เกิดเหตุเรือผู้อพยพล่มนอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของตุรกีในวันอังคาร (15 กันยา) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพราะจมน้ำอย่างน้อย 22 คนขณะที่พวกเขากำลังพยายามเดินทางเข้าสู่กรีซ สื่อท้องถิ่นรายงาน
หน่วยยามชายฝั่งของตุรกีกู้ศพขึ้นมาได้อีก 9 ศพ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 22 ราย และได้ช่วยชีวิตผู้อพยพ 211 คนจากเรือไม้ลำดังกล่าวที่ล่มหลังออกเดินทางจากเมืองตากอากาศดัตกาทางตะวันตกเฉียงใต้เพื่อไปยังเกาะคอสของกรีซที่อยู่ใกล้เคียง สำนักข่าวโดแกนรายงาน
สำนักข่าวแห่งนี้ระบุว่ายังไม่ทราบสัญชาติของผู้อพยพกลุ่มนี้ และตอนนี้ยังคงมีความพยายามช่วยชีวิตต่อไปอยู่
จำนวนผู้อพยพและผู้ลี้ภัยที่ออกเดินทางจากตุรกีด้วยเรือสภาพทรุดโทรมเพื่อไปยังสหภาพยุโรปนั้นมีเพิ่มสูงขึ้นรวดเร็วอย่างมาก พวกเขาส่วนใหญ่กำลังลี้ภัยจากความขัดแย้งและความทุกข์ยากในซีเรีย อัฟกานิสถาน ปากีสถาน และแอฟริกา
ภาพศพของ อัลลัน เคอร์ดี หนูน้อยผู้ลี้ภัยชาวซีเรียวัย 3 ขวบ ซึ่งถูกพบเกยบนชยหาดตุรกีหลังจากเรือที่ครอบครัวของเขาโดยสารมาเพื่อไปยังเกาะคอสประสบเหตุล่ม ได้สร้างความสะเทือนใจต่อคนทั้งโลก และกดดันให้ผู้นำยุโรปยกระดับการตอบสนองของพวกเขาต่อวิกฤตผู้ลี้ภัยนี้
แต่ 2 สัปดาห์หลังจากนั้นสมาชิกสหภาพยุโรปยังคงไม่ลงรอยกันในเรื่องที่ว่าจะจัดหาที่พักพิงให้กับผู้อพยพเข้ามาใหม่หลายหมื่นคนอย่างไร
ทางการตุรกีระบุว่า พวกเขาช่วยชีวิตผู้อพยพจากเรือที่ล่มได้กว่า 42,000 คนนับตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้
เส้นทางข้ามทะเลอีเจียนจากตุรกีไปยังกรีซได้กลายเป็นเส้นทางที่คับคั่งที่สุดสำหรับผู้อพยพและผู้ลี้ภัยที่พยายามเข้าสู่ยุโรป
