ฟินแลนด์และนอร์เวย์พยายามจะหาทางหยุดคลื่นผู้ลี้ภัยจากซีเรีย และตะวันออกกลางที่เดินทางเข้าประเทศผ่านทางเส้นทางอาร์กติกเหนือสุดของโลก โดยใช้ช่องทางข้ามแดนมาจากรัสเซีย ทำให้รัฐมนตรีมหาดไทยฟินแลนด์ เพทเทรี ออร์โพ (Petteri Orpo) ประณามมอสโก รู้เห็นเป็นใจปล่อยผู้ลี้ภัยข้ามแดน
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานพุธ(20 มกราคม)ว่า ฟินแลนด์และนอร์เวย์ต้องรับกับปัญหาผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่ใช้ช่องทางใหม่เข้าสู่ทั้งสองชาติผ่านทางเหนือสุดของภูมิภาค
ซึ่งล่าสุดในวันพุธ(20 มกราคม)รัฐมนตรีมหาดไทยฟินแลนด์ เพทเทรี ออร์โพ (Petteri Orpo)ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อฟินแลนด์ STT แสดงความไม่พอใจในเรื่องนี้ว่า “ผมเข้าใจดีว่า ไม่มีใครสามารถเดินทางมุ่งหน้าไปยังเขตแดนรัสเซียได้โดยปราศจากการรับรู้ของเจ้าหน้าที่รัสเซีย ผมรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากในเรื่องนี้”
และออร์โพยังได้ย้ำว่า เขาต้องการปรึกษากับเพื่อนบ้านอย่างรัสเซียถึงสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนในเรื่องวิกฤตการไหลเข้าของผู้ลี้ภัยนี้ พร้อมยังชี้ว่า การเพิ่มจำนวนผู้ลี้ภัยเข้าฟินแลนด์ที่สูงผิดปกตินั้นไม่อาจใช้คำอ้างอธิบายจากการที่รัฐบาลขวาจัดนอร์เวย์ที่สั่งขับผู้อพยพเหล่านี้
รอยเตอร์ชี้ว่า ถึงแม้ในขณะนี้ที่ทางยุโรปยังอยู่ในช่วงฤดูหนาว แต่ทว่าคลื่นผู้ลี้ภัยจากดินแดนทะเลทรายตะวันออกกลาง และจากแอฟริกายังคงมุ่งมั่นไหลบ่าเข้ายุโรปอย่างไม่ขาดสายเป็นจำนวนมาก ทำให้มีประเทศต่างๆในยุโรปต้องออกมาใช้มาตรการต่างๆเพื่อยับยั้งการเข้าประเทศ
ซึ่งออสเตรียได้ประกาศว่า จะกำหนดจำนวนผู้ลี้ภัยที่ประสงค์ขอลี้ภัยในประเทศในปีนี้ให้ต่ำกว่าครึ่งของจำนวนผู้ลี้ภัยทั้งหมดที่เข้ามาในปี 2015 ในขณะที่ผู้นำออสเตรียยืนยันจะยังคงควบคุมพรมแดนออสเตรียอย่างเข้มงวดต่อไป
รอยเตอร์รายงานว่าในฟินแลนด์แต่ละวันจะมีจำนวนผู้ลี้ภัยเดินทางเข้าประเทศสูงถึง 20 คน โดยข้ามฝั่งมาจากรัสเซียที่บริเวณจุดตรวจด่าน แซลลา(Salla) อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่ควบคุมพรมแดนฟินแลนด์ และในปีที่ผ่านมามีจำนวนผู้ลี้ภัยสูงถึง 700 คนใช้จุดข้ามแดนแซลลาเข้าฟินแลนด์
รอยเตอร์รายงานต่อว่า เป็นเพราะฟินแลนด์ประกาศห้ามไม่ให้ผ่านข้ามแดนเข้าประเทศด้วยการเดินเท้า หรือการปั่นจักรยาน ดังนั้นบรรดาผู้ลี้ภัยจึงใช้ช่องทางใหม่โดยขับรถเก่าสัญชาติรัสเซียผ่านเข้าประเทศแทน
และพบว่ามีรถเก่าร่วม 50 คันถูกจอดเรียงรายบริเวณด่านหลังจากที่ทางการฟินแลนด์ยึดไว้ได้สำเร็จ
ส่วนสถานการณ์ล่าสุดที่นอร์เวย์ รัฐบาลขวาจัดได้ส่งผู้ลี้ภัย 13 คนที่มีสัญชาติซีเรียน อัฟกัน เยเมน และปากีสถาน ขึ้นรถบัสเดินทางผ่านทางเส้นทางอาร์กติกส่งกลับเข้าไปยังรัสเซียในช่วงกลางดึกวันอังคาร(19)ที่มีอุณหภูมิต่ำถึง -30 องศาเซลเซียส
ทั้งนี้รัฐมนตรีเข้าเมืองและการรวมตัวของนอร์เวย์ ซิลวี ลิสฮอก (Sylvi Listhaug) ได้ชี้แจงต่อรัฐสภานอร์เวย์ว่า รัฐบาลตัดสินใจผลักดันผู้อพยพที่มีวีซ่าพำนักระยะยาวในรัสเซียเท่านั้น
แต่อย่างไรก็ตาม สำนักงานผู้ลี้ภัยประจำองค์การสหประชาชาติได้ออกโรงเตือนนอร์เวย์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เตือนว่ารัสเซียไม่สามารถให้ความคุ้มครองผู้ลี้ภัยเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสม