โกหนุ่ย ผู้ต้องสงสัยขบวนการค้ามนุษย์ในจังหวัดระนอง ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ ขณะที่โกโต้ง หัวหน้าขบวนการใน จ.สตูล ถูกออกหมายจับเป็นรายล่าสุด และยังคงหลบหนี
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 พ.ค.2558 ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร ภาค 9 ส่วนหน้า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงถึงความคืบหน้าการคลี่คลายคดีขบวนการค้ามนุษย์โรฮิงญา โดยนายสุวรรณ แสงทอง อายุ 66 ปี หรือโกหนุ่ย เจ้าของแพปลาในจังหวัดระนอง ผู้ต้องสงสัยตัวการใหญ่ของเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์ในจังหวัดระนอง ได้เข้ามอบตัวอีก 1 คน หลังจากถูกออกหมายจับใน 3 ข้อหา คือ สมคบและร่วมกันตั้งแต่ 3 คน ขึ้นไปกระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์ , ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันเรียกค่าไถ่ แต่ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าทางคดีว่า ล่าสุดได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้วทั้งสิ้น 50 คน เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้แล้ว 17 คน เหลือที่ยังหลบหนีอีก 33 คน โดยรายล่าสุดที่ถูกออกหมายจับคือ นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล และนักธุรกิจเจ้าของธุรกิจรีสอร์ทและเรือนำเที่ยวบนเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นหัวหน้าขบวนการค้ามนุษย์ในจังหวัดสตูล ที่มีเครือข่ายค้ามนุษย์รวมทั้งหมด 5 กลุ่ม จำนวน 29 คน ซึ่งถูกออกหมายจับทั้งหมดแล้ว ที่นำชาวโรฮิงญาและบังคลาเทศเข้ามาและส่งไปยังประเทศมาเลเซีย โดยขณะนี้โกโต้งได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
นอกจากนี้ในวันนี้ยังได้มีการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในผู้ต้องหาสตูล รวม 15 จุด ที่อยู่ในเครือข่ายของโกโต้ง ทั้งบ้านพักของโกโต้ง รวมทั้งรีสอร์ทและบ้านพักของเครือข่ายที่เป็นลูกน้องทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มตระกูลโต๊ะดินทั้ง 6 คน ซึ่งมีหมายจับเดิมอยู่ก่อนแล้ว ประกอบด้วย นายมาเลย์ โต๊ะดิน , นายเจ๊ะอาด โต๊ะดิน , นายสุชาติ โต๊ะดิน , นายซำซูดิน โต๊ะดิน และนายรอซัก โต๊ะดิน
ส่วนจำนวนผู้อพยพที่เจ้าหน้าที่ได้ให้การช่วยเหลือขณะนี้มีทั้งหมด 250 คน แบ่งเป็นผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง 187 คน ส่วนที่เหลืออีก 63 คน เป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้การช่วยเหลือต่อไป รวมนี้จะมีการจัดเจ้าหน้าที่ชุดกินรี ซึ่งเป็นตำรวจหญิง ลงพื้นที่เป้าหมายที่พบกลุ่มผู้อพยพ ทั้ง อ.รัตภูมิ อ.หาดใหญ่ และ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อขอความร่วมมือให้ชาวบ้านช่วยแจ้งเบาะแสของกลุ่มผู้อพยพมายังศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร ภาค 9 ส่วนหน้า สายด่วน 1300