ทารกเกิดก่อนกำหนดอย่างน้อย 11 รายเสียชีวิตในเหตุเพลิงไหม้ที่ปะทุขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดวันพุธ (10 สิงหาคม) ที่แผนกดูแลแม่และเด็กในโรงพยาบาลกรุงแบกแดด ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากไฟฟ้าลัดวงจร ตามการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุข
ทารกอีก 7 คนและผู้หญิง 29 คนถูกช่วยออกจากแผนกดูแลแม่และเด็กของโรงพยาบาลยาร์มุกและถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง กระทรวงระบุในถ้อยแถลง
นักดับเพลิงใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงในการดับเพลิงที่ปกคลุมแผนกนี้ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์รายหนึ่งระบุ ยามุกเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในฝั่งตะวันตกของกรุงแบกแดดซึ่งที่ตั้งของสถานพยาบาลฉุกเฉินและโรงเรียนหลายแห่ง
เหตุการณ์นี้มีแนวโน้มที่จะทำให้ข้อกล่าวหาของสาธารณะชนเรื่องการคอร์รัปชั่นและการบริหารจัดหารที่ผิดพลาดของรัฐรุนแรงขึ้น
ภาพที่ถูกโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์เผยให้เห็นว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ในสภาพที่ถูกละเลย โดยมีแมลงสายไต่ออกมาจากรอยร้าวของกระเบื้อง ขยะที่ล้นถัง ห้องน้ำที่สกปรก และผู้ป่วยนอนบนเปลหามในลานตึก
ญาติของผู้ป่วยซึ่งเพิ่งเสียชีวิตเมื่อเร็วๆ นี้ในโรงพยาบาลแห่งนี้จากโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบกล่าวว่า เขาเห็นแมลงสาบไต่สายหน้ากากออกซิเจน
“มันสกปรกมากๆ เราต้องเอาผ้าปูที่นอนของเรามาเอง” เขากล่าว
หลังจากการรุกรานที่นำโดยสหรัฐฯเพื่อโค่นล้ม ซัดดัม ฮุสเซน ผ่านไป 13 ปี ประเทศมั่งคั่งน้ำมันแห่งนี้ยังคงเผชิญกับภาวะขาดแคลนไฟฟ้า น้ำ โรงเรียน และโรงพยาบาล
นายกรัฐมนตรี ไฮเดอร์ อัล-อบาดี พยายามมาเป็นเวลากว่า 2 ปีที่จะจัดการกับการคอร์รัปชั่นในอิรักซึ่งถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 161 จาก 168 อันดับของดัชนีการคอร์รัปชั่นขององค์การเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ แต่เผชิญกับแรงต่อต้านจากชนชั้นนำทางการเมืองที่ปัจจุบันคุมอำนาจโดยกลุ่มชีอะห์จำนวนมาก
