เมื่อเวลา 9.00 น.วันที่ 20 มกราคมที่โรงแรมมณเฑียรริเวอร์ไซด์ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)เป็นประธานการเปิดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่2โครงการศึกษาความเหมาะสมโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายสีเทาช่วงวัชรพล สะพานพระราม 9 ท่าพระ โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า300คนซึ่งมีการแสดงความคิดเห็นหลากหลายซึ่งที่ปรึกษาจะนำไปประกอบผลการศึกษาต่อไป
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยวเป็นโครงการพัฒนาระบบการเดินทางของประชาชนให้มีความสะดวกรวดเร็ว และปลอดภัยในการเดินทางมากที่สุดซึ่งในอนาคตรถไฟฟ้ารางเดี่ยวจะเป็นทางเลือกในการเดินทางที่สำคัญของกรุงเทพมหานครซึ่งเส้นทางในโครงการช่วงวัชรพลสะพานพระราม9ท่าพระ ถือเป็นเส้นทางที่มีศักยภาพเนื่องจากเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าในระบบรางสายอื่นๆได้มากถึง6สายตลอดโครงการจะมีความยาวรวมกว่า39.91กิโลเมตรดังนั้นการก่อสร้างจึงต้องแบ่งออกเป็น3เฟสโดยเฟสแรกในเส้นทาง วัชรพล-ทองหล่อระยะทาง 16กม.นั้นถือเป็นเส้นทางที่ไม่มีอุปสรรคใดๆเนื่องจากไม่ต้องมีการเวนคืนพื้นที่ของประชาชนซึ่งตามเป้าหมายกทม.จะเริ่มการก่อสร้างในปี59และจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น3 ปีก็สามารถเปิดให้บริการได้
สำหรับการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยวในเฟสแรกต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างจำนวนกว่า24,000ล้านบาทซึ่งกทม.มีความตั้งใจจะเป็นผู้จัดหางบประมาณเองทั้งหมดโดยไม่มีแนวคิดจะให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาวิธีการจัดหางบประมาณว่าจะดำเนินการในรูปแบบของการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศหรือการออกพันธบัตรส่วนการดำเนินการในเฟสที่2และ3กทม.ก็จะเป็นผู้จัดหางบประมาณในการก่อสร้างเองเช่นกัน
นายสุรศักดิ์ทวีศิลป์ ที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารายเดี่ยวผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการขนส่งกล่าวว่า สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายสีเทา ช่วงวัชรพล สะพานพระราม9ท่าพระ จะแบ่งการก่อสร้างออกเป็น3เฟส คือช่วงที่1วัชรพล-ท่องหล่อระยะทาง 16.25กิโลเมตรงบประมาณการก่อสร้าง24,000ล้านบาทช่วงที่2พระโขนง-พระราม3ระยะทาง 12.17กิโลเมตรงบประมาณการก่อสร้าง15,000ล้านบาทและช่วงที่3พระราม3-ท่าพระระยะทาง 11.49กิโลเมตรงบประมาณการก่อสร้าง18,000ล้านบาทซึ่งรวมเงินลงทุนทั้งหมด57,000 ล้านบาทโดยเบื้องต้นจะดำเนินการก่อสร้างสถานีขึ้นจำนวน39สถานนีซึ่งเริ่มต้นที่สถานีวัชรพลและสิ้นสุดที่สถานีท่าพระทั้งนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาดังกล่าวเมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นจะเป็นระบบขนส่งมวลชนระบบรองที่ประชาชนสามารถใช้เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าในระบบหลักได้6สายคือรถไฟฟ้าสายสีชมพู เหลืองส้ม แดง เขียว และสีน้ำเงินทั้งนี้กทม.จะดำเนินการก่อสร้างในช่วงที่1ในปี59และจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง3ปีซึ่งคาดว่าในช่วงที่1จะมีจำนวนผู้โดยสารใช้งานมากถึง 10,500คนต่อชั่วโมง
รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับสถานที่ก่อสร้างเดปโป้ของโครงการกทม.ยืนยันไม่มีการเวนคืนแต่มีแนวทางในการเจรจาขอใช้พื้นที่ของหน่วยงานและภาคเอกชน โดยได้สำรวจแนวเส้นทางแล้วมีอยู่ 2-3 ทางเลือก ได้แก่การเจรจากับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)เพื่อขอใช้พื้นที่จุตัดบริเวณเลียบทางด่วนช่วงเกษตรนวมินทร์ และการทำความตกลงกับเอกชนใช้พื้นที่บริเวณศูนย์การค้าซีดีซี ซึ่งอยู่ระหว่างรอนโยบายจากผู้บริหารฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายในงานมีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนซึ่งนพ.มกราเทพเทพกาญจนา ประชาชนในพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยวกล่าวว่า โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารูปแบบโมโนเรลในต่างประเทศจะในเป็นระบบขนส่งในระยะสั้นๆแต่โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเทาของกรุงเทพมหานครนั้นมีระยะทางกว่า 40กิโลเมตรซึ่งอาจไม่เหมาะสมในการก่อสร้างอีกทั้งการคาดการปริมาณการใช้งานของประชาชนซึ่งคาดการณ์จากข้อมูลโดยรวมต่างนั้นอาจเป็นการคาดการที่คาดเคลื่อนซึ่งหากในอนาคตเส้นทางดังกล่าวมีประชาชนต้องการใช้การเดินทางในรูปแบบรถไฟฟ้าจำนวนมากรถไฟฟ้าในรูปแบบโมโนเรลอาจรองรับจำนวนผู้ใช้งานได้ไม่เพียงพอตนจึงอยากให้กทม.ทำการศึกษาให้รอบคอบมากที่สุดเพื่อให้งบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด
ด้านนายธนิตเกียรติชานอภิกุลประชาชนในพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้ากล่าวว่า เส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้าดังกล่าวเป็นเส้นทางแนวเดียวกับเส้นทางของรถโดยสารบีอาร์ทีแต่ตนเห็นว่ากทม.ไม่ควรยกเลิกการเดินรถบีอาร์ทีเนื่องจากหากรถโมโนเรลเกิดความขัดข้องบีอาร์ทีจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยขนส่งประชาชนในได้อีกทั้งรถโมโนเรล เป็นรถไฟฟ้าขนาดเล็กขนส่งผู้โดยสารได้ในปริมาณจำกัดหากในอนาคตมีผู้โดยสารมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องรถโดยสารบีอาร์ทีจะเป็นส่วนช่วงแบ่งเบาผู้โดยสารได้