เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์บริการประชาชนร่วมในห้างสรรพสินค้า ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) และกลุ่มเซ็นทรัล จำกัด และระหว่าง ก.พ.ร.กับ หน่วยงานต่าง ๆ อาทิ กทม. สำนักงานประกันสงคม กรมการขนส่งทางบก กรมจัดหางาน เป็นต้น โดยนายวิษณุ กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์บริการประชาชนดังกล่าว จะจัดนำร่องที่เซ็นทรัลเวิลด์เป็นที่แรก โดยจะเร่งดำเนินการ อาจเปิดได้ในวันที่ 14 ก.พ.นี้ และจะขยายไปยังอีก 13 สาขาทั่วประเทศต่อไป เพราะปัจจุบันการเข้าถึงบริการภาครัฐนั้น ประชาชนต้องเดินทางไปรับบริการยังส่วนราชการต่าง ๆ ซึ่งมีประชาชนไปใช้บริการพร้อมกันเป็นจำนวนมาก อาจต้องใช้เวลา และมีค่าใช้จ่าย ดังนั้นการจัดให้มีศูนย์ดังกล่าวจะทำให้การบริการประชาชนเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ทั่วถึงเป็นธรรม มีคุณภาพ ราคาประหยัด และสะดวก ถือเป็นของขวัญปีใหม่ที่ ก.พ.ร.ให้กับประชาชนตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
นายวิษณุ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ศูนย์ดังกล่าวจะใช้เจ้าหน้าที่ไม่กี่คน รับเรื่องหรือเอกสารจากประชาชนที่มาใช้บริการ แล้วส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ เช่น การทำบัตรประชาชน ทางสำนักงานเขต จะเป็นผู้จัดทำบัตรประชาชนเช่นเดิม เพียงแต่ส่งเรื่องผ่านศูนย์นี้แล้วมารอรับในภายหลัง ก่อนหน้านี้ก็เคยดำเนินการเช่นนี้มาแล้ว พบว่าไม่มีปัญหาอะไร อย่างใบอนุญาตขับขี่ ก็มายื่นเรื่องที่ศูนย์บริการร่วมฯ แล้วไปดำเนินการตามกระบวนการปกติ จากนั้นก็มารับใบอนุญาตขับขี่ที่ศูนย์บริการฯ ทั้งนี้ในขั้นสูงสุด ก็อยากเห็นการทำหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต ณ ศูนย์บริการด้วย แต่มองว่ามีขั้นตอนต่างๆ มาก อาจจะใช้วิธีการจัดรถโมบายเคลื่อนที่มาให้บริการแทน ทั้งนี้จะมีการประเมินผลการดำเนินการทุก 1 เดือน หากพบว่ามีประชาชนสนใจมาใช้บริการที่ศูนย์บริการจำนวนมาก ก็อาจจะพิจารณาเพิ่มเจ้าหน้าที่ไปประจำในภายหลัง
เดลินิวส์
