เด็กชาวปาเลสไตน์จำนวนมากต้องถูกบังคับให้ออกจากโรงเรียนเพื่อทำงานหาเลี้ยงครองครัวของพวกเขา หลังจากพ่อ-แม่ ญาติผู้ใหญ่ของพวกเขาถูกฆ่าตายจากการโจมตีของอิสราเอล หรือตกงานอันเนื่องเป็นผลมาจากการโจมตีของอิสราเอล โดย AFP ยังได้รายงานเรื่องของเด็กน้อยชาวปาเลสไตน์ 2 คน Walid Maaruf วัย 11 ปี และ Ibrahim Ghaben วัย 12 ปี ซึ่งทั้งสองเคยเป็นนักเรียนที่เก่งแต่ต้องออกจากการเรียนหลังต้องสูญเสียญาตผู้ใหญ่จากการโจมตีของอิสราเอล
ประมาณครึ่งหนึ่งของประชากร 1.9 ล้านคนในดินแดนฉนวนกาซาอาศัยอยู่ใต้เส้นความยากจน โดยที่ร้อยละ 80 ยังต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ตามรายงานของ AFP ขณะที่อัตราการว่างงานสูงถึงร้อยละ 45 จัดเป็นหนึ่งในอัตราการว่างงานที่สูงที่สุดในโลก บังคับให้เด็กหลายคนต้องกลายเป็นทำหน้าที่หาเลี้ยงครอบครัว
ตามสถิติของปาเลสไตน์แสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นของการใช้แรงงานเด็กพุ่งขึ้นในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาประมาณ 9,700 คนมีช่วงอายุระหว่าง 10 และ 17 ปี ที่ต้องทำงานในพื้นที่ถูกปิดล้อมทางทะเล
“พ่อของฉันเป็นผู้ว่างงาน” Ibrahim Ghaben วัย 12 ปี กล่าว “เขาทำหน้าที่ในการรวบรวมหินและเศษโลหะ … แต่ตอนนี้ฉันทำมันแทน.” อิบราฮิม ต้องทำงานระหว่าง 6 ถึง 12 ชั่วโมงต่อวันเพื่อแลกกับเงิน 20 เชเขล ($ 5) เพื่อดูแลสมาชิกเก้าของครอบครัวของเขา
Mahmoud Rabee วัย 13 ปี พ่อและสมาชิกในครอบครัวอีก 2 คนของเขาถูกฆ่าตายจากการโจมตีของทหารอิสราเอลทหารในฉนวนกาซา เขาบอกกับ AFP ว่าเขามีรายได้น้อยกว่า 15 เชเขล ($ 3) จากการขายอุปกรณ์ทำผม “ผมซื้อสินค้าจากผู้ค้าส่ง มาวางขายบนรถเข็นคันเล็กของฉัน และไปขายมันที่สวนสาธารณะและชายหาด” เขาอธิบาย “บางครั้งพวกเขาไม่ได้ซื้ออะไรที่ผมขาย แต่เขาให้บางอย่างเพื่อช่วยเหลือผมเพราะเขารู้ว่าผมเป็นเด็กกำพร้า”
แม้ว่ากฎหมายปาเลสไตน์ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 15 จากการทำงานตามการเปิดเผยของ Iyad Abu-Hujayr จากศูนย์ปาเลสไตน์เพื่อประชาธิปไตยและความขัดแย้ง “มันไม่ค่อยถูกนำไปใช้”
หลายพันของเด็กในฉนวนกาซาเป็นกำพร้าจากการโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลังจากที่อิสราเอลรุกรานปาเลสไตน์ในปี 2014 สหประชาชาติคาดว่ามีเด็ก 900,000 คนในฉนวนกาซาได้รับการบอบช้ำจากความรุนแรงและอยู่ในความต้องการการดูแลด้านจิตใจและด้านสังคม
