ประธานาธิบดีราอูล คาสโตร ผู้นำคิวบา แถลงนอกรอบการประชุมสุดยอดประชาคมลาตินอเมริกาและแคริบเบียน ( ซีอีแอลเอซี ) ที่กรุงซานโฮเซ ว่าการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างคิวบากับสหรัฐ คือจุดเริ่มต้นของการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่ห่างเหินกันไปนานให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม พัฒนาการที่ว่านี้ยากที่จะเป็นไปได้ ตราบใดที่ยังคงมีมาตรการปิดกั้นทางการเมือง การค้าและอาวุธ รวมถึงการที่อีกฝ่ายยังคงยึดครองดินแดนที่เป็นอาณาเขตของคิวบาอย่างผิดกฎหมายเพื่อกิจการส่วนตัวมาเป็นเวลายาวนาน รัฐบาลฮาวานาจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรด้านอาวุธ การถอนชื่อคิวบาออกจากบัญชีประเทศสนับสนุนการก่อการร้าย และการส่งมอบเรือนจำกวนตานาโมกลับคืนให้กับรัฐบาลฮาวานาโดยเร็ว
ทั้งนี้ หากปัญหาดังกล่าวไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ความต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกันที่มีจุดเริ่มต้นจากการเห็นพ้องเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว และการเจรจาระดับทวิภาคระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองประเทศ ถือว่า “ไม่มีความหมาย” นอกจากนี้ ผู้นำคิวบาย้ำด้วยว่า จะยังคงบริหารด้วยระบบสังคมนิยมเผด็จการต่อไป และยังไม่มีแผนปฏิรูปการเมืองในเวลานี้
ท่าทีล่าสุดของคาสโตรมีขึ้นไม่นาน หลังสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของคิวบาเผยแพร่จดหมายของอดีตประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตร ซึ่งเป็นพี่ชายของนายราอูล ว่าไม่เคยไว้ใจนโยบายต่างประเทศและกลยุทธ์ทางการเมืองของสหรัฐ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะคัดค้านการฟื้นฟูความสัมพันธ์และเพิ่มความร่วมมือระหว่างคิวบากับทุกประเทศ แม้ประเทศนั้นจะเป็น “ศัตรู” ของคิวบาก็ตาม
