ตำรวจทาจิกิสถานออกแถลงการณ์อ้างความสำเร็จในการสั่งปิดร้านค้าขายผ้าคลุมศรีษะสตรีมุสลิมกว่า 160 ร้าน สั่งจับชายร่วม 13,000 คนโกนหนวดเครา กวาดล้างแนวคิดสุดโต่งจากต่างประเทศที่แทรกซึมเข้ามา
อัลญะซีเราะฮ์ รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี(21 มกราคม)ว่า บาห์รอม ชาริฟโซดา(Bahrom Sharifzoda) หัวหน้าตำรวจระดับภูมิภาคคาธลอน (Khathlon) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ แถลงในวันพุธ(20)ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทาจิกิสถานประสบความสำเร็จสามารถหว่านล้อมให้เด็กหญิง และหญิงชาวทาจิกิสถานจำนวนไม่ต่ำกว่า 1,700 คน ยอมที่จะไม่สวมผ้าคลุมศรีษะได้สำเร็จ
โดยการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของประเทศที่ต้องการกวาดล้างแนวคิดสุดโต่งจากต่างประเทศที่แทรกซึมเข้ามา
ทั้งนี้พบว่าผู้นำในทากิจิสถานซึ่งใกล้ชิดรัสเซียเจ้าอณานิคมเดิมได้พยายามต่อต้านการแทรกซึมแนวคิดเหล่านี้เป็นเวลานานมาแล้ว ซึ่งคาดว่าจะถูกเผยแพร่ออกมาจากอัฟกานิสถาน ประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน
ขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐสภาทาจิกิสถานได้ลงคะแนนโหวตห้ามใช้ชื่อภาษาอาหรับ ในคราวเดียวกับมติห้ามการแต่งงานในหมู่ญาติใกล้ชิดทางสายเลือด
และคาดกันว่ากฎหมายเหล่านี้จะได้รับการลงนามบังคับใช้ภายหลังโดยประธานาธิบดีทาจิกิสถาน เอโมมาลี ราห์มอน (Emomali Rahmon) ที่พยายามอย่างหนักในการรณรงค์ปลูกฝังแนวคิดแบบเซอคิวล่า
ทั้งนี้ในเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา ศาลสูงสุดทากิจิสถานได้ออกคำสั่งห้ามการจดทะเบียนพรรคการเมืองอิสลามิก เดอะ อิสลามิก เรเนซองซ์ ปาร์ตี ออฟ ทาจิกิสถาน(The Islamic Renaissance Party of Tajikistan) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองอิงศาสนาพรรคเดียวในประเทศ