วันจันทร์ที่(29 กุมภาพันธ์)ผ่านมา เป็นวันสุดท้ายของการปฏิบัติภารกิจ คณะได้มีโอกาสเยี่ยมองค์กรเอ็นจีโอที่ทำงานด้านมนุษยธรรมรวม 5 องค์กรดังนี้
1. องค์กรอะมัลเพื่อการพัฒนาและสวัสดิการสังคม (Al-Amal For Development & Social Care) الأمل แปลว่าความหวัง
เป็นองค์กรหลักที่เราได้ประสานก่อนหน้านี้ตลอดจนให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่คณะของเรา เป็นองค์กรที่เน้นให้การดูแลผู้พิการและผลิตอวัยวะเทียม มีทีมงานที่เข้มแข็งและเป็นระบบมาก ในนามสภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษธรรมสำนักจุฬาราชมนตรี ยาตีมทีวี มูลนิธิศรัทธาชนเพื่อการศึกษาและเด็กกำพร้า และเครือข่ายเพราะเราคือเรือนร่างเดียวกันได้มอบเงินผ่านองค์กรนี้จำนวน 42,000 ดอลล่าร์
(1,500,000 บาท) เพื่อแจกจ่ายชุดยังชีพแก่ผู้อพยพชาวซีเรียที่ศูนย์อพยพเลบานอน
ได้มีการรับฟังการนำเสนอและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหารตลอดจนถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
นายบิลาลอะบูลุอัย ผจก.บริหารองค์กรอะมัลกล่าวแก่คณะฯเราว่า การเดินทางของเราสู่แผ่นดินดินชามในครั้งนี้ ทำให้ท่านนึกถึงความมุ่งมั่นของบรรดาเศาะฮาบะฮและชาวอาหรับในอดีตที่อุตส่าห์เดินทางเผยแพร่สัจธรรมอิสลามทั่วโลก บัดนี้คณะของเราได้ตอบแทนบุญคุณของบรรพบุรุษชาวอาหรับด้วยการเดินทางมามอบความช่วยเหลือและซับน้ำตาพวกเขายามที่พวกเขาประสบกับความยากลำบาก ซึ่งถือเป็นการงานที่ประเสริฐยิ่ง ที่คณะสามารถนำความช่วยเหลือของพี่น้องชาวไทยมาถึงแผ่นดินชาม
2. ออกอากาศที่สถานีวิทยุอัลฟัจญ์รุ ซึ่งเป็นวิทยุกระจายเสียงทั่วเลบานอน บางส่วนของซีเรียและฟิลัสฏิน เป็นการสัมภาษณ์สดที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที (เวลา10.00 น.-10.30 น.) โดยอ.มัสลัน มาหะมะหัวหน้าคณะทีมงานใช้โอกาสนี้แนะนำเมืองไทยและความเป็นอยู่ของมุสลิมในภาพรวม ตลอดจนสื่อไปยังผู้ฟังเกี่ยวกับภารกิจของสภาเครือข่ายฯและองค์กรภาคีฯที่นำเงินช่วยเหลือพี่น้องชาวซีเรียที่เลบานอน ที่สำคัญได้ฝากสลามของพี่น้องชาวไทยให้แก่ชาวเมืองชามผ่านสถานีวิทยุแห่งนี้
3. หลังจากนั้น เราไปที่ Takaful for Child Welfare ซึ่งเป็นองค์กรที่ปฏิบัติงานร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคม เลบานอน ที่เน้นการให้ความช่วยเหลือแก่เด็กกำพร้าและเด็กพิการ ตลอดจนส่งเสริมอาชีพแก่หญิงหม้ายและคนยากจน เราได้มอบเงินจำนวน 2,000 ดอลล่าร์ (70,000 บาท)เพื่อสนับสนุนค่าครองชีพเด็กกำพร้าซีเรียจำนวน 60 คนๆละประมาณ 35 ดอลล่าร์ในระยะเวลา 1 เดือน การทำงานขององค์กรนี้ใช้ฐานข้อมูลที่มีระบบมาก เด็กกำพร้าแต่ละคนมีแฟ้มประวัติอย่างละเอียด โดยจะส่งข้อมูลเหล่านี้ไปยังผู้อุปการะอย่างต่อเนื่องทั้งผลการเรียน ผลการท่องจำอัลกุรอาน คำกล่าวขอบคุณมารดาและข้อมูลอื่นๆ ซึ่งองค์กรฯจะรายงานข้อมูลเด็กกำพร้าทั้ง 60 คนภายหลัง
4. ภารกิจการเยี่ยมองค์กรในช่วงเช้าสิ้นสุดที่ Ghiras for Society Development
เป็นองค์กรเอ็นจีโอที่มีเครือข่ายที่ดีกับองค์กรนานาชาติ โดยเฉพาะ UNHCR ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก UNHCR ทั้งเงินและวัสดุอุปกรณ์จำนวน 10 ล้านดอลล่าร์ต่อปีช่วง4-5 ปีที่ผ่านมาจนกระทั่งปัจจุบัน เป็นองค์ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาครอบครัวทั้งแม่และเด็ก เพื่อบ่มเพาะต้นกล้าที่พร้อมเผชิญหน้ากับภัยคุกคามในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ คณะฯได้มอบเงินสดจำนวน 1,000 ดอลล่าร์ (35,000 บาท) เพื่อสนับสนุนครอบครัวชาวซีเรียที่ค่ายอพยพเลบานอน วิสัยทัศน์ขององค์กรนี้ ไม่เพียงแต่เพาะต้นกล้าเพื่อปฏิบัติภารกิจเฉพาะด้านเท่านั้น แต่เป็นการบ่มเพาะอนุชนรุ่นใหม่ที่พร้อมสานต่อภารกิจของอุมมะฮฺได้อย่างต่อเนื่อง
5. ช่วงบ่าย คณะได้ไปเยี่ยมองค์กรสุดท้ายคือ Islamic Medical Association (IMA-Lebanon สมาคมแพทย์อิสลาม- เลบานอน) ซึ่งเป็นองค์กรเอ็นจีโอที่รวบรวมแพทย์มุสลิมที่มีจิตสาธารณะมาให้บริการและรักษาผู้ป่วยฟรีตามสาขาเชี่ยวชาญต่างๆ โดยจะหมุนเวียนผลัดเวรตามความพร้อมของแพทย์แต่ละท่าน ในแต่ละวันมีผู้ป่วยเข้ามารับบริการประมาณ 60-80 ราย บางช่วงถึง 200-300 รายต่อวัน 80% ของผู้ที่มารับบริการเป็นชาวซีเรียและฟิลัสฏีน และ อีก20% เป็นผู้ป่วยชาวเลบานอน
เป็นองค์กรที่มีความเสี่ยงและต้องใช้จิตสาธารณะที่สูงส่ง มีหน่วยบรรเทาทุกข์ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชม. บางกรณีต้องรับผู้ป่วยตามชายแดนซีเรียที่ได้รับบาดเจ็บจากการถล่มของทหารบัชชาร์ ทั้งๆที่องค์กรนี้มีความสำคัญมาก แต่น่าแปลกที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆจากภาครัฐและองค์กรนานาชาติ นพ.ฟุอ้าด ริฟาอีย์ ผอ.สมาคมแพทย์อิสลามเล่าว่า ก่อนหน้านี้เราได้รับความช่วยเหลือจากUN พอสมควร แต่ช่วงหลังๆนี้ UN จะตัดงบประมาณช่วยเหลือด้านการรักษาเยียวยาทั้งหมดยกเว้นค่าทำคลอดเท่านั้น หากเด็กเกิดมามีปัญหาทางสุขภาพ ทางสมาคมต้องหาค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อดูแลทารกเป็นการเฉพาะ แม้กระทั่งโรงพยาบาลรัฐยังปฏิเสธทำคลอดหากพบว่าทารกที่เพิ่งคลอดมีปัญหาทางสุขภาพ เพราะจะเป็นภาระให้กับโรงพยาบาล ทางสมาคมฯยังขาดงบประมาณจำนวนมากเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่รวมทั้งยาเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ การรักษาเยียวยา ตลอดจนการบริหารจัดการ อัลหัมดุลิลลาฮฺ คณะได้มอบเงินจำนวน 4,000 ดอลล่าร์ (140,000 บาท) แก่สมาคมฯเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อยาเวชภัณฑ์ให้กับผู้ป่วยชาวซีเรียต่อไป
ภารกิจในวันนี้จึงแน่นไปด้วยการพบปะ แลกเปลี่ยน ดูงาน มอบเงินช่วยเหลือและประชาสัมพันธ์ผ่านสถานีวิทยุอัลฟัจญ์รุ
นาอีม วงศ์เกษร รายงานจากกรุงเบรุต ประเทศเลานอน