ทางการมาเลเซียประกาศปิดโรงเรียนในเขตกรุงกัวลาลัมเปอร์และรัฐใกล้เคียงในวันอังคาร (15 กันยา) หลังหมอกควันจากการเผาพื้นที่เกษตรกรรมบนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซียลอยข้ามมาปกคลุมถึงเมืองหลวงแดนเสือเหลือง จนค่ามลพิษพุ่งสูงและสภาพอากาศขมุกขมัว
คุณภาพอากาศในมาเลเซียและสิงคโปร์ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่วันจันทร์ (14 กันยา) ทางการอิเหนาได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในจังหวัดซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันมากเป็นพิเศษ
กระทรวงการศึกษามาเลเซียมีคำสั่งปิดโรงเรียนทุกแห่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ตลอดจน 3 รัฐที่อยู่ติดเมืองหลวงและที่เมืองศูนย์กลางการบริหาร “ปุตราจายา” หลังตรวจวัดค่ามลพิษในอากาศได้ถึงขั้น “ไม่ดีต่อสุขภาพ” และ “ไม่ดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง” ในบางพื้นที่
สถานีตรวจวัดสภาพอากาศกว่าครึ่งจากทั้งหมด 52 แห่งทั่วมาเลเซีย สามารถวัดค่ามลพิษได้ถึงเกณฑ์ “ไม่ดีต่อสุขภาพ” ในวันอังคาร (15 กันยา)
วิกฤตหมอกควันนับเป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในฤดูแล้งของอินโดนีเซีย ซึ่งชาวบ้านบนเกาะสุมาตราและบอร์เนียวมักจะใช้วิธีแผ้วถางและเผาป่าเพื่อเตรียมที่ดินไว้สำหรับเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ
รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศภาวะฉุกเฉินในจังหวัดรีเอา (Riau) บนเกาะสุมาตราแล้ว
ประชาชนหลายหมื่นคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ศูนย์กลางหมอกควันบนเกาะสุมาตราและบอร์เนียวเริ่มล้มเจ็บไปตามๆ กัน ขณะที่บางเที่ยวบินต้องเดินทางล่าช้าหรือยกเลิกไฟล์ท เนื่องจากทัศนวิสัยย่ำแย่
ทางการมาเลเซียเริ่มแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้แก่ประชาชนในบางพื้นที่ ส่วนอุตสาหกรรมการเดินเรือและการบินก็ได้รับคำเตือนให้ใช้ความระมัดระวังอย่างสูง เนื่องจากทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลง
เจ้าหน้าที่ยังแนะนำให้ประชาชนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน และขอให้ทำกิจกรรมภายนอกอาคารเท่าที่จำเป็น
รัฐบาลจาการ์ตาเผชิญแรงกดดันจากเพื่อนบ้านให้ต้องหามาตรการควบคุมวิกฤตหมอกควันที่เกิดขึ้นทุกๆ ปี ทว่าความร่วมมือในระดับภูมิภาคก็ยังไม่นำมาซึ่งทางออกที่ยั่งยืน
ขอบคุณ ASTV