ตลาดหุ้นแดนมังกรระส่ำระส่ายหนัก ตั้งแต่วันแรกของการซื้อขายในปีลิง ราคาดิ่งฮวบกว่า 7 เปอร์เซ็นต์ ต้องสั่ง “เซอร์กิต เบรกเกอร์” ปิดตลาดหนีความผันผวน
ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และเซินเจิ้น ต้องยุติการซื้อขายหุ้นลงเมื่อเวลา 13.28 น. ตามเวลาท้องถิ่นวันนี้ (4 มกราคม) หลังจากราคาหุ้นร่วงระนาวกว่า 7 เปอร์เซ็นต์ จนลั่นสัญญาณ “เซอร์กิต เบรกเกอร์” (Circuit Breaker) หรือมาตรการหยุดการซื้อขายชั่วคราวครั้งปฐมฤกษ์ ในวันแรกของการซื้อขายหุ้นปี พ.ศ.2559
กรณีปิดตลาดการซื้อขายเร็วกว่ากำหนดดังกล่าว นับเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นแดนมังกร ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับการใช้มาตรการเซอร์กิต เบรกเกอร์ ที่ทางการจีนเปิดตัวออกมาเพื่อรับมือความแปรปรวนรุนแรงของตลาดหุ้น เมื่อเดือนธ.ค. ปีก่อน และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา
เซอร์กิต เบรกเกอร์ จะคอยติดตามการขึ้น-ลงของดัชนีหูเซิน 300 (Hushen 300) ซึ่งเป็นหุ้นที่สะท้อนสภาพการณ์ของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น โดยหากดัชนีฯ พุ่งสูงหรือลดต่ำ 5 เปอร์เซ็นต์ มันจะทำการระงับการซื้อขายชั่วคราวเป็นเวลา 15 นาที และหากเกิดลดฮวบเกิน 7 เปอร์เซ็นต์ ก็จะปิดการซื้อขายของวันนั้นทันที
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 13.17 น. จีนได้สั่งระงับการซื้อขายหุ้นชั่วคราวเป็นเวลา 15 นาที หลังจากราคาหุ้นลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ และกลับมาเปิดตลาดอีกครั้งในเวลา 13.28 น. ทว่าก็ต้องสั่งยุติการซื้อขายทั้งหมดลงทันที เนื่องจากราคาหุ้นยังลดต่อเนื่องอีกกว่า 2 เปอร์เซ็นต์
ณ ช่วงปิดตลาดการซื้อขาย ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ลดลง 6.85 เปอร์เซ็นต์ ดัชนีเซินเจิ้นคอมโพสิต ลดลง 8.16 เปอร์เซ็นต์ และดัชนีไชเน็กซ์ ลดลง 8.21 เปอร์เซ็นต์ โดยนักวิเคราะห์มองว่าเป็นผลจากตัวเลขกิจกรรมการผลิตเดือนธ.ค. ที่ลดลงเกินคาด เช่นดัชนีพีเอ็มไอ (PMI) ที่ไถลลงไปอยู่ร้อยละ 48.2 จากร้อยละ 48.6 ในเดือนพ.ย. รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนที่อ่อนตัวลง 96 จุด เหลือเพียง 6.50 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันนี้