อิหร่านกลับคำอ้างจะลงนามข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับสุดท้ายกับหกชาติมหาอำนาจก็ต่อเมื่อมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดที่มีการบังคับใช้ทันที หลังจากข้อพิพาทโครงการนิวเคลียร์ของตนถูกยกเลิกในวันเดียวกันเท่านั้น ประธานาธิบดี ฮัสซัน โรฮานี กล่าวในการปราศรัยที่ถ่ายทอดทางโทรทัศน์เมื่อวันที่ 9 เมษายน ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องใหม่ที่ไม่มีในข้อตกลงร่วม
อิหร่านและกลุ่มชาติมหาอำนาจได้บรรลุกรอบข้อตกลงนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วในเมืองโลซานของสวิตเซอร์แลนด์ โดยพุ่งเป้าที่การจำกัดโครงการนิวเคลียร์ของเตหะรานแลกกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
ทุกฝ่ายกำลังพยายามทำงานเพื่อให้ได้ข้อตกลงว่าด้วยโครงการนิวเคลียร์ฉบับสุดท้ายทันเส้นตายวันที่ 30 มิถุนายน
โรฮานี กล่าวว่า “เราจะไม่ลงนามข้อตกลงใดๆ ทั้งสิ้น หากมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดไม่ถูกยกเลิกภายในวันเดียวกัน เราต้องการข้อตกลงที่ชนะทั้งสองฝ่ายสำหรับทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในการเจรจานิวเคลียร์นี้”
“เป้าหมายของเราในการเจรจา (กับชาติมหาอำนาจหลัก) คือเพื่อรักษาสิทธิด้านนิวเคลียร์ของชาติเรา เราต้องการผลลัพธ์ที่จะเป็นประโยชน์กับทุกคน” โรฮานี กล่าวในพิธีรำลึกวันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติของอิหร่าน
“ชาติอิหร่านเคยเป็นและจะเป็นผู้ชนะในการเจรจานี้” เขากล่าว
อิหร่านยืนยันว่า มติขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และมาตรคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) ที่เกี่ยวกับนิวเคลียร์ทั้งหมด จะถูกยกเลิกทันทีที่ข้อตกลงฉบับสุดท้ายได้รับการลงนาม
แต่สหรัฐฯ ระบุเมื่อวันจันทร์ (6) ว่า มาตรการคว่ำบาตรจะต้องค่อยๆ ทยอยถูกยกเลิกภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับสมบูรณ์
นับตั้งแต่ต้นปี 2012 มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯและอียูทำให้อิหร่านไม่สามารถส่งออกน้ำมันอย่างเปิดเผยได้เกือบ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน (บีดีพี) โดยลดลงไปถึง 60 เปอร์เซ็นต์หรือราว 1 ล้านบีดีพี
“ข้อได้เปรียบสำคัญของเราในการเจรจานี้คือความจริงที่ว่าประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ รับทราบแล้วว่า ชาวอิหร่านจะไม่ยอมจำนนต่อการกลั่นแกล้ง , การคว่ำบาตร และการข่มขู่” โรฮานี กล่าว
“ถือเป็นชัยชนะสำหรับอิหร่านที่มหาอำนาจทางทหารอันดับหนึ่งของโลกยอมรับแล้วว่าชาวอิหร่านจะไม่จำนนต่อแรงกดดัน”
ผู้เจรจาจากอิหร่าน , สหรัฐฯ , เยอรมนี , ฝรั่งเศส , อังกฤษ , รัสเซีย และจีนจะทำการเจรจาต่อในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้เพื่อปูทางสู่ข้อตกลงฉบับสุดท้าย
ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากผู้นำสหรัฐ และผู้นำสูงสุดทางจิตวิญญาณของศาสนาชีอะห์ในอิหร่าน ซึ่งครอบงำการบริหารงานของรัฐบาลอิหร่านได้แอบส่งจดหมายคุยกันก่อนหน้านี้