เจ้าหน้าที่ปากีสถานระบุในวันอังคาร (23) ว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 700 ราย จากคลื่นความร้อนตลอด 3 วันที่ผ่านมา บริเวณภาคใต้ของประเทศ ด้านนักวิชาการอิสลามแนะให้กลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอาการฮีทสโตรก ควรละศีลอด
ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในเมืองการาจี ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของปากีสถาน มีประชากรราว 20 ล้านคน อุณหภูมิของที่นั่นได้พุ่งขึ้นไปแตะระดับ 45 องศาเซลเซียส เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ซาเบียร์ เมมอน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ระบุว่า”จำนวนผู้ที่เสียชีวิตเพราะคลื่นความร้อนในโรงพยาบาลของรัฐ ตอนนี้มี 612 รายแล้ว ตัวเลขอาจเพิ่มมากขึ้นอีก”
นอกจากนี้ยังผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลเอกชนอีกอย่างน้อย 80 รายด้วย
ตัวเลขการตายเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงที่ปากีสถาน ประเทศมุสลิมที่มีประชากรราว 200 ล้านคน กำลังอยู่ในช่วงเทศกาลถือศีลอดเดือนรอมฎอน ที่ห้ามกินอาหารและดื่มน้ำในช่วงดวงอาทิตย์ขึ้น ไปจนถึงดวงอาทิตย์ตก
เซมี จามาลี แพทย์ของโรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในเมืองการาจีได้บอกว่า พวกเขาต้องดูแลผู้ป่วยมากถึง 3,000 ราย โดยผู้ป่วยเหล่านี้มีมากกว่า 200 รายที่เสียชีวิต ทั้งแบบเสียชีวิตมาแล้วก่อนถึงโรงพยาบาล และที่มาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ด้านองค์กรสวัสดิการเอดีห์ ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการกุศลที่ใหญ่สุดในปากีสถาน ระบุว่า สถานที่เก็บศพ 2 แห่งของพวกเขาภายในเมืองนี้ ได้รับศพผู้เสียชีวิตมากกว่า 400 ราย ตลอดช่วง 3 วันที่ผ่านมา จนเต็มความจุแล้ว
นอกจากนี้ การขาดแคลนพลังงานไฟฟ้ายังทำให้ระบบน้ำประปาในเมืองการาจีไม่อาจทำงานได้อย่างเต็มที่ กระทบต่อการสูบน้ำหลายล้านแกลลอนขึ้นมาใช้ในการบริโภค
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของปากีสถาน ระบุว่า อุณภูมิที่เมืองการาจีในวันอังคาร ยังคงอยู่ที่ระดับ 44.5 องศาเซลเซียส แต่คาดว่าช่วงค่ำจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง
“เนื่องจากเกิดความกดอากาศต่ำขึ้นในทะเลอาหรับ พายุฝนฟ้าคะนองน่าจะเริ่มก่อตัวขึ้นในช่วงค่ำนี้ และอาจต่อเนื่องไปจนถึงอีก 3 วันข้างหน้า” เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาบอกกับเอเอฟพี
ขณะเดียวกัน ฝ่ายบริหารของแคว้นได้ประกาศให้ช่วงนี้เป็นวันหยุด เพื่อที่ชาวบ้านจะได้อยู่ในที่พัก เจ้าหน้าที่รายหนึ่งบอกด้วยว่า มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากที่เป็นชนชั้นแรงงาน ต้องออกไปลุยแดดกลางแจ้ง
ตาฮีร์ อัชราฟี นักวิชาการอิสลาม ได้เรียกร้องให้ผู้ที่มีความเสี่ยงว่าจะเกิดอาการฮีทสโตรก ควรละศีลอด
“ศาสนาอิสลามได้ออกเงื่อนไขในการอดอาหาร โดยมีการระบุในคัมภีร์อัลกุรอานด้วยว่าผู้ป่วยหรือนักเดินทางที่ไม่สามารถอดอาหาร สามารถเลื่อนการถือศีลอดได้ ส่วนผู้ที่ร่างกายอ่อนแอหรือแก่ชราจนเสี่ยงที่จะล้มป่วยหรืออาจถึงตายเพราะอดอาหาร ก็สามารถละเว้นได้” เขากล่าว
เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ ได้บอกกับเอเอฟพีว่า จะมีการจัดตั้งศูนย์บำบัดรักษาผู้ที่มีอาการฮีทสโตรกขึ้นที่โรงพยาบาลทุกแห่งทั่วแคว้นเพื่อคอยให้บริการผู้ป่วยฮีทสโตรก