ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียให้คำมั่นในวันอังคาร (15 กันยา) ว่าจะยังคงให้การสนับสนุนทางทหารแก่ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียต่อไป
“เราสนับสนุนรัฐบาลซีเรียในการต่อสู้กับการรุกรานโดยผู้ก่อการร้าย เรากำลังจัดสรรทุกความช่วยเหลือทางทหารที่จำเป็นให้แก่ซีเรียและจะทำเช่นนี้ต่อไป” ปูตินกล่าวในการประชุมด้านความมั่นคงในภูมิภาคที่ทาจิกิสถาน
เอเอฟพีรายงานเมื่อวันจันทร์(14 กันยา)ว่า รัสเซียได้ส่งหน่วยปืนใหญ่และรถถัง 7 คันไปยังสนามบินทหารแห่งหนึ่งในซีเรียในฐานะส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวเพื่อเสริมบทบาททางทหารของพวกเขาที่นั่น
การเพิ่มขึ้นของยุทธภัณฑ์รัสเซียในซีเรียได้ทำให้ฝ่ายตะวันตกเป็นกังวลว่ามอสโคอาจมีเจตนาให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่อัสซาดซึ่งเป็นพันธมิตรกันมาช้านาน
รัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้กำลังขยายบทบาททางทหารของตนในซีเรียแต่ให้คำมั่นว่าจะคอยสนับสนุนอัสซาดต่อไป
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯหลายคนแสดงความกังวลว่ารัสเซียอาจโจมตีกลุ่ม FSA ซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านที่ให้การดูแลประชาชนชาวซีเรียจำนวนมาก และมักตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีอย่างป่าเถื่อนของรัฐบาลชีอะห์แห่งซีเรียอยู่บ่อยครั้ง
มอสโคกำลังผลักดันให้จัดตั้งแนวร่วมของกองกำลังต่างๆ ที่จะปราบปรามกลุ่มไอเอสโดยครอบคลุมหลายฝ่ายมากกว่านี้ แต่ผู้เล่นรายสำคัญในภูมิภาคอย่างซาอุดีอาระเบียประกาศชัดว่าชาวซีเรียต้องมีสิทธิ์ที่จะเลือกผู้นำของตนเองอย่างเสรี ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่รัฐบาลชีอะห์แห่งซีเรีย รัสเซีย อิหร่าน ยอมรับไม่ได้
ปูตินได้กล่าวโจมตีผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์การที่รัสเซียสนับสนุนรัฐบาลชีอะห์แห่งซีเรียว่า วิกฤตผู้อพยพที่สั่นคลอนยุโรปอยู่ในปัจจุบันจะเลวร้ายยิ่งกว่านี้อีก หากรัสเซียไม่สนับสนุนอัสซาด
“หากรัสเซียไม่สนับสนุนอัสซาด สถานการณ์ในประเทศนี้จะเลวร้างยิ่งกว่าในลิเบียและการไหล่บ่าของผู้ลี้ภัยจะมากยิ่งกว่านี้” เขากล่าว
สงครามกลางเมืองซีเรียที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ต้นปี 2011 คร่าชีวิตพลเมืองไปแล้วราว 250,000 คน และกระตุ้นชาวซีเรีย 23 ล้านคนต้องอพยพทิ้งถิ่นฐาน โดยนับล้านคนอยู่ในกลุ่มประเทศอาหรับ และหลายแสนคนมุ่งหน้าไปยังสหภาพยุโรปเพื่อหวังตั้งต้นชีวิตใหม่ จากการคุกคามที่รุนแรงและป่าเถื่อนของกองกำลังชีอะห์แห่งซีเรีย และการโจมตีไล่ยึดพื้นที่ของกลุ่ม ISIL