“ทรัมป์” หนุนยิวเต็มตัว-ลั่นจะย้ายสถานทูตไปตั้งที่ “เยรูซาเลม” ถ้าได้เป็น ปธน.สหรัฐฯ

โดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีปากเปราะผู้เป็นเต็งหนึ่งในศึกชิงตัวแทนพรรครีพับลิกัน งัดกลยุทธ์เอาใจกลุ่มล็อบบี้ยิสต์ยิว โดยประกาศจะรับรองนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล พร้อมกับย้ายสถานทูตอเมริกันไปตั้งที่นั่น หากตนได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมประกาศจะเดินหน้าสานสัมพันธ์กับอิหร่านให้มากขึ้น

ทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นไม่นาน ก่อนที่เขาจะเดินทางไปปราศรัยต่อที่ประชุมคณะกรรมการกิจการสาธารณะอเมริกัน-อิสราเอล (American Israel Public Affairs Committee – AIPAC) ซึ่งเป็นกลุ่มล็อบบี้ยิสต์ยิวที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (21 มีนาคม)

ทรัมป์ เคยสร้างความไม่พอใจให้แก่กลุ่มผู้สนับสนุนนโยบายต่างประเทศแบบอนุรักษนิยม ด้วยการประกาศตัว “เป็นกลาง” ในข้อพิพาทระหว่างชาวยิวกับชาวปาเลสไตน์ แต่ล่าสุดมหาเศรษฐีปากเปราะได้ปรับจุดยืนมาเข้าข้างอิสราเอลอย่างเต็มตัวเมื่อวันจันทร์ (21) โดยให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นก่อนจะไปปราศรัยต่อ AIPAC ว่า “ไม่มีใครที่สนับสนุนอิสราเอลมากเท่าผมอีกแล้ว เราต้องปกป้องอิสราเอล เพราะอิสราเอลมีความสำคัญต่อเรา”

เมื่อพิธีกรถาม ทรัมป์ ว่าเขาพร้อมจะรับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และย้ายสถานทูตสหรัฐฯ จากเทลอาวีฟไปที่นั่นหรือไม่ ทรัมป์ ก็ตอบว่า “แน่นอน ผมทำแน่”

“จริงๆ แล้วผมเองก็อยากจะให้ย้าย ผมอยากให้สถานทูตอเมริกันไปตั้งอยู่ที่เยรูซาเลม” เขากล่าว

ระหว่างขึ้นปราศรัย ณ เวทีประชุมของ AIPAC ทรัมป์ ยังประกาศย้ำอีกครั้งว่า ตนมีความรักและสนับสนุนอิสราเอลมา “ตลอดทั้งชีวิต”

“วันไหนที่ผมได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ วันนั้นจะเป็นวันแรกที่การเลือกปฏิบัติต่ออิสราเอลเหมือนพลเมืองชั้นสองจะสิ้นสุดลง” ทรัมป์ กล่าว

เมื่อปี 1967 อิสราเอลได้ก่อสงครามและยึดพื้นที่ส่วนมากของชาวปาเลสไตน์เพิ่มเติม แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ จนสหประชาชาติออกมติให้อิสราเอลต้องคืนดินแดนส่วนที่ยึดไปในปี 1967 แต่จนถึงขณะนี้อิสราเอลยังไม่ยอมคืนดินแดนดังกล่าว และได้ยึดครองดินแดนเพิ่มเติม โดยไม่มีมาตรการลงโทษใดๆ จากสหประชาชาติแต่อย่างใด

ความคิดเห็น

comments