กลุ่มหัวรุนแรงสเปน ขึ้นป้าย จุดพลุไฟ ประท้วงใกล้กับมัสยิด

กลุ่มหัวรุนแรงในสเปนได้กำหนดเป้าหมายที่ด้านหน้านมัสยิดในกรุงมาดริด ในการประท้วง จุดพลุไฟพร้อมขึ้นป้ายข้อความ “วันนี้บรัสเซล วันพรุ่งนี้มาดริด?”

สำนักข่าว World Bulletin รายงานว่ากลุ่มหัวรุนแรงที่เรียกตัวเองว่า The far-right group Hogar Social Madrid (Madrid Social Home) ได้โพสข้อความพร้อมรูปภาพในสื่อสังคมออนไลน์ ที่เผยให้เห็นสมาชิกของกลุ่มได้ใช้สะพานลอยบนทางหลวงเป็นสถานที่ในการปะท้วงโดยหันหน้าไปทางมัสยิดหลักของเมือง ที่รู้จักกันดีในชื่อ M-30 โดยอ้างว่าเป็นการประท้วงต่อเหตุรุนแรงในเบลเยี่ยม

ข้อความในโพสระบุว่า “เราเป็นภาพของการก่อการร้ายที่ผ่านมา กับการก่อการร้ายที่มัสยิด M-30 ในกรุงมาดริดซึ่งได้รับการสนับสนุนเงินทุนจาก ISIL : มัสยิดในยุโรป ออกไป”

การกระทำของกลุ่มหัวรุนแรงในยุโรปเกิดขึ้นหลังเหตุโจมตีในกรุงบรัสเซล ที่สนามบิน และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คนและบาดเจ็บจำนวนมาก

ขณะที่มัสยิด และศูนย์วัฒนธรรมอิสลามในสเปน ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธ(23 มีนาคม)ว่า “โดยไม่ต้องสงสัยว่าสิ่งที่เ​​กิดขึ้นในกรุงบรัสเซลส์ในวันที่ 22 มีนาคมเป็นที่ยอมรับไม่ได้ และมันไม่ได้รับการยอมรับไม่ว่าจะภายใต้ตรรกะหรือศาสนาของเรา การโจมตีดังกล่าวเป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างยิ่ง”

“ชาวมุสลิมทุกคนทั่วโลกได้ประณามเหตุการณ์ที่น่ากลัว ในการมุ่งสังหารเหยื่อผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งมุสลิม”

นอกจากนั้นอิหม่าม Hussam Khoja ยังได้กล่าวถึงการกระทำของกลุ่มหัวรุนแรงในกรุงมาดริดว่า

“เราขอประณามการกระทำของกลุ่มสุดโต่งที่เกิดขึ้น รวมทั้งสิ่งที่เปิดขึ้นในช่วงบ่ายวานนี้(อังคาร 22) โดยกลุ่มหัวรุนแรงที่พยายามจะโจมตีมัสยิดของเรา และก่อให้เกิดความเสียหายกับมัสยิดของเรา”

“เราขอเรียกร้องให้ประชาชนประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ พร้อมกับเหตุการณ์อื่นๆ ที่มีผลมาจากอคติทางศาสนา”

“และสุดท้าย ขอย้ำอีกครั้งว่า ชาวมุสลิมที่ยึดมั่นในคัมภีร์อัลกุรอาน และซุนนะห์ของท่านนบีมูฮัมหมัดศ็อลลั๊ลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ไม่มีความเกี่ยวพันธ์ใดๆ กับการกระทำเหล่านี้”

ด้านนาย Manuela Carmena นายกเทศมนตรีของ Ahora Madrid ได้เรียกร้องให้สื่อสังคมออนไลน์ยุติการคุกคามต่อมัสยิด

โดยระบุว่า “อย่ากระทำ ที่จะกลายเป็นอาชญากรรมต่อชาวมุสลิม” “เรากำลังต่อสู้ร่วมกันในการต่อต้านการก่อการร้าย”

พร้อมชี้ว่า “การอยู่ร่วมกัน = เมืองที่ปลอดภัย”

ความคิดเห็น

comments