ชาชนประมาณ 1,000 คน เดินขบวนประท้วงในใจกลางกรุงบูดาปสต์ ประเทศฮังการี เมื่อวันอังคาร เพื่อต่อต้านแผนการก่อสร้างรั้ว ที่รัฐบาลฮังการีกำลังก่อสร้างกั้นตลอดแนวพรมแดนที่ติดกับเซอร์เบีย เพื่อป้องกันผู้อพยพหลั่งไหลมาจากทางตอนใต้เข้าสู่ฮังการี โดยการเดินขบวน ซึ่งจัดขึ้นโดยกลุ่มสิทธิพลเรือน เริ่มต้นจากโบสถ์เซนต์ สเตฟานส์ บาซิลิกา ที่ใหญ่ที่สุดของเมือง ซึ่งผู้ประท้วงถือแผ่นป้ายที่มีข้อความเขียนว่า “พระเยซูคือผู้อพยพด้วย” และ “เพื่อนที่ดีที่สุดของฉันคือผู้อพยพ”
ผู้ประท้วงพากันเดินไปยังอาคารรัฐสภาที่มีสถาปัตยกรรมแบบนีโอ-โกธิค และมีการสาธิตการทำลายรั้วจำลองสูง 15 เมตร เลียนแบบรั้วที่รัฐบาลจะสร้างตามแนวพรมแดน
ทั้งนี้ รั้วดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลฮังการีเริ่มก่อสร้างเมื่อวันจันทร์ที่ผานมา จะมีความสูง 4 เมตรและยาว 175 กิโลเมตร รัฐบาลระบุว่า มันจะป้องกันพรมแดนของสหภาพยุโรป หรืออียู และพรมแดนของฮังการีด้วย หลังจากพบว่ามีผู้อพยพมากกว่า70,000คน เดินทางเข้าฮังการีในปีนี้ เพิ่มจาก 43,000 คนจากปีที่แล้วทั้งปี
ผู้ประท้วง กล่าวว่า รั้วดังกล่าว จะไม่สามารถป้องกันประชาชนที่หลบหนีจากพื้นที่สงครามได้ และเสียเงินงบประมาณโดยไร้ประโยชน์ และบางคนก็กล่าวว่า รั้วดังกล่าวผิดศีลธรรม หลังจากมีผู้อพยพหลายหมื่นคนอพยพหลั่งไหลจากยุโรปตะวันออกผ่านฮังการีเข้าสู่ประเทศยุโรปตะวันตก เพื่อแสวงหาความเป็นอยู่ที่ดีกว่า
ทั้งนี้ ผู้อพยพหลายหมื่นคน ส่วนใหญ่มาจากตะวันออกกลางและแอฟริกาใช้เส้นทางคาบสมุทรบอลข่าน เข้าสู่อียู โดยผ่านกรีซ ไปยังมาซิโดเนีย และเซอร์เบีย และจากนั้น ก็เข้าเขตความตกลงเชงเกนของอียู ซึ่งสามารถเดินทางข้ามพรมแดนกันได้โดยไม่ต้องมีวีซา โดยเริ่มต้นในฮังการี