองทัพบก ทั้งหมดก็คือกองทัพบก ทั้งหมดกรม กระทรวง ก็รักกันในนั้น แต่เวลาไปเจอกันข้างนอกไม่ใช่ไปตีกันกับเขาเหมือนอาชีวะบางอาชีวะไม่ได้ ต้องเอาวัฒนธรรมของแต่ละอันที่งดงามมาเชื่อมต่อกันให้ได้แล้วทำงานร่วมกันให้ได้ วันนี้ทุกอย่างต้องร่วมกันหมด
การศึกษาเช่นเดียวกัน วันนี้เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยตำหนิการศึกษา ผมตำหนิรัฐบาล เราเอาแต่ของใหม่เข้ามา ของเก่าหายหมด เมื่อวานผมไปไล่สอบลูกผม ไหนทำบัญญัติไตรยางศ์ให้ผมสิ เขาบอกตอนนั้นเขาเรียนไม่ได้สอนแบบนี้ ทำทั้งอันไม่ได้ เขาเคยแต่เติมช่องว่าง คนก็เลยหนีวิชายาก ๆ เหล่านี้ไปหมด ไปเรียนอะไร ศิลปศาสตร์ เรียนวิทยาศาสตร์หมด เพราะเรียนเรื่องนั้นปวดหัว ถามว่าบวกเลข คูณเลขเยอะ ๆ 25 คูณ 25 ได้เท่าไร ก็นั่งเขียนกระดาษคูณ ได้ 625 35 คูณ 35 ได้ 1,325 55 คูณ 55 ได้เท่าไร นี่หายไป พอหายไปคนก็คิดช้า โจทย์ไม่ทำทั้งข้อ ทั้งหมด ไม่มีวิธีทำ เขาเขียนมาแล้วเอาตัวเลขเติมไป ก็ทำให้กระบวนการหายไป คำตอบได้เหมือนกัน ก็ไปดูที่ง่ายสุด ลองไปหาวิธีการดู ไม่ใช่ผมจะถอยหลังไปของเก่า ของใหม่บางอย่างก็ดี จำเป็นต้องไปแข่งขันต่างประเทศ ผมถามว่าคนทั้งประเทศจะไปแข่งขันเขาทั้งหมดไหม ไม่ได้ มี 3 ส่วน ส่วนที่ 1 คือเรียนรู้เพื่อพัฒนาการการคิด และความเข้าใจ บางคนพูดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ เพราะไม่ได้สอนให้เขาคิด ป้อนให้เขามาตลอด ต้องสอนเขาคิดเป็น วันนี้เกษตรกรทำไมถึงรายได้น้อย เขา Trading ไม่ได้ เขาไม่รู้เรื่องการค้า เรื่องตลาดอะไรเลย สอนเขาสิครับ นี่ผมให้กระทรวงทุกกระทรวงไปทำตลาดชุมชนขึ้นมา ส่วนหนึ่งนายทุนซื้อก็ซื้อไป เขาก็คัดส่วนดี ๆ มา แล้ววิ่งไปตลาดที่เราจัดไว้ให้เขา แล้วไปตั้งราคาขาย ขายข้าวดี ๆ ที่สุดในโลก ที่เขาคิดว่าเขาดี แล้วลองตั้งราคาดูสิใครจะมาซื้อไหม เขาจะได้รู้ว่าราคาตลาดเท่าไร เป็นตลาดกลาง ตลาดชุมชน เดิมก็มีอยู่แล้วตลาดพวกนี้ แต่ผูกขาดทั้งหมด วันนี้ให้เขาขึ้นจากเรือมาเลย ขับรถเข้าไป ไปรวมกัน ไปตั้ง เราก็รับ ก็รื้อท้องถิ่น ไปจัดส่วนเจ้าหน้าที่ Packaging หน่อย กล่อง กระดาษ โฟม คิดค่าใช้จ่ายนิดหนึ่ง แต่เวลาเขาขายได้ เขามาจัดของเขาเอง เขาคัดปลา นำมาห่อใส่กล่อง แล้วไปวางในกระบะ ถ้าสร้างได้อย่างนี้อีกหน่อยคนก็จะขับรถไปซื้อปลาที่นี่ ไปซื้อข้าวสารที่ดีที่สุดที่นี่ ก็เกิดตลาดชุมชนมากขึ้นเรื่อย ๆ เกษตรกรก็รู้จักการที่จะขาย เขาก็ลงทุนเขาได้ นี่ใช้หลักการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไม่มีรถวันหน้าก็ต้องหารถ ผ่อนรถเอา ซื้อรถเก่ามาก่อน อะไรทำนองนี้ เพราะฉะนั้นเหล่านี้คือสิ่งที่ต้องคิดใหม่ทั้งหมด สอนเขา ถ้าไม่สอนเขา ไปไม่ได้ ประเทศไปไม่ได้ เขาก็จะรอแต่ว่าเมื่อไรจะอุดหนุน ๆ แล้วผมถามว่าอุดหนุนเท่าไร วันนี้รัฐบาลมีงบประมาณ 275,000 ล้านบาท ขาดดุล 25,000 ล้านบาท และมีหนี้สาธารณะ 7 แสนล้านบาท ข้าวยังขายไม่ได้อีก 7 แสนกว่าล้านบาท จะทำอย่างไร จะ Subsidize กันไปถึงเมื่อไร
วันนี้ยางเดี๋ยวกำลังดู ว่าที่ให้ไปแล้วถึงมือเขาหรือเปล่า ทำไมช้า หนึ่ง บัญชีไม่เรียบร้อย ไม่ได้ตรวจสอบกันมาทุกรัฐบาลก็ขึ้นกันไป พอจะไปจ่าย บัญชีไม่เคยเคลื่อนไหวมา 10 ปีแล้ว ก็ไม่กล้าจ่าย ก็ต้องจ่าย ขึ้นทะเบียน วันนี้ทุกกระทรวงมาร่วมมือกัน ไม่ใช่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อย่างเดียวแล้ว กระทรวงมหาดไทยก็มาช่วย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็มาช่วย กระทรวงการคลังก็มาร่วมมือกัน มะรุมมะตุ้มยังช้าเลย เพราะจะจ่ายอะไรก็กลัวทุจริต เจ้าหน้าที่ก็ไม่กล้าจ่าย วันนี้เดี๋ยวจ่ายให้ทัน เดี๋ยวมีเวลาให้จ่าย ถ้าจ่ายไม่เสร็จก็มีเรื่องอีก จ่ายอย่างไรก็ได้ แล้วตามจี้ทุจริตอีกที ถ้าเป็นข้าราชการก็ต้องเอาออกจากตำแหน่ง เอาออกเลย เอาออกก่อนสอบ ทำไม่ทันก็โดน ทุจริตก็โดนอีก เพราะฉะนั้นจะมาอ้างว่ากลัวทุจริต ๆ แล้วก็ทำไม่ได้ แล้วนโยบายออกมาได้อย่างไร ออกไปทำไม ตั้งงบประมาณไปตั้งกี่แสนล้านบาท กี่หมื่นล้านบาท ก็ไม่ออก ไม่ออกขับเคลื่อนไม่ได้ ก็ไปหาวิธีการทำให้ได้ ท่านเป็นข้าราชการ เขาตั้งมาแก้ปัญหาไม่ได้ตั้งมารับประโยชน์ การเป็นผู้บังคับบัญชาคน เป็นผู้ใหญ่ งานต้องมากขึ้นไม่ใช่สบายขึ้น ต้องคิดบริหารทุกวัน ไปหาทางให้ได้ ไม่ใช่นี่ก็ไม่ได้ นี่ก็ทำไม่ทัน นี่ติดกฎระเบียบ ไม่ติด ติดไม่ได้ ไม่อย่างนั้นทำอะไรไม่ได้ ยางไปดูว่ายางเราเหมือนประเทศอื่นเขาไหม ยางเรามีเจ้าของยาง กับใครอีก คนกรีดยาง ใช่ไหม คนกรีดยางได้ไหม วันนี้ 60 บาท พอไหม 60/40 50/50 ราคาเท่านี้เขาเลี้ยงดูครอบครัวได้ไหม ก็ต้องไปดูทั้ง 2 ส่วน เพราะบ้านเราเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นแก้ปัญหาแก้ให้ลงรายละเอียดให้หมด
วันนี้ทางเรากำลังทำอยู่ทั้งหมด และทำอย่างไรจะยกระดับรายได้ จีนเขาบอกผมมา ที่เขาซื้อมา เพราะเห็นกับความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาล ความสัมพันธ์ที่ดีกับไทย เขาจึงรับซื้อเรา เมื่อ 2 วันที่มาเซ็นสัญญา MOU เสร็จ เขาบอกว่าจะเพิ่มเป็น 2 เท่า Doubleให้ ผมบอกราคาเท่านี้ได้ไหม เขาบอกบ้านเขายังไม่ถึงเหมือนกัน จะให้ทำอย่างไร เดี๋ยวคิดกันต่อ เราต้องสร้างความเข้มแข็ง สร้างโรงงาน ปีนี้ 10 โรงงาน มาตั้งในประเทศไทยทำยาง ทุกปีใช้ยางในประเทศ 10 เปอร์เซ็นต์ แล้วหายไปอีก 90 เปอร์เซ็นต์ รอขายเหรอ แล้วขายได้ไหมทุกวันนี้ ทุกประเทศเขาแก้ปัญหาเหล่านี้หมด ไปปลูกในที่ที่ใช้ต้นทุนแรงงานต่ำ ไปปลูกประเทศโน้นประเทศนี้ที่มากมายไป ปลูกข้าว ปลูกยาง ไม่เห็นจะต้องมาซื้อไทยก็ได้ วันนี้เราต้องสร้างความสัมพันธ์เพื่อจะให้เขาซื้อของ ๆ เรา ต้องง้อเขา 70 เปอร์เซ็นต์ส่งออก ไม่ซื้อแล้วจะทำอย่างไร ก็เน่าทั้งนั้น พังหมดเศรษฐกิจทั้งประเทศยุบหมด สร้างความเข้มแข็งให้ได้ วันนี้ทำทุกอย่าง
เรื่องรัฐวิสาหกิจ ต้องเข้าใจว่า ไม่ใช่จะต้องมีกำไรทุกอัน บางอันขาดทุนก็ได้ เพราะเป็นการให้การบริการ แต่ประชาชนพึงพอใจไหม ถ้าประชาชนไม่พึงพอใจก็ต้องปรับแก้ ขาดทุนก็ต้องขาดทุน อันไหนกำไรก็มาเจือจางที่ ๆ ขาดทุน ท่านสมหมาย ภาษี (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง) ปวดหัวทุกวัน พอจะคิดอะไรไม่ได้ ทุกคนเอานี่เอาโน่น ท่านก็ถามว่าผมจะเอาเงินจากที่ไหน ก็ต้องไปปรับระบบภาษี โครงสร้างภาษี โดนอีก ทุกคนเอาหมด ไม่รู้สิ หน้าที่รัฐบาล อยากเป็นรัฐบาลก็หาเงินมาแล้วกัน ไปขุดมาจากไหนได้หรือเปล่าไม่รู้ แล้วจะได้มาจากที่ไหน ภาษีก็ให้เป็นธรรม อันไหนออกมาแล้วก็ให้ออกมาก่อน ถ้าเดือดร้อนอยู่ก็ชะลอได้ ใช่ไหม ค่ารถเมล์ รถไฟฟ้า ทั้งหมดก็ชะลอมาหมด รัฐบาลนี้ชะลอหมด ก็ขึ้นมาตั้งแต่รัฐบาลก่อน ค่าไฟฟ้า ค่าสัญญาการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ค่ารถ ค่าอะไร ต้องขึ้นไปตั้งหลายปีแล้ว เราก็ดึงไว้ไม่ให้ขึ้น พอวันนี้บอกขึ้นอีกแล้ว ประชาชนเดือดร้อน แล้วจะให้ทำอย่างไร ให้เขาเจ๊งไปอีกหรืออย่างไรก็ไม่รู้ ก็ไปดูสิครับ ต้องดูมหภาคด้วย อย่าไปดูจุลภาคเล็ก ๆ จุดเล็ก ๆ ดูตัวเราว่าเราได้อะไร วันนี้พูดให้ตาย ท่านไม่ถึงทุกข์ ไม่ถึงไทย พวกนั้นก็ด่าเอา ไม่ถึง ต้องสอนให้เขามองภาพให้ใหญ่กว่าตัวเขานิดหนึ่งแล้วกันได้ไหม ตัวเอง ครอบครัว สังคม ชุมชน เผื่อแผ่ แบ่งปัน ประเทศจะไปอย่างไร ต้องช่วยกัน ปัญหามากมายหลายประการ จะถูกจะผิดก็แล้วแต่ ไปว่ากัน ใครจะเจตนาดี แต่ผิดกฎหมายก็ต้องไปว่ากัน กฎหมายก็ให้ความเมตตา ถ้าเจตนาไม่ดีแล้วผิดกฎหมาย กฎหมายเขาก็เมตตาไม่ได้ ธรรมดา ไปหามา ทุกคนต้องช่วยกัน เสียสละ เผื่อแผ่ แบ่งปัน ทำให้บ้านเมืองเรางดงาม เหมือนเดิมในอดีตที่ผ่านมา และสร้างความเข้มแข็ง
วันนี้ชาวต่างชาติรู้จักเราเพราะสถาบัน ถ้าไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ทำไว้ตั้งแต่ต้น สงครามโลกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ไม่ได้สร้างประชาธิปไตยไว้ เตรียมการไว้ ไม่พระราชทาน 3 พระราชอำนาจให้กับรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย เราก็ไม่มีวันนี้ อย่าต้องไปสร้างประเทศใหม่แล้วทำลายของเก่า วัฒนธรรม เมื่อไรที่เราเป็นเหมือนที่อื่น มีอิสระเสรีทุกอย่าง จะว่าใครจะอะไรก็บอกเสรีภาพ เสรีภาพประชาธิปไตย ทุกเรื่องจะด่าผมอย่างไร ถึงโคตรเหง้าศักราช ก็เสรีภาพนั้นใช่ไหม คนเราต้องเคารพที่ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ผมไม่มีสิทธิเหรอ ผมเป็นนายกรัฐมนตรีนะ ผมต้องอดทนทุกอย่างเพราะอยากเป็นนายกรัฐมนตรี ผมไม่ได้อยากเป็น ถ้าทุกคนให้เกียรติซึ่งกันและกันก็จบวิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่เหมาะสม ไม่ใช่ไปไล่ล่าฆ่าฟัน เดี๋ยวจับลูกสาวผมบ้างอะไรบ้าง อะไร ประเทศไทยเป็นอย่างนี้หรือ ประเทศอื่นเขาไม่มี ผมถามประเทศอื่นเห็นไหม Social Media อย่างนี้ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ผมพูดเขาบอกถ้าเขาเชื่อ Social Media เขาคบกับใครไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นเขาต้องมีสติ ผมถามว่าแล้วท่านอะไรอย่างไร ท่านให้เกียรติรัฐบาลไทยขนาดไหน ท่านบอกผมจะพูดกับรัฐบาลประยุทธ์ เพราะเราเป็นทหารมาเก่าด้วยกัน รู้ใจกัน รู้ใจก็คือว่าทำอย่างไรประชาชนจะมีความสุข แต่ผมก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของชาติ เขาบอกทรัพย์สมบัติอะไรต่าง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ทั้งหมดที่มีปัญหา คุยได้ก็คุย คุยไม่ได้ก็ให้มันอยู่ในดิน อีก 5,000 ปีทิ้งไป ถ้าคุยได้เมื่อไรก็พร้อมคุย ถ้าเราคุยได้เราก็คุยเปิดเผย ผลประโยชน์เขตแดนว่ากันทีหลัง ได้ไหมเล่า ถ้าไม่ได้ก็อยู่อย่างนี้ไป ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แล้วท่านจะไปเอาน้ำมันถูก การจะทำอะไรต่าง ๆ ก็ตามต้องสอดคล้องกันหมด เช่น ถ้าจะเปลี่ยนการปลูกพืชต้องหาพืชทดแทน แล้งซ้ำซากต้องไม่มีอีกแล้ว ปีนี้จะเร่งเรื่องปรับงบประมาณทั้งหมดลงพื้นที่แล้งซ้ำซากให้หมด โครงสร้างใหญ่ ๆ อาจจะต้องลดลง ผมว่าอยากจะใช้งบประมาณที่เรามีอยู่ระยะเวลาที่มีอยู่ มาทำโครงสร้างใหญ่คงไม่ได้ เพราะฉะนั้นปรับลงในส่วนที่เกิดประโยชน์กับประชาชนเห็น ๆ ก่อน ทำอย่างไรปีหน้าจะไม่ขาดน้ำ ทำอย่างไรจะทำการเกษตรได้ ในพื้นที่ชลประทาน บางคนบอกทำไมไม่เพิ่มชลประทานอีก 25 เปอร์เซ็นต์ ก็มีต้นทุนเท่าไรอยู่ตอนนี้ น้ำมีเท่าไรปีละกี่นิ้วต่อปี ฝนตก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงรับสั่งว่าไม่ได้ตกน้อยลงเพียงแต่เก็บไม่ได้ ไปหาที่เก็บให้ได้ น้ำอุปโภคบริโภค น้ำการเกษตร ไม่ใช่นาปรังก็ทำ ทำนาปีก็ทำ ไม่ได้ทำนาปรังก็จะทำ จ้างงานก็ไม่เอา เหนื่อย จะไปอย่างไร ต้องสร้างการเรียนรู้ สร้างความเข้าใจ ผมไม่ได้บังคับคนแก่มาขุดดินขุดหญ้าเมื่อไร ลูกเต้าก็มาทำสิ พ่อแม่ก็อยู่บ้านเฝ้าบ้านเลี้ยงหลานไป วันนี้การทำการเกษตร พ่อแม่จะเป็นคนทำ ลูกเข้าเมืองหมดแล้ว แล้ววันหน้าใครจะทำ วันนี้ต้นทุนสูงเพราะอะไร เพราะโทรศัพท์สั่งเอา ไม่มีแรง เราก็ต้องไปคิดว่ารวมนาเหล่านี้อย่างไรให้เป็นผืนใหญ่ ลดค่าเช่านาได้ คลุมได้อะไรได้ ก็ไม่ยอมทำกันอีก จดทะเบียนก็ไม่อยากจด แล้วแก้อะไรได้ไหม ไม่ได้ ปัญหาที่ดินทำกินเดี๋ยวกระทรวงกำลังแก้อยู่ ก็ต้องมีสองอย่าง อันไหนครอบครองอยู่แล้วครอบครอง แต่จะเป็นมอบให้ทำกิน ไม่ใช่เป็นเจ้าของ ผมไม่ตามใจแบบนั้น ผมไม่เอาที่หลวงมาให้ผู้บุกรุก ไม่ให้ แต่ถ้าเขาอยู่แล้วเขาสร้างป่าสร้างอะไร แล้วทำกินด้วย ให้เป็นสหกรณ์ ไม่ใช่เหมือนเดิม ไม่ใช่ชุมชน ไม่ใช่อะไรทั้งสิ้น ป่าชุมชนก็ป่าชุมชน อันนี้จัดที่ทำกินใหม่ วันหน้าใครอยากจะเอารัฐบาลมาจัดแจก ก็เอาเชิญ มีอยู่ 500,000 กว่าไร่หมดแล้วประเทศไทยมีเท่านี้ ยิ่งแบ่งไปเรื่อย ๆ จะอยู่ที่ไหน ท่านบอกว่าคนมีเยอะเอากลับมา เอากลับมาด้วยอะไร เอาเงินไปซื้อเขากลับมาสิ เขาซื้อไปนี่ ก็ไปขายเขาเอง ทำอย่างไรเอากลับมา ยึดอำนาจกลับมาเหรอ บางคนมีที่เยอะ ก็เขาซื้อไป ถูกกฎหมายหรือเปล่า ถ้าถูกก็ให้เขาไป แล้วเขาทำอย่างไร ให้เขาเผื่อแผ่เขาปล่อยมา นี่อย่างไร ออกภาษีมรดกภาษีที่ดิน ภาษีต่าง ๆ เพื่อให้เขากระจาย ปล่อยพวกนี้ออกมา ถ้าเขาไม่ทำกิน เก็บไว้ ก็ต้องเสียภาษีมากไปเรื่อย ๆ นั่นคือวิธีการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ไม่ใช่ไปยึดเขามา แล้วไปแจกคนจน ทำไม่ได้ อะไรที่จะต้องแก้ปัญหาเกี่ยวกับคนจนต้องใช้รัฐศาสตร์และนิติศาสตร์แก้ปัญหา ก็เป็นนโยบายที่ทุกคนทำอยู่แล้วขณะนี้ วันนี้ต้องเรียนว่าเรากำลังใช้พระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้ง 3 อำนาจ หาคนใช้ให้เป็น Social Media กว้างไกล คุมไม่ได้ เราต้องปรับปรุงระบบ ICT ของเราอีก เราต้องพัฒนา ICT ใช่ไหม Digital Economic พูดมากงงไปหมดแล้ว เมื่อเช้าลืมว่าแปรงฟันหรือยัง แต่พอเสร็จแล้วแปรงอีกที แปรงไปแปรงมาทำไมปากแห้งแสดงว่าแปรง 2 ที คิดไปเรื่อยคิดเรื่องอื่นไปเรื่อย กังวล แต่ก็ยังมีกำลังใจ คนที่เข้าใจยังมากอยู่ เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องสร้างความเข้มแข็งทั้งใจและกายให้ได้ครับ ผมพูดใช้เวลาว่าจะน้อย เขาเขียนมามากเหมือนกัน ผมพูดให้น้อยลง เขียนใหม่เมื่อสักครู่ 15 นาที และแถมไปอีกนิดหน่อยก็มากหน่อย คืออยากพูดอยากให้เข้าใจ
เพราะฉะนั้นต่อไปนี้อีก 3 เดือนข้างหน้า ผมจะกำหนดจุดประสงค์ที่ต้องการทุกกระทรวง ทำผมให้ได้ กระทรวงศึกษาธิการวิธีการสอนให้เห็นให้ชัดว่า เปลี่ยนอย่างนี้ตำราจะเปลี่ยนอย่างไร ทดลองอย่างไร นำร่องอย่างไร กีฬาจะเริ่มอย่างไร ไม่ใช่กีฬาโหมประโคมไป ได้ถ้วยได้เหรียญหลังจากนั้นลืมเขาไป แล้วก็ไปกดดันเด็ก ใครล่ะ นักแบดมินตันแชมป์โลกเป็นอย่างไร เขาเป็นอย่างไรตอนนี้ แพ้ตลอด ใช้ไหมละ ไปกดดันเขา นำเขากลับมาเรียนรู้แล้วสร้างความเข้มแข็งให้เขา ไม่ใช่ผลักดันเขาไปเรื่อย ๆ แล้วไปไม่ไหวก็จุก เราเสียเพราะอย่างนี้ เพราะฉะนั้นการสร้างนักกีฬาไทยไม่ได้สร้างจากสมาคม เป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการไปหามา ต้องใช้ผู้ที่มี Gift พรสวรรค์ไม่ใช่พรแสวง พรสวรรค์มาพวกหนึ่ง เพราะฉะนั้นต่อไปนี้สมาคมทุกสมาคมเงินมากทำมาก เงินน้อย เงินน้อยไม่มีขอรัฐบาล มีพวกบ้าง ลูกหลานเธอบ้าง ได้คนดีก็ดีไป ต่อไปนี้กระทรวงหรือทุกกระทรวงไปผลิตนักกีฬามาแข่งกับพวกสมาคม ใครชนะเลิศได้ ใครชนะนำคนนี้ไปเป็นตัวแทนชาติไปเหมือนกับอย่างนี้ที่ทำ ไม่อย่างนั้นสมาคมฟุตบอลที่ผ่านมาทำได้หรือไม่ ไม่ได้ เพราะวันนี้เกิดพรีเมียร์ลีกขึ้นมา คัดแต่พรีเมียร์ลีกเข้ามา เพราะฉะนั้นเดี๋ยวทุกกกระทรวงเป็นพรีเมียร์ลีก ไม่อย่างนั้นจะได้คนออกมาหรือ กระทรวงศึกษาธิการ อันไหนไม่อยากเรียน ภาคไหนไม่อยากเรียน ไม่เข้าในระบบการศึกษา เปลี่ยนเป็นห้องกีฬาปรับหน่วยกิตให้เขา ให้เล่นกีฬาให้เก่งแล้วกัน สร้างคนตั้งแต่เด็ก ภาคใต้ทำได้เลย โรงเรียนบางโรงเรียนคนเรียนน้อยมากหาครูกีฬาลงไป เด็กชอบเล่นกีฬานั้นแหละจะได้ช้างเผือกกลับเข้ามา ภาคใต้จะสงบเพราะเขาได้เล่นในสิ่งที่เขาได้ระบาย เยาวชนเรียกว่าระบาย มีแรงขับเคลื่อนสูง ไปต่อสู้เรื่องโน้นเรื่องนี้กันไป ผมอยากให้คิดแบบนี้คิดนอกกรอบกันบ้างและทำกันบ้าง ตำราจะทำอย่างไร ลองปรับตำราบางส่วนสิ ประถมสักส่วนหนึ่ง นำวิชาไหนมาปรับแก้ใหม่ให้เขาคิดได้ไหม
วันนี้การใช้ Social การใช้ระบบ ICT ในระบบ Digital ทุกคนจะซื้อแต่คอมพิวเตอร์ ซื้อแต่ Hardware นี้ ซื้อไปซื้อมาต่อกันไม่ได้ ต้องต่อกันให้ได้ในระยะเวลาที่ซื้อมาในรัฐบาลนี้ ถ้าวันหน้าบอกว่าต่อไม่ได้ผมจะตามไปถึงบ้าน ใครอนุมัติซื้อมา ต่อกันให้ได้ วันนี้ Software มากไปหมดทำอย่างไร Software เหล่านั้นจะมาใช้ประโยชน์ก่อนให้ได้ ต่อไปการใช้ครู อีกหน่อยครูก็ต้องซื้อให้ นักเรียนก็ต้องซื้อให้ ผมถามที่บ้านมีคอมพิวเตอร์กันทุกบ้านไหม มี ทำไมไม่ใช้วิธีการว่าให้การบ้านมา ไปค้นมา ครูก็มีใน Youtube ของตัวเองตั้งโจทย์มา นักเรียนไปคิดมา พรุ่งนี้นำกลับเข้ามาในห้อง เพราะ Google คิดตอบ 3 คำ 3 บรรทัด ถามว่าคือใคร ตอบ 3 บรรทัด แต่รู้ไหมว่าท่านยากลำบากขนาดไหน สู้กันดีเบตกันในห้อง จะได้ขยายความคิดทั้งการเรียนรู้ ทั้งการถกแถลง ทั้งการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำอย่างไรจะสร้างนักวิเคราะห์ วิจัย พัฒนา วันนี้ต้องกำหนดหัวข้อการวิจัยให้ชัดประเทศไทยจะเอาอะไร
วันนี้ประเทศไทยต้องเป็นเกษตรอุตสาหกรรมหรืออุตสาหกรรมขนาดย่อม สร้างธุรกิจ SMEs ให้เข้มแข็ง สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ใช้ความรู้ความสามารถไม่ต้องใช้เครื่องจักรเครื่องมือมากนัก อันไหนเป็นเครื่องจักรก็เพิ่มเทคโนโลยี และจะทำอย่างไรให้เป็นสีเขียว สร้างพลังงานทดแทน ลดสัดส่วน ปรับโครงสร้างพลังงาน พลังงานเถียงกันให้ตายไม่มีจบ แยกออกจากกันสิครับ อธิบายสังคมว่านี่คือโครงสร้างของรัฐวิสาหกิจ บริษัท ห้างร้านว่ามา ผลประโยชน์จะแบ่งปันเป็นธรรม ไม่เป็นธรรมอะไร เหมาทั้งหมดไม่ได้ แก้ไม่ได้ ไปแก้กัน ปฏิรูป รัฐบาลเลือกตั้งลองดูว่าจะแก้ได้ไหม ตอนนี้เราก็แก้โครงสร้างพลังงานตรงนี้ ให้สอดคล้องกับน้ำมันข้างนอก บอกน้ำมันข้างนอกทำไมลดลง 50 ทำไมในนี้ไม่ลดลง 50 ผมถามว่าน้ำมัน 1 บาเรลล์ ทำดีเซลได้ทั้งหมด 1 บาเรลล์ ไหมหรือทำน้ำมันเบนซินได้หมดไหม 1 บาเรลล์ของเขาทำได้ไม่เท่าไร แยกไปตั้งหลายอย่าง ขาดทุนบ้าง กำไรบ้างก็ถัวเฉลี่ยกันไป ไปบวกค่ากลั่น บวกภาษีสรรพสามิต บวกภาษีกองทุนน้ำมันอีก แล้วยุบทั้งหมดไปแล้ว แล้วทำอย่างไร ก็ขับกันเข้าไปสิรถ ก็ไม่ต้องไปสร้างระบบ
วันนี้สร้างทั้งระบบขนส่งมวลชน รถเมล์ เดี๋ยวปรับทั้งหมด จะทันหรือเปล่าไม่ยังไม่รู้เลย วันนี้ประมูลรถผมอยากให้เร็ว ปีหน้าคงมีรถใหม่วิ่งบ้างในกรุงเทพฯ มีทางลาด ทางให้คนพิการให้เขาบ้างนึกถึงเขา ถ้าบอกว่าตรวจสอบให้ดีโน่นชาติหน้าถึงซื้อได้ วันนี้ถ้าซื้อแล้วทุจริตผมไม่ยอม แล้ววันหน้าก็ไปสร้างสิ ต้องการ 4,000 วันนี้ซื้อมา 300 ก่อน เอามาดูสิ แล้วทำให้ได้อย่างนี้ถ้ามันดี ต่อในประเทศสร้างความเข้มแข็งต่างประเทศ เป็นศูนย์กลาง Hub ในเรื่องของการต่อตัวถังรถเมล์ บ้านเราเก่งทุกอย่างแต่เขาช่วยตัวเองมาหมด วันนี้รัฐต้องเป็นผู้สนับสนุน ภาคเอกชนไปหาตลาดร่วม วันนี้เอกชน บริษัท ห้างร้านต้องไปหาลูกค้า หาตลาดให้กับรัฐบาลด้วยร่วมกับ BOI เดี๋ยวผมจะตั้งคณะกรรมการในส่วน BOI ออกมาเพื่อจะไปหาตลาด โดยนำคุณธนินท์ เจียรวนนท์ ซีพี อะไรทั้งหมดไปเดินสายด้วย มาลงทุนประเทศไทยเป็นเครื่องมือ พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ใครจะขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็กมาร่วมกัน ต้องได้ไปสร้างการรับรู้ ข้าราชการทำอย่างเดียวไม่ได้ อย่ารอให้คนเข้ามาหาเรา เราต้องไปหาเขา
วันนี้สิ่งที่จะต้องทำคือระยะเวลาต่อไปก็คือเหมือนเดิม แก้ปัญหาระยะสั้น ระยะยาวยั่งยืน ส่งรัฐบาลต่อไปใครจะทำ ทำไป จะมีกฎหมายให้เขาทำได้ก็ว่ามา จะมีองค์กรไหนไปทำก็ไปเขียนมาจะอยู่ในตรงไหนผมไม่รู้ อย่างไรผมก็ไม่อยู่ด้วยอยู่แล้ว ไม่ไหว มีใครสงสัยอะไรไหมครับในส่วนของผม มีใครไม่เข้าใจอะไรไหม เข้าใจนะ ผมเป็นคนอย่างนี้ ถ้าจะอะไรก็ต้องโทษพี่ ๆ สอนผมมาแบบนี้ พี่เลี้ยงผมทั้งนั้นอยู่บ้านเดียวกันมาอะไรกันมา เชื่อใจกัน เชื่อมั่นกันนะครับ ถ้าเอามืออุดจมูกผมก็ตายไปแล้ว วันนี้โตมาถึงวันนี้ต้องมานั่งสั่งพี่เขาอีก ทั้งนั้น ทหารทุกคนรักกันมาทุกคน ผู้บัญชาการทหารเรือเขาวางแผนจะไปเที่ยวกับลูกกับภรรยา ไม่ได้ไป มาช่วยกันก่อน ทุกคนไม่ได้ไปไหนหมดเลย ลูกผมไม่ได้ออกจากบ้านมากี่เดือนแล้วนี่ บ่นว่าไปออสเตรเลียบ้าง ไปไหนบ้าง ผมบอกว่าจะไปทำไม เรียนหนังสือเรียนจบตั้งนานแล้ว ก็เป็นทุกข์อยู่ วันแรกวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 บ้านผมร้องไห้กันทั้งบ้าน เอาละพูดไปเดี๋ยวก็ไม่ดี เขาไม่อยากให้ผมเป็นอย่างนี้เลย แต่ผมบอกไม่ได้ ต้องทำ และผมก็ไม่ได้บอกใคร พี่ ๆ นี่ผมบอกทีหลังทั้งนั้น แต่ไม่ได้ วันหน้าเกษียณไปก็โดนด่าอีกว่าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ได้อย่างไร สุดท้ายขอขอบคุณทุกคนนะครับ ช่วยกันคืนความสุขให้กับประเทศไทย ให้ประเทศไทยที่เป็นประเทศที่มีความสมัครสมานสามัคคี สงบสุขอย่างยั่งยืน
เนื่องในโอกาสปีใหม่ ผมในนามของรัฐบาล ของนายกรัฐมนตรี ขอให้อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลายเดชะพระบารมีอันแผ่ไพศาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนเคารพนับถือ และความดีที่ทุกคนได้ช่วยกันกระทำ บุญกุศลที่ทำอยู่ ใครรู้อยู่แล้วว่าทำความดี ความไม่ดีอย่างไร แต่สิ่งไหนที่ไม่ดีก็ละ เลิก ลด สิ่งไหนที่ดีก็ทำมาก ๆ ขึ้น เป็นกุศล เป็นบารมีให้ทุกคนมีความสุข ลูก หลาน ประสบความสำเร็จ และขจัดภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง ทั้งในเรื่องของภัยคุกคามรูปแบบเก่า รูปแบบใหม่ทั้งสิ้น ให้ได้โดยเร็ว มีรายได้รายจ่ายอย่างเพียงพอและดำรงความสุขอย่างยั่งยืนตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และขอให้ทุกคนช่วยกันถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และพระราชวงศ์ทุกพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของประชาชนคนไทยทั้งประเทศครับ
อีกเรื่องนิดหนึ่ง เรื่องกีฬา ผมปลื้มใจเรื่องฟุตบอล ต้องบอกเขาเลยว่าเขาต้องภูมิใจให้มาก ๆ และเขาต้องเป็นคนดี ต้องเป็นนักกีฬาที่เป็นตัวอย่างของเยาวชนรุ่นต่อไป ไม่ใช่เดี๋ยวหลงระเริงไปและเสียไปอีกเรื่อย ๆ คนไทยส่วนใหญ่พอบูมมาก ๆ แล้วก็จะเสีย เพราะเราขาดการควบคุม การControl และเมื่อมีแล้วแบบทหารเขาเรียกว่าจัดตั้ง ควบคุม ใช้งานให้ได้ เขาต้องเป็นทายาทต่อไปในกีฬา สอนเขาอย่างนั้น
เมื่อคืนผมได้รับแจ้งมาอีกว่า ในวันที่กีฬาแข่ง ครึ่งแรก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านทรงให้โทรศัพท์ ต่อใครไม่ได้ คงแน่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถท่านทรงทอดพระเนตรอยู่ด้วยกัน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ท่านทรงพระราชดำเนินอยู่ และไปเจอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงนั่งทอดพระเนตร ตอนแรกจะโทรไปให้กำลังใจ ต่อไม่ได้ จนกระทั่งเราโดนไป 3 ลูกแล้ว ผมก็หงุดหงิดเหลือเกินวันนั้น วันนั้นได้เห็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเขานั่งเชียร์อยู่ข้างใน ก็เพื่อนเรา เขาชนะแน่นอน ท่านราจิบ นาซะก์ ก็เพื่อนกันวันนี้ก็รักกัน เราสู้เขาไม่ได้วันนี้ทำไม แต่เราก็บอกว่า ไม่ได้ก็ไม่ได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านให้คนโทรไป และพอดีโทรได้พอดี ก็บอกในครึ่งหลังบอกเล่นกันให้ดี มีสติ ชนะแพ้ก็เหมือนกัน ท่านรับสั่งไปทำนองนี้ ผมไม่ได้อยู่ด้วย เขาส่งข่าวไป ทุกคนก็มีกำลังใจ เล่น Calm Dawn สงบ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวก็โขมงโฉงเฉงเตะกันอีก แรงทั้งคู่อยู่แล้ววันนั้นดูท่าทาง แต่สิ่งที่ผมอยากบอกคือว่านี่คือพระองค์ท่าน ท่านให้สติทุกคน เพราะฉะนั้นทุกอย่างท่านพระราชทานสติทั้งสิ้น และในขณะนั้นแสนกว่าคนในสนามนั้นจุแสนกว่าคน เต็มเลย ของเรามี 3,000 – 4,000 คนเอง ท้ายสุดไม่เห็นตีกันเลย แรงกันฮึ่ม ๆ ตอนท้ายเขาก็ปรบมือให้เรา เราชนะเลิศ ถ้าเป็นไทยผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ใช่ไหม จาก 3-0 แล้วมาเป็นแพ้ เราต้องทำจิตใจเราให้สูงขึ้นนะ ครั้งที่แล้วแข่งกันเสร็จขว้างระเบิดใส่กัน ตีใส่กันอีก อีกหน่อยก็ต้องเลิกแข่งถ้าเป็นแบบนี้ ต่อไปนี้ใครทำแบบนี้ในกีฬาไปคาดโทษไป การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ไปคาดมา ว่าไม่ให้แข่งกี่แมตช์ กี่นัดก็ว่าไป ถ้ามีตีกันระหว่างคนดู ต้องรับผิดชอบ ต้องมีคนรับผิดชอบ
วันนี้เดี๋ยวนักกีฬามาใช่หรือไม่ ไม่มีไรหรอก เลี้ยงข้าวหน่อย ผมคงไม่ได้ทานเพราะเป็นหวัดอยู่ เดี๋ยวจะมอบรางวัลให้เขา ในนามของรัฐบาลมอบ 5 ล้านบาท และเดี๋ยวผมขอเอกชนอีกไม่รู้เท่าไรคงอีกหลายล้านบาท เดี๋ยวเขาจะมาร่วมมอบด้วย ส่งไปให้กับท่านรัฐมนตรีไปบริหารจัดการกันแล้วกัน ก็คงเยอะพอสมควร ของเก่าก็ได้ 30 กว่าล้านแล้ว ต้องทำให้ทั่วถึง ผมว่า ให้เขาเก็บไว้นะ สอนให้เขาเก็บ เขาใช้ ไม่ใช่นำไปเที่ยวหมด วันนี้อกหักหลายคน ชาริล ชัปปุยส์แฟนกลับมาแล้ว ติดใจนักหล่อ แฟนลาออกจากงานมาดีกว่า ท่าทางไม่น่าไว้ใจ
พรุ่งนี้เป็นวันครบรอบ 10 ปีสึนามิ ผมจะไปงานที่โน่น และไปเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมด้วย ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนวันอาทิตย์มีงานร่วมปั่นจักรยานรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ไปช่วยกันขี่นะ ใครขี่ 2 ล้อไม่ได้ก็นำ 3 ล้อไปขี่ ไปช่วยกัน อาจจะฝืนธรรมชาติอยู่บ้าง ถนนแคบ อะไรแคบค่อย ๆ ทำไป ผมจะบอกว่า เรากำลังจะทำเสนอความคิดเห็นออกไปทำได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกเราต้องการหรือเปล่า สวนสาธารณะเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา วันนี้เราวางแผนไว้ประมาณสองฝั่ง คือคนไปไม่ถึงแม่น้ำ ต้องผ่านโรงแรม ผ่านชุมชน เดี๋ยวเราจะทำเหมือนสะพาน ล้ำออกไปข้างนอกในที่ของในน้ำ คือไม่ได้ใช้ประโยชน์อยู่แล้ว ข้างล่างก็โล่งก็จอดเรือได้เหมือนเดิม แค่ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตรเป็นตัวอย่างนำร่อง ถ้าเห็นชอบร่วมกันก็จะได้ตั้งงบประมาณอะไรให้ก็ได้ แล้วข้างในนั้นจะมีสวนสาธารณะ เล่นกีฬา เดินเล่น ขี่จักรยาน พาคู่รักมาจีบกัน คุยกันก็ว่าไป แต่ติดไฟสว่างไม่เป็นอันตราย วันนี้ติดตั้งกล้องเพิ่มไป 15,000 กว่ากล้อง ไฟอีก 700,000 ดวง ท่านพลเอก อนุพงษ์ฯ สั่งไป กรุงเทพมหานครก็ช่วยติด ท้องถิ่นมหาดไทยก็ช่วยติด ก็ต้องร่วมมือกันทั้งหมด เพื่อให้บ้านเมืองเราปลอดภัย
ขอบพระคุณทางขวามือคือกำลังหลักของผม ข้าราชการทุกคน ทุกระดับ ให้ถึงข้างล่างว่าเราต้องการอะไร บางครั้งสั่งไปพอเขาติดปัญหาก็แก้ไม่ได้ เขาก็ไม่กล้าบอก ไม่กล้าบอกก็ทำไม่ได้นี่คือปัญหา ขาดการบูรณาการในพื้นที่และขาดการนำข้อมูลในพื้นที่ขึ้นมาถึงนาย นายสั่งไปบางทีไม่เข้าใจ ที่ผมพูดมากเพราะเดี๋ยวก็จำได้แค่ครึ่งเดียว ผมพูด ลูกน้องผมจะพูด ท่านต้องการ 100 เปอร์เซ็นต์ ท่านต้องสั่ง 150 ท่านถึงจะได้ 100 หรือ 200 ได้ 100 สั่ง 100 ได้แค่ 60 เท่านั้นก็ทนหน่อยเอาหน่อยแล้วกัน ระยะเวลาหนึ่ง ขอเวลาอีกไม่นาน ขอบคุณครับ สวัสดีครับ