ออนอิสลามรายงานว่า Mohammed Jafri บอกว่าภรรยาของเขาซึ่งสวมใส่ฮิญาบกำลังพบกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น หากเธอต้องเดินทงไปธุระนอกบ้านด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเลือกซื้อของ หรือพาเด็กไปไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะ กระแสการโจมตีชาวมุสลิมได้ทำให้เรารู้สึกกลัว และไม่ปลอดภัย
Jafri อาศัยอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์บอก OnIslam อีกว่า”ผมบอกเธอว่าอย่าไปใหนคนเดียว และผมจะพยายามไปด้วยกับเธอในสถานที่ต่างๆ ให้มากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้”
“เธออาจถูกโจมตีได้ถ้าผมไม่ไปด้วย”
Jafri กล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาเหมือนกับชาวมุสลิมอเมริกันอื่นๆ ที่รับรู้ได้ถึงอันตรายของชาวมุสลิม
เหตุรุนแรงต่อชาวมุสลิมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่น การฆาตกรรมล่าสุด 3 นักศึกษามุสลิมโดย Chapel Hill ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา, การเผาไหม้ของศูนย์อิสลามในฮูสตัน, เหตุลอบวางเพลิง และโจมตีทำร้ายชาวมุสลิมในเท็กซัส
Jafri กล่าวว่า “เห็นได้ชัดว่ามีการเพิ่มขึ้นของความเกลียดชังต่อชาวมุสลิม” หลังจากการสังหารโหดอย่างต่อเนื่องโดย (ISIL) ในตะวันออกกลาง, เหตุโจมตีชาร์ลี Hebdo ในปารีส และเหตุรุนแรงในเดนมาร์ก เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ถูกปั่นหัวทำให้มุสลิมตกเป็นจำเลยของสังคม
ข่าวร้ายมีมาอย่างต่อเนื่อง Jafri บอกว่ามันขึ้นอยู่กับชาวมุสลิมที่จะทำให้แน่ใจว่าพวกเขาและครอบครัวของพวกเขามีความปลอดภัย
“มุสลิมจำเป็นต้องปกป้องตัวเอง” เขากล่าว
หลังเหตุโจมตี 11 กันยา ชาวมุสลิมในสหรัฐประมาณ 6-8 ล้านคน ถูกเลือกปฎิบัติ และกีดกันทางสังคมหากพวกเขาปรากฏตัวในสังคมในรูปแบบอิสลาม
จากการสำรวจความคิดเหตุชาวอเมริกันเผยวาคนอเมริกันส่วนใหญ่มีความรู้ทางศาสนาอิสลามน้อยมาก
แกลลัปโพลล์ยังพบว่าส่วนใหญ่ของชาวมุสลิมสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ที่รักชาติ และต้องการอนาคตที่ดีของพวกเขาในประเทศนี้