เมื่อวันอาทิตย์ (24) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มาเลเซียยอมรับถึงรายงานการพบหลุมศพหมู่จำนวนร่วม 30 หลุม ใน 17 ค่ายร้างกลางป่าที่เชื่อกันว่าจะเป็นหลุมศพของชาวโรฮิงญาและผู้อพยพชาวบังกลาเทศจำนวนหลายร้อยคนในป่าปาดังเบซาร์และวังเกเลียน ใกล้พรมแดนไทยที่เคยมีการค้นพบไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังปฎิเสธมาโดยตลอดว่าในแผ่นดินมาเลเซียไม่เคยมีค่ายกักกันเครือข่ายค้ามนุษย์หรือหลุมศพหมู่มาก่อน
หนังสือพิมพ์ซิดนีย์มอร์นิงเฮอรัลด์รายงานในวันนี้(24)ว่า การค้นพบที่น่าสะพรึงกลัวหลุมศพหมู่ร่วม 30 หลุมล่าสุดในเขตมาเลเซียคล้ายกับที่เกิดขึ้นในไทยก่อนหน้านี้ต้นพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งทำให้การค้นพบในครั้งนั้นส่งผลให้รัฐบาลไทยต้องทะลายเครือข่ายธุรกิจค้ามนุษย์ข้ามชาติครั้งใหญ่ในเวลาต่อมา
หนังสือพิมพ์ Mingguan Malaysia ได้รายงานว่า แท้จริงแล้วมีการค้นพบหลุมศพหมู่ในป่าบริเวณปาดังเบซาร์และวังเกเลียน กลางเดือนพฤษภาคมนี้ แต่ทว่าทางการมาเลเซียกลับปกปิดความจริงไว้
นอกจากนี้หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นมาเลเซียรายงานเพิ่มเติมว่า ตำรวจมาเลย์ได้ทำการจับกุมผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติและชาวมาเลเซียในพื้นที่ภายใต้กฎหมายต่อต้านการค้ามนุษย์และลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย
และยังมีรายงานว่า เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่มาเลเซียยอมให้เครือข่ายการค้ามนุษย์ลักลอบนำมุสลิมโรฮิงญาและผู้อพยพชาวบังกลาเทศสู่ตลาดค้าแรงงานทาส โดยเหยื่อค้ามนุษย์เป็นจำนวนมากถูกขังไว้ในป่า และรวมไปถึงบนเรือกลางทะเล ในระหว่างที่ญาติคนเหล่านี้ถูกขู่กรรโชกทรัพย์
ด้านสำนักข่าว AP รายงานว่า Zahid Hamidi รัฐมนตรีมหาดไทยมาเลเซียเปิดเผยว่า ตำรวจพยายามที่จะระบุเอกลักษณ์บุคคลหลุมศพที่ค้นพบใกล้ชายแดนใต้
“หลุมฝังศพเหล่านี้เชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ และแรงงานข้ามชาติ” เขากล่าว หลังตำรวจเข้าตรวจสอบค่ายพักร้าง 17 แห่ง ใน 2 รัฐใกล้ชายแดนไทย โดยเบื่องต้นคาดว่ามีการดำเนินการมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี