รายงานฉบับใหม่ขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่มีการเผยแพร่ออกมาในวันพุธ (9 มี.ค.) ระบุ ในเวลานี้มี 34 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในจำนวนนี้เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์เป็นดินแดนในทวีปแอฟริกา ยังคงประสบภาวะมีอาหารไม่เพียงพอเลี้ยงประชากรของตัวเอง อันเนื่องมาจากความขัดแย้ง การสู้รบ ภัยแล้ง และอุทกภัย
รายงานฉบับดังกล่าวซึ่งรวบรวมข้อมูลและจัดทำโดยทีมผู้เชี่ยวชาญขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ภายใต้หัวข้อ “Crop Prospects and Food Situation” ระบุว่า ภาวะภัยแล้งที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ “เอลนินโญ” ได้กลายเป็นปัจจัยเชิงลบที่ลดทอนและสร้างความเสียหายอย่างสำคัญแก่ผลผลิตพืชผลทางการเกษตรทั่วโลกในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพืชผลทางการเกษตรในภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้
ส่วนในกรณีของภูมิภาคอเมริกากลาง และบรรดาหมู่เกาะน้อยใหญ่ในทะเลแคริบเบียน นั้น รายงานฉบับนี้ระบุว่าสภาพอากาศที่แห้งซึ่งเชื่อมโยงกับปรากฏการณ์เอลนินโญอาจส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารในช่วงฤดูเพาะปลูกหลักเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
ขณะเดียวกันรายงานของเอฟเอโอยังคาดการณ์ว่า การเก็บเกี่ยวพืชผลในโมร็อกโกและแอลจีเรีย ที่อยู่ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกาจะได้ปริมาณผลผลิตที่ลดลง เนื่องจากภาวะความแห้งแล้งเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ทีมผู้เชี่ยวชาญของเอฟเอโอยังประเมินปริมาณผลผลิตข้าวสาลีที่ถือเป็นพืชอาหารลำดับต้นๆ ของโลกในปี 2016 นี้ว่า จะสามารถเก็บเกี่ยวได้ราว 723 ล้านตันทั่วโลก หรือลดลงกว่าในปี 2015 ที่ผ่านมาถึงราว 10 ล้านตัน