“บิ๊กตู่” เซ็นใช้ ม.44 ใช้อำนาจทหารฟันนายทุนรุกป่า

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา และสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ได้เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 4/2558 เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายที่คุ้มครองประโยชน์สาธารณะและประชาชนโดยส่วนรวม

โดยที่ปรากฏว่าในปัจจุบันยังคงมีการกระทําที่เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่คุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และประชาชนโดยส่วนรวมเป็นจํานวนมาก และการบังคับใช้กฎหมายยังเป็นไปอย่างไม่เคร่งครัดและไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ส่งผลให้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ และก่อให้เกิดปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยในเรื่องต่างๆ เช่น การบุกรุกที่สาธารณะ ป่าสงวนแห่งชาติอุทยานแห่งชาติ การใช้ประโยชน์ในพื้นที่สาธารณะกีดขวางทางจราจร ทําให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในการใช้ชีวิตประจําวัน เป็นต้น จึงเป็นการสมควรที่จะกําหนดมาตรการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายนั้น

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่งดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ในกรณีที่มีความจําเป็นเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายที่คุ้มครองประโยชน์สาธารณะและประชาชนโดยส่วนรวมเป็นไปอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ รัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมายอาจขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร โดยแจ้งความประสงค์ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเพื่อพิจารณามอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารไปปฏิบัติการตามคําขอดังกล่าว

ในกรณีที่เห็นสมควร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อาจขอให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีคําสั่งมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีอํานาจหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่งหรือหลายฉบับ เพื่อประโยชน์ในการบังคับใช้กฎหมายนั้นให้เป็นไปอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ

ข้อ ๒ ในการปฏิบัติการตามข้อ ๑ ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่ได้รับมอบหมายมีอํานาจหน้าที่เช่นเดียวกับเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายนั้น รวมทั้งให้เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาและเป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

ข้อ ๓ ให้เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายที่รัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมายนั้น ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนตามกฎหมายนั้นๆ โดยเคร่งครัด และให้ดําเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการตามคําสั่งนี้ หากขัดขืนหรือไม่ให้ความร่วมมือจนก่อให้เกิดความเสียหายในการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ ให้ถือว่าผู้นั้นกระทําความผิดวินัยร้ายแรง

ข้อ ๔ คําสั่งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ ๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๘
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ความคิดเห็น

comments

ใส่ความเห็น