ผู้อพยพยชาวซีเรียที่หลบหนีภัยสงครามจากประเทศบ้านเกิดของตนเอง นอกจากพวกเขาจะต้องหนี้การโจมตีจากกองกำลังทหารชีอะห์ของอัซซาดแล้ว ยังต้องระวังความเสี่ยงที่จะถูกฆ่าตาย หรือพิการจากทุ่นระเบิดเก่าที่อยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของชายแดนตุรกี
วัยรุ่นซีเรียในเมืองตุรกีบอกกับผู้สื่อข่าวอัลญะซีเราะห์ ว่าเขาสูญเสียขาทั้งสองข้างของเขา และพี่ชายของเขาเมื่อเขาและครอบครัวของเขามุ่งหน้าไปยังรั้วชายแดนกับตุรกี, พลัดหลงเข้าไปในเขตที่วางทุ่นระเบิด
“มีคนบอกเราว่าต้องข้ามพรมแดนโดยการมุดใต้ลวดหนาม แต่มันมีระเบิดเกิดขึ้นใต้พื้นที่ที่ผมและพี่ชายอยู่ จนทำให้พี่ชายของผมเสียชีวิต และผมต้องเสียขาทั้งสองข้างไป” ฟาดิล วัย 13 ปีกล่าว
ฟาดิล และครอบครัวของเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มชาวซีเรียหลายพันคน ที่หลบหนีอออกจากซีเรียก่อนที่กองกำลังไอเอสจะเข้ายึดครองพื้นที่ขนาดใหญ่ในดินแดนซีเรียและอิรัก
พ่อของฟาดิล กล่าวว่าเขากลัวว่าอาการบาดเจ็บจะทำลายอนาคตของลูกชายของเขา
“สิ่งที่คุณคาดหวังอนาคตของเด็ก 13 ปีที่ได้สูญเสียขาของเขามันแทบไม่เหลือเลย? เราทุกคนมีอนาคต … เราต้องหลบหนีออกจากบ้านเกิดของเรา ดินแดนที่เราสร้างขึ้นและอยู่มากกว่า 50 ปี” มุสตอฟา พ่อของหนูน้อยฟาดิลกล่าว
เมื่อเดือนที่แล้วสิทธิมนุษยชนกล่าวว่าระเบิดที่วางไว้โดยทหารตุรกีได้ทำให้อย่างน้อยสามพลเรือนที่พยายามหลบหนีออกจากซีเรียเสียชีวิต และอีก 9 คนได้รับบาดเจ็บ
ชาวซีเรียจำนวนมากได้อพยพเข้าดินแดนเพิ่มขึ้น นับตั้งแต่กองกำลังไอเอส หรือ ISIL ได้บุกยึดครองเมืองชายแดนติดกับตุรกีเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในเวลาเพียงสี่วันหลังการโจมตีของไอเอสมีชาวซีเรียกว่า 130,000 คนหนีไปตุรกี
https://www.youtube.com/watch?v=lpLP1XzkeLQ