แผ่นดินไหวเอกวาดอร์พุ่งอย่างน้อย 235 ศพ เจ็บกว่า 1,500

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุด ในรอบหลายสิบปีของเอกวาดอร์เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างน้อย 235 รายแล้วในวันอาทิตย์ (17 เมษายน) ขณะที่ทีมกู้ภัยยังคงเร่งทำงานแข่งกับเวลาเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตที่ยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังต่างๆ

ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดจากเหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.8 ตามมาตราแมกนิจูด ที่มีศูนย์กลางอยู่นอกชายฝั่งทางตะวันตกของเอกวาดอร์ได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างน้อย 235 รายแล้ว ขณะที่แรงสั่นสะเทือนซึ่งสามารถรับรู้ได้ทั่วไปในดินแดนที่เป็นบ้านของประชากร 16 ล้านคนแห่งนี้ ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกไปทั่ว โดยเฉพาะภายในกรุงกิโตที่เป็นเมืองหลวง

ประธานาธิบดีราฟาเอล กอร์เรีย ผู้นำเอกวาดอร์กล่าวระหว่างการเดินทางกลับจากประเทศอิตาลี เพื่อมาดูแลการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในประเทศของตนโดยระบุ ในขณะนี้ภารกิจที่ถือว่ามีความสำคัญเป็นลำดับแรก คือ การเร่งค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิต ที่ยังติดอยู่ตามใต้ซากปรักหักพังของอาคารต่างๆ

“ทุกสิ่งทุกอย่างเราสามารถสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้ แต่สิ่งที่น่าเจ็บปวดที่สุดก็คือ ความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับชีวิตของผู้คนซึ่งเราไม่มีทางที่จะนำกลับคืนมาได้” ผู้นำเอกวาดอร์กล่าวพร้อมยืนยันการประกาศภาวะฉุกเฉิน ในพื้นที่ 6 จังหวัดทางตะวันตกของประเทศ

ด้านรองประธานาธิบดีฮอร์เฆ กลาส แห่งเอกวาดอร์ ออกโรงยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดที่อย่างน้อย 235 ราย และว่าตัวเลขของผู้ได้รับบาดเจ็บจากผลพวงของเหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.8 แมกนิจูดในครั้งนี้ได้เพิ่มเป็นมากกว่า 1,500 รายแล้ว

รายงานข่าวระบุว่า พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนักหน่วงที่สุดทางตะวันตกของประเทศ คือ ที่เขตเปเดร์นาเลสซึ่งเป็นแหล่งตากอากาศยอดนิยม ที่นอกจากสิ่งปลูกสร้างภายในเมืองจะได้รับความเสียหายอย่างหนักแล้ว ยังต้องเผชิญกับแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว หรือ “อาฟเตอร์ช็อก” ที่เกิดขึ้นตามมามากกว่า 160 ครั้ง

ล่าสุดมีรายงานว่า ทางกองทัพเอกวาดอร์ได้ส่งกำลังทหารกว่า 13,500 นายเคลื่อนกำลังเข้ารักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ขณะที่รัฐบาลเอกวาดอร์เตรียมจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉิน เพื่อออกมาตรการลดทอนผลกระทบทางเศรษฐกิจจากแผ่นดินไหวใหญ่หนนี้ ที่ถือเป็นปัจจัยลบ ซ้ำเติมภาวะราคาน้ำมันที่ดิ่งเหวในตลาดโลก และอาจทำให้เศรษฐกิจของเอกวาดอร์ที่ได้ชื่อว่าเป็นชาติสมาชิกที่เล็กที่สุดของกลุ่มโอเปก มีการเติบโตได้ไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ในปี 2016 นี้

ความคิดเห็น

comments