ชาวเอธิโอเปียต่างออกไปใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาในวันอาทิตย์ (24) ซึ่งเป็นที่คาดกันว่า พรรคแนวร่วมประชาธิปไตยเพื่อการปฏิวัติประชาชน (EPRDF) ซึ่งเป็นรัฐบาลและผูกขาดครองอำนาจมายาวนานกว่า 25 ปี จะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะได้อย่างถล่มทลายจากผลงานสำคัญในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ แม้จะมีปัญหาเรื่องการใช้อำนาจเผด็จการในการบริหารประเทศจนทำให้ชาวโซมาเลียจำนวนมากอพยพออกนอกประเทศ และการรับนโยบายสหรัฐจนดึงประเทศเข้าสู่สงครามในโซมาเลียก็ตาม
รายงานข่าวระบุว่า ชาวเอธิโอเปียที่มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งนี้มีจำนวนราว 37 ล้านคน จากจำนวนประชากร 96 ล้านคนทั่วทั้งประเทศ ขณะที่ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการคาดว่าจะประกาศได้ภายใน 2-3 วันข้างหน้า แม้ผลอย่างเป็นทางการอาจต้องรอถึงเดือนมิถุนายน
แม้รัฐบาลเอธิโอเปียภายใต้การนำของประธานาธิบดีมูลาตู เตโชเมและนายกรัฐมนตรีไฮเลมาเรียม เดซาเลกน์จะประกาศจัดการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาในครั้งนี้ด้วยความโปร่งใสและบริสุทธิ์ยุติธรรม แต่ก็ยังมีรายงานจากบรรดากลุ่มเคลื่อนไหวด้านประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนว่าพบการคุกคามของรัฐบาลต่อการรายงานข่าวของสื่อมวลชนและเหล่าบล็อกเกอร์อย่างกว้างขวาง
ทั้งนี้ เอธิโอเปียถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตรวดเร็วที่สุดของทวีปแอฟริกาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเอธิโอเปียในปีนี้จะมีการเติบโตสูงถึง 10.5%
เอธิโอเปียเป็นประเทศต้นๆ ในการรับนโยบายจากสหรัฐในการส่งกำลังทหารเข้าไปในโซมาเลียนำประเทศเข้าสู่สงคราม ทำให้โซมาเลียไม่ถูกดำเนินการใดๆ แม้จะมีปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงในภูมิภาค โอการ์เดน นอกจากนี้เอธิโอเปียยังเป็นประเทศที่มีความเลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจสูง ทำให้เกิดการอพยพออกนอกประเทศเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง
